‘พีระพันธุ์’ เผยรัฐบาลตรึงราคาค่าไฟฟ้า 4.18 บาท/หน่วย 4 เดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ ส่วนราคาน้ำมันตรึงดีเซล 33 บาท/ลิตร ยันยังไม่ทิ้งการแก้กฎหมายปรับโครงสร้างราคาพลังงาน อยู่ระหว่างตรวจทาน จ่อรายงานนายกฯ เสนอเข้าสภาฯต่อไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 19 ก.ค. 2567 นายพีระพันธ์ุ สารีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้สัมภาษณ์ว่า ข่าวลือที่ออกมาว่ารัฐบาลจะขึ้นค่าไฟนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเดินทางไปประชุมกระทรวงพลังงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบียจึงไม่ได้อยู่ชี้แจงข้อเท็จจริง อาจทำให้ข้อมูลสับสนแต่เป็นเรื่องปกติทุกครั้งที่มีการปรับค่าไฟก็จะมีข่าวทางลบออกมาก่อนเสมอ ตรงนี้จึงเป็นเรื่องที่ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.และรัฐบาลกระทรวงพลังงานที่จะต้องมีการหารือร่วมกันทุกครั้ง
@ตรึงค่าไฟ 4.18 บ./หน่วย ก.ย.-ธ.ค.67
เมื่อเดินทางกลับมาแล้ว แม้ได้ให้แนวทางไว้แล้ว แต่เนื่องจากไม่อยู่ จึงไม่ได้ประชุมหารือกัน ในวันนี้จึงได้เชิญประธานคณะกรรมการกพค.ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและบมจ.ปตท. มาหารือร่วมกันแล้ว และได้ข้อยุติที่จะตรึงค่าไฟไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วยตามเดิมในงวดต่อไป (ก.ย.-ธ.ค.67) ซึ่งต้องขอขอบคุณการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่สามารถบริหารจัดการภายในขององค์กรที่จะช่วยเหลือประชาชนซึ่งต้องให้เครดิตทั้งการไฟฟ้าและ ทางปตท.ที่ไม่รับเงินค่าตอบแทนใดๆจากค่าไฟฟ้าในงวดนี้เลยเพื่อจะช่วยพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ขอประชาชนเข้าใจในเรื่องค่าไฟและค่าน้ำมันต่าง ๆ ไม่ได้อยู่ที่กระทรวงพลังงานกระทรวงเดียว แต่ก็พยายามประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่จะต้องนำเงินส่งคลังตามหลักเกณฑ์แต่เมื่อให้ลดราคาค่าไฟตรึงไว้ที่ราคาเดิม แปลว่ารายได้ก็ต่ำลง แต่ยังต้องส่งเงินเข้าคลังตามเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องแก้ไขด้วย ไม่ใช่แค่ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตช่วยรับภาระหน่วยงานเดียวแต่ส่วนอื่นไม่มาช่วยเลย ตนจึงคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องปรับปรุง
@ตรึงดีเซล 33 บาท/ลิตร
ส่วนราคาน้ำมันกระทรวงพลังงานก็พยายามตรึงไว้ที่ราคาเดิมแต่ที่เคยพูดไว้ว่ากองทุนพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้เป็นกลไกหลักมานานมากสำหรับการดูแลเรื่องราคาน้ำมันให้พี่น้องประชาชน ซึ่งนับวันก็เป็นภาระหนี้สินมากขึ้นและโดยเฉพาะตามหลักเกณฑ์ที่ออกมาใหม่ทำให้อำนาจของกองทุนน้ำมันหายไปส่วนหนึ่ง คืออำนาจการกำหนดเพดานภาษี โดยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่พี่น้องประชาชนจ่ายหน้าปั๊มน้ำมันประกอบด้วย 2 ส่วนส่วนแรกเป็นราคาเนื้อน้ำมันแท้ๆ อีกส่วนหนึ่งเป็นส่วนของภาครัฐ คือภาษี เพราะฉะนั้นการจะปรับลดราคาน้ำมันลงมาได้ไม่ใช่แค่เนื้อน้ำมันแต่ต้องปรับลดภาษีด้วย แต่เดิมอำนาจการกำหนดเพดานภาษีสรรพสามิตตัวนี้เป็นอำนาจของกองทุนน้ำมัน แต่ปัจจุบันถูกตัดออกเลยเป็นภาระที่จะนำเงินจากกองทุนไปใช้อย่างเดียว ดังนั้นกฎหมายตัวนี้จึงต้องปรับปรุงและเป็นสิ่งที่ตนดำเนินการอยู่
"เพราะฉะนั้นในส่วนนี้สิ่งที่กระทรวงพลังงานจะเร่งดำเนินการและพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลกลุ่มนี้ไว้ให้ได้ที่ประมาณ 33 บาทต่อลิตรก็จะต้องให้หน่วยงานอื่นช่วยกันเช่นเดิมแต่ก็อยู่ที่ความร่วมมือของส่วนราชการอื่นด้วยแต่ในส่วนของกระทรวงพลังงานจะทำเต็มที่" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานระบุ
นายพีระพันธ์ุ ย้ำว่าข่าวลือก็เกิดออกมาทุกครั้งจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ก็พยายามทำให้เกิดข่าวลบทำให้ประชาชนตกใจหรือเข้าใจผิดไว้ก่อนทุกครั้ง สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกันทำความเข้าใจ ไม่ใช่ได้ข่าวอะไรมาก็ประโคมข่าวกันไปก่อนให้ประชาชนแตกตื่นตกใจกันไป สุดท้ายก็ไม่ใช่ ครั้งที่แล้วก็เกิดขึ้น 1 รอบแล้ว ที่ว่าจะขึ้นค่าไฟ 4.58 บาทต่อหน่วยซึ่งก็ไม่ใช่ความจริงแต่ก็เขียนกันไปคราวนี้ก็มาอีก
ส่วนจะตรึงไว้ได้นานแค่ไหนแนวโน้มจะขึ้นเมื่อไหร่นั้น นายพีระพันธ์ุ กล่าวว่า ราคาไฟฟ้าจะมีการปรับทุก 4 เดือนตามค่า FT มาจากการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายแก๊สเฉลี่ย 4 เดือนครั้งมีการปรับขึ้นปรับลง ในส่วนของหนี้สินกองทุนน้ำมันไม่ใช่เป็นภาระความรับผิดชอบแค่กระทรวงพลังงานเท่านั้นแต่รัฐบาลทั้งหมดก็ต้องคิดว่าจะช่วยกันอย่างไร
@แถลงไข น้ำมันมาเลย์ถูก เพราะรบ.อุดหนุน 4 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ นายพีระพันธ์ุ ยังอธิบายว่า เนื่องจากมีคนถามตนเองมาตลอดว่าทำไมราคาน้ำมันดีเซลมาเลเซียถูกกว่าเมืองไทยตั้งเยอะ นั้น เป็นเพราะว่ารัฐบาลของมาเลเซียเอาเงินงบประมาณมาช่วยดูแลเหมือนกองทุนน้ำมันต่อปีเกือบ 4 แสนล้านบาท ของประเทศเรามีหรือไม่ ซึ่งสุดท้ายวันนี้การใช้เงินมาพยุงราคาแบบนี้ก็ไปได้ไม่นาน ปัจจุบันมาเลเซียก็ไปไม่ไหวแล้ว และมีการยกเลิกทำให้ราคาก็ขึ้นมาพรวดเดียวกว่า 10 บาท ตอนนี้ราคาต่อลิตรก็เกือบ 30 บาทแล้วเช่นกัน ไม่ต่างกับของประเทศเรา และมาเลเซียมีแหล่งน้ำมันของตัวเอง แต่ของเราไม่มี ประเทศมาเลเซียจึงมีรายได้จากน้ำมันเป็นของตัวเองมากกว่าไทย จึงมีเงินพอที่จะมาช่วยเหลือประชาชนของประเทศเขา ขณะเดียวกันวันนี้ก็ไปไม่ไหวแล้วจึงบอกว่าการใช้เงินมาช่วยดูแลในที่สุดมันไปไม่ได้ต้องมาคิดรูปแบบใหม่
ส่วนกฎหมายที่ร่างอยู่เพื่อจะ "รื้อลดปลดสร้างระบบราคาพลังงาน" ของไทยนั้น นายพีระพันธ์ุ ยืนยันว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จแล้วกำลังทบทวนความถูกต้องอยู่และจะให้คณะทำงานดูอีก 1 รอบใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และนำเข้าหารือต่อนายกรัฐมนตรีเพราะอยู่ในชั้นระดับกระทรวง ก่อนเสนอเข้าสภาต่อไป