ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระครูวศินปริยัตยากร วัดไก่เตี้ย กรุงเทพมหานคร เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ นาม พระปริยัติวัชราทร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ระบุว่า
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระครูวศินปริยัตยากร วัดไก่เตี้ย กรุงเทพมหานคร เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ มีนามว่า พระปริยัติวัชราทร
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567
ประกาศ ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 พุทธศักราช 2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน
ดูประกาศในลิงก์ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/37411.pdf
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประวัติของพระปริยัติวัชราทร นามเดิมชื่อ สมภูมิ นามสกุล ร่มโพธิ์ทอง เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มี.ค.2513 ณ บ้านสาลี ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เป็นบุตรชายคนโตของพี่น้อง 4 คน เมื่ออายุได้ 7 ขวบ สนใจศึกษาอ่านเขียนและท่องมนตรากับคุณตาฆราวาสจอมขมังเวทยุคเก่า ได้รับสืบทอดวิชาอาคมและมนต์มหาเสน่ห์จากคุณตามาเต็มสูตร
เมื่อบวชเป็นพระภิกษุสอบได้นักธรรมชั้นเอกและเปรียญธรรม 3 ประโยค และฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อสิงห์โต ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อช่อง กรรมฐานสายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา จากนั้นได้เดินธุดงค์เข้าไปในประเทศกัมพูชาแถบพระตะบองและเมืองเสียมเรียบ ศึกษาคาถาอาคมกับพระอาจารย์ชาวเขมร เรียนวิชาพญาไก่เถื่อนเรียกทรัพย์ เมตตามหานิยมโชคลาภ มีโอกาสไปเรียนวิชา “นะหน้าขุนแผน” ลงแป้งเสกแป้งวิเศษกับพ่อครูเฒ่าชาวมอญ จ.กาญจนบุรี โดยให้สัจจะว่าจะไม่เรียกพานครู (เงินทอง) จากใครทั้งสิ้น พร้อมช่วยเหลือทุกคนที่เข้ามาพึ่งใบบุญ และกลายเป็นต้นตำรับ “นะหน้าขุนแผน” อันลือลั่น เพราะสืบสานวิชาสายรามัญ (มอญ) แต่เพียงรูปเดียว
ที่มาภาพปก: Facebook พัดยศ สมณศักดิ์พระสงฆ์ไทย