รังสิมันต์ โรม สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ ฯ สภาผู้แทนราษฎร ชี้ สภาเกาหลีใต้คว่ำประกาศกฎอัยการศึก เป็นสัญญาดี เทียบ ประชาธิปไตยไทย ‘รัฐประหารครั้งสุดท้ายคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย’ เรียกร้อง ‘กองทัพอยู่ใต้พลเรือน’
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีเกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึกว่า เป็นเรื่องภายใน แต่ทุกคนกังวลว่า สุดท้ายแล้วเราจะเห็นการรัฐประหาร ยึดอำนาจตัวเองของเกาหลีใต้หรือไม่ ถ้าเกิดขึ้น เป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจจะทำให้เกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ อาจจะทำให้สถานการณ์โลกเลวร้ายลงไป ตนมีเจตจำนงสนับสนุนประชาธิปไตย อยากให้เกาหลีใต้มีประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง เป็นฐานให้กับประเทศอื่นต่อไป
“ไม่ใช่เป็นการแทรกแซงในเรื่องกิจการภายในของประเทศใด แต่ผมเชื่อว่ากระบวนการประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ไม่ว่าประเทศใดก็แล้วแต่ จะส่งผลต่อประเทศอื่นที่ต้องการสร้างประชาธิปไตยให้มีความเข้มแข็งเช่นเดียวกัน ซึ่งการที่สภาโหวตคว่ำกฎอัยการศึกและประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศยุติ เป็นทิศทางที่ดี และทำให้ทั่วโลกเห็นว่า สภาสามารถยุติการใช้อำนาจของประธานาธิบดีได้ เห็นบทบาทความเข้มแข็งของสภา เป็นโอกาสที่ดีที่จะเอามาทบทวนกลไกลภายในประเทศไทย ต้องยอมรับความจริงว่าประเทศไทยมีการรัฐประหารบ่อยครั้ง และเราก็ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปจะมีหรือไม่ ผมหวังว่าจะไม่มี”นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนกังวลว่า การใช้กฎอัยการศึกของเกาหลีใต้ คล้ายกับเหตุการณ์ของประเทศไทยที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ต้องยอมรับว่าความเข้มแข็งของฝ่ายการเมือง การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อมีการรัฐประหารเกิดขึ้น ทุกคนพร้อมใจที่จะปฏิบัติตาม เชื่อฟังสิ่งที่คณะรัฐประหารกำหนด โอกาสที่จะเห็นการรัฐประหารครั้งสุดท้ายคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
“เราควรระลึกได้แล้วว่า ปัญหาการรัฐประหาร การที่ฝ่ายกองทัพจะมาอยู่เหนืออำนาจของประชาชนควรจะพอได้แล้ว หลักการสำคัญสากล กองทัพต้องอยู่ใต้พลเรือนอย่างแท้จริง”นายรังสิมันต์กล่าว