รมว.อว. สั่งให้ปลัดกระทรวงฯตรวจสอบข้อเท็จจริง ประเด็นซื้อขายวุฒิการศึกษา ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หากพบมีความผิด ฟันไม่เลี้ยง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากกรณี มีผู้เสียหาย อายุ 42 ปี แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร ว่าได้ไปร้องทุกข์ต่อมูลนิธิแห่งหนึ่งเพื่อให้ขอช่วยเหลือด้านคดีที่ถูกสามีทำร้ายร่างกาย และฮุบสมบัติ พร้อมปรึกษาว่าอยากจะมีตัวตนให้สามีรู้สึกเกรงขาม จึงปรึกษากับมูลนิธิดังกล่าว โดยประธานมูลนิธิเสนอว่าให้ซื้อวุฒิการศึกษาจากมหาวิทยาลัย แล้วไปยื่นสมัครหรือซื้อตำแหน่งที่รัฐสภา ทำให้หลงเชื่อและโอนเงินเมื่อปลายปี 2566 และแจ้งว่าจะได้วุฒิในเดือน ก.พ. 2567 แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ เมื่อสอบถามก็บ่ายเบี่ยงว่า อธิการบดีไม่สามารถทำได้
นอกจากนี้ คนในมูลนิธิอีกคนหนึ่งพบว่ามีปัญหาเรื่องเงิน การขอเงินต่างๆ เลยเอะใจว่าน่าจะโดนหลอก เพราะเงินที่รับไป 150,000 บาท แต่รับเงินจากตนเองไป 200,000 บาท หมายถึงว่าเขามีค่าส่วนต่าง จึงได้มาแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานไว้ว่าโดนหลอกลวง กระทั่งกลายเป็นข่าวดัง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2567 น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะโฆษกกระทรวง อว. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นว่ามีประชาชนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดสกลนคร กล่าวหาประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง หลอกเอาเงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อไปซื้อปริญญาจากมหาวิทยาลัยเอกชน พร้อมปรากฏภาพใบเสร็จรับเงินจากมหาวิทยาลัยแห่งนั้น ถือเป็นการกระทบต่อความเชื่อมั่นในการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
น.ส.สุชาดา กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้สั่งการให้ปลัดกระทรวง อว. เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานความคืบหน้าให้ทราบโดยเร็ว เพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
“รมว.อว. ต้องการดูแลเรื่องธรรมาภิบาลและการบริหารของระบบอุดมศึกษาให้มีมาตรฐาน หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็พร้อมจะสั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป” น.ส.สุชาดา กล่าว