ครม.เห็นชอบ ‘ร่างกฎกระทรวงฯจดทะเบียนเลิกภาระในอสังหาริมทรัพย์ฯ’ เปิดทาง ‘เจ้าของอสังหาฯ’ ยื่นเลิกภาระใน ‘อสังหาฯ’ หากมิได้ตามวัตถุประสงค์ภายใน 10 ปี เพื่อนำกลับไปใช้ประโยชน์ได้
........................................
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขอให้จดทะเบียนเลิกภาระในอสังหาริมทรัพย์และการเรียกคืนเงินค่าทดแทนจากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงการขอให้จดทะเบียนเลิกภาระในอสังหาริมทรัพย์และการเรียกคืนเงินค่าทดแทนจากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. .... ดังกล่าว เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอให้จดทะเบียนเลิกภาระในอสังหาริมทรัพย์ (จำเป็นต้องใช้อสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่จำเป็นต้องเวนคืน) และการเรียกคืนเงินค่าทดแทนจากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ขอจดทะเบียนเลิกภาระในอสังหาริมทรัพย์
ในกรณีการจดทะเบียนกำหนดลักษณะภาระในอสังหาริมทรัพย์แบบไม่มีกำหนดเวลาถาวร (เช่น การก่อสร้างอุโมงค์) แต่มิได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ภายในกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียน เจ้าของอสังหาริมทรัพย์มีสิทธิขอให้จดทะเบียนเลิกภาระในอสังหาริมทรัพย์นั้นได้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์จากกฎหมายและสามารถกลับไปใช้ประโยชน์ในที่ดินของตนเองได้ดังเดิม
ส่วนกรณีการจดทะเบียนกำหนดลักษณะภาระในอสังหาริมทรัพย์แบบมีกำหนดเวลา เช่น ใช้สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ขนาดใหญ่ในการก่อสร้าง เมื่อการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินการใช้ประโยชน์ในที่ดินเสร็จแล้วจะดำเนินการส่งคืนให้แก่เจ้าของที่ดิน
นายคารม กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.มติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ ทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2565 เรื่อง ขออนุมัติปรับเพิ่มราคากลางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เพื่อขออนุมัติปรับเพิ่มราคากลางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เพิ่มขึ้นถุงหรือกล่องละ 0.46 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การปรับราคากลางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนดังกล่าว ส่งผลให้นมโรงเรียนชนิดพาสเจอร์ไรส์ มีราคากลาง 7.35 บาท/ถุง จากเดิม 6.89 บาท/ถุง และนมโรงเรียนชนิด ยู เอช ที ราคากลางอยู่ที่ 8.59 บาท/กล่อง จากเดิม 8.13 บาท/กล่อง