
ครม.อนุมัติแล้วงบกลาง 190.43 ล้านบาท อุดรถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี ที่เหลือใช้รายได้จากรัฐวิสาหกิจอุด ‘คมนาคม’ โชว์ตัวเลขมีคนใช้ระบบเพิ่ม 5 ล้านคนตลอด 7 วันช่วงมาตรการ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมและกรุงเทพมหานคร (กทม.) ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 190.43 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามมาตรการลดผลกระทบฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ระยะวิกฤต ระหว่างวันที่ 25 – 31 มกราคม 2568 ตามปริมาณผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อ
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รายงานว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 20 – 24 มกราคม 2568 ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ทวีความรุนแรงมากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน กระทรวงคมนาคมจึงเห็นว่าจำเป็นต้องมีมาตรการเสริมเพิ่มเติมเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองดังกล่าวลงทันทีและกลับมาอยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะและลดจำนวนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล รวมทั้งกวดขันมาตรการอื่น ๆ ดังนี้
1.มาตรการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนบุคคลในช่วงเวลาวิกฤติ จากข้อมูลของกรุงเทพมหานครพบว่า แหล่งกำเนิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพมหานครมาจากรถยนต์ส่วนบุคคลที่เป็นรถยนต์สันดาปภายในถึงร้อยละ 65 ดังนั้น จึงจำเป็นต้องลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล โดยการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ คค. กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน จึงได้ร่วมกันดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้ใช้การยกเว้นค่าบริการ เป็นแรงจูงใจให้ประชาชนงดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะระยะเวลาดำเนินมาตรการ 7 วัน ตั้งแต่วันที่25 - 31 มกราคม 2568 ประกอบด้วย
1.1 การยกเว้นค่าบริการรถโดยสารสาธารณะของ ขสมก. ประกอบด้วย รถโดยสารธรรมดา จำนวน 1,520 คัน และรถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 1,364 คัน

@เวลาปกติคนขึ้นรถไฟฟ้า-รถเมล์ขสมก.รวม 14 ล้านคน ช่วงมาตรการคนพุ่ง 19 ล้านคน
1.2 การยกเว้นค่าบริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนของโครงการรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) สายนัคราพิพัฒน์ (สายสีเหลือง) และสายสีชมพู รถไฟชานเมืองสายนครวิถีและธานีรัถยา (สายสีแดง) และรถไฟฟ้าและรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตเรลลิ้งก์) ซึ่งคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยได้มีมติอนุมัติแล้ว รวมทั้งรถไฟฟ้าระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS) และรถไฟฟ้าสายสีทองด้วย
โดยมีสถิติปริมาณผู้โดยสารและรายได้เฉลี่ยต่อวันย้อนหลัง 7 วัน (ระหว่างวันที่ 17-23 มกราคม 2568) ที่เกิดขึ้นจริง สรุปได้ ดังนี้
1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ผู้โดยสารเฉลี่ย/วัน 455,270 คน คิดเป็นรายได้/วัน 13.54 ล้านบาท รวมรายได้ทั้ง 7 วัน 94.78 ล้านบาท
2) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ผู้โดยสารเฉลี่ย/วัน 70,444 คน คิดเป็นรายได้/วัน 1.03 ล้านบาท รวมรายได้ 7 วัน 7.21 ล้านบาท
3) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ผู้โดยสารเฉลี่ย/วัน 42,227 คน คิดเป็นรายได้/วัน 1.33 ล้านบาท รวมรายได้ 7 วัน 9.31 ล้านบาท
4) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ผู้โดยสารเฉลี่ย/วัน 58,485 คน คิดเป็นรายได้/วัน 1.91 ล้านบาท รวมรายได้ 7 วัน 13.37 ล้านบาท
5) รถไฟชานเมืองสายสายสีแดง ผู้โดยสารเฉลี่ย/วัน 35,845 คน คิดเป็นรายได้/วัน 0.70 ล้านบาท รวมรายได้ 7 วัน 4.90 ล้านบาท
6) โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ ผู้โดยสารเฉลี่ย/วัน 71,040 คน คิดเป็นรายได้/วัน 2.09 ล้านบาท รวมรายได้ 7 วัน 14.63 ล้านบาท
7) รถไฟฟ้าสายสีเขียว ผู้โดยสารเฉลี่ย/วัน 752,880 คน คิดเป็นรายได้/วัน 19.01 ล้านบาท รวมรายได้ 7 วัน 133.07 ล้านบาท
8) รถไฟฟ้าสายสีทอง ผู้โดยสารเฉลี่ย/วัน 7,168 คน คิดเป็นรายได้/วัน 0.11 ล้านบาท รวมรายได้ 7 วัน 0.77 ล้านบาท
9) รถโดยสารสาธารณะ (ขสมก.) แบ่งเป็นรถธรรมดา ผู้โดยสารเฉลี่ย/วัน 261,123 คน คิดเป็นรายได้/วัน 2.09 ล้านบาท รวมรายได้ 7 วัน 14.60 ล้านบาท และรถโดยสารปรับอากาศ ผู้โดยสารเฉลี่ย/วัน 264,709 คน คิดเป็นรายได้/วัน 5.30 ล้านบาท รวมรายได้ 7 วัน 37.09 ล้านบาท
รวมทั้งหมดจะมีผู้โดยสารรวม 2,019,191 คน รวม 7 วันผู้โดยสารอยู่ที่ 14,134,337 คน คิดเป็นรายได้/วัน 47.11 ล้านบาท รวมรายได้ 7 วัน 329.73 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อมีการดำเนินมาตรการแล้วพบว่า ผู้โดยสารรวม 7 วันจาก 14,134,337 คน เพิ่มเป็น 19,514,081 คน เท่ากับมีคนใช้บริการเพิ่ม 5,379,744 คน และมีรถหายไปจากท้องถนนทั้งนทางด่วนและถนนปกติ 59,643 คัน
อย่างไรก็ตาม มาตรการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนบุคคลในช่วงเวลาวิกฤติ เป็นการยกเว้นค่าใช้บริการระบบรถไฟฟ้าและรถโดยสารประจำทางให้ประชาชนทั้งหมดตามปริมาณผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริง มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 329.73 ล้านบาท โดยมีแหล่งที่มาจาก (1) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 190.43 ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณ (สงป.) แจ้งว่านายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบการขอรับจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อดำเนินมาตรการลดผลกระทบฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ระยะวิกฤติ ระหว่างวันที่ 25-31 มกราคม 2568 ของ คค. วงเงิน 190.43 ล้านบาท แล้วด้วย
และ (2) รายได้ของรัฐวิสาหกิจจำนวน 139.30 ล้านบาท


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา