‘อดีตรมว.สาธารณสุข-อนุทิน’ ไม่ก้าวก่าย ‘สมศักดิ์’ ดันกัญชากลับบัญชียาเสพติด แต่ระบุการปลดล็อคกัญชานำออกจากยาเสพติด คือการคืนสิทธิในการเข้าถึงให้ประชาชน การนำกลับคืนการริดรอนสิทธิ์ ก่อนแนะนำประชาชนเลือกตัวแทนเข้ามาเพื่อทำงานและตัดสินใจแทน ไม่ควรโยนภาระการตัดสินใจในเรื่องที่ซับซ้อนทุกเรื่องกลับไปที่ประชาชน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 มิถุนายน 2567 จากกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะรับฟังความเห็นเรื่องประกาศกฎกระทรวงไปแล้วว่าให้กัญชาบางส่วนเป็นยาเสพติด โดยให้ใช้ทางการแพทย์ และเศรษฐกิจสุขภาพ ทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์แผนไทย แต่จะเปิดโอกาสให้ทำได้ ด้วยการขออนุญาต เช่น สถานบำบัด แต่ต้องมีแพทย์ หรือแพทย์แผนไทยควบคุม จากนี้จะออกกฎกระทรวงตามมาอีก ซึ่งต้องมีทั้งหมด 3 เรื่อง คือ ประกาศเป็นยาเสพติด, กฎกระทรวงวิธีใช้ และการอนุญาตนั้น
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งตนเคารพและไม่ขอก้าวก่าย แต่อยากจะพูดในเชิงหลักการว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นเรื่องใดๆนั้นเป็นกระบวนการที่ทำได้และสำคัญสำหรับวัฒนธรรมประชาธิปไตย แต่ในเรื่องที่มีรายละเอียดซับซ้อนโดยเฉพาะเรื่องที่เป็นวิทยาศาสตร์ก็ต้องเข้าใจว่าผู้ให้ความเห็นบางครั้งอาจไม่มีเวลาศึกษาหรือมีช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลอย่างครบถ้วนก่อนออกความเห็น ความเห็นนั้นจึงควรถูกรับฟังแต่ไม่ควรถือเป็นปัจจัยทั้งหมดในการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ต้องรอบคอบรอบด้าน
“การปลดล็อคพืชสมุนไพรกัญชานำออกจากความเป็นยาเสพติด คือการคืนสิทธิในการเข้าถึงให้ประชาชน แล้วกำกับควบคุมการใช้งานด้วยกฎหมาย แต่การนำกลับเป็นยาเสพติดคือการริบสิทธิ์นั้นทั้งหมด แล้วค่อยๆออกประกาศให้บางคนขออนุญาตเข้าถึงได้ โอกาสในการใช้ประโยชน์จะต่างกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดลึกซึ้งและต้องพิจารณากันหลายมิติ” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและอดีตรมว.สาธารณสุขกล่าว
นายอนุทินทิ้งท้ายว่า ประชาชนเลือกตัวแทนเข้ามาเป็นรัฐบาลเพื่อทำงานและตัดสินใจแทนในเรื่องที่ซับซ้อนให้โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ เราจึงไม่สามารถโยนภาระการตัดสินใจในเรื่องที่ซับซ้อนทุกเรื่องกลับไปที่ประชาชน ซึ่งตนเชื่อว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็เข้าใจหลักการเหล่านี้ดี