ครม.อนุมัติพ.ร.ฎ.เวนคืนสายสีเหลือง ด้าน รฟม. แจงเป็นการต่ออายุพ.ร.ฎ.เดิม เนื่องจากยังจ่ายผู้ที่ยังไม่ได้รับค่าเวนคืนอีก 30 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 18 เมษายน 2567 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ในท้องที่เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมเสนอว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว - สำโรง) ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามพระราชกฤษฎีกาเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดย โดย รฟม. ได้ส่งมอบที่ดินที่ถูกเขตทางทั้งหมดในโครงการรถไฟฟ้าสายสีหลืองฯ เพื่อใช้ในการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว แต่มีที่ดินของเอกชนที่ถูกเวนคืน และ รฟม. ได้วางเงินค่าทดแทนแก่เจ้าของที่ดินแล้วแต่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 33 แปลง รฟม. จึงมีความจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 เพื่อให้กรรมสิทธิ์ตกเป็นของ รฟม.
ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ เป็นการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ในท้องที่เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ โดยให้ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชบัญญัตินี้ และให้เจ้าหน้าที่เวนคืนเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืนภายในระยะเวลา 4 ปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้บังคับใช้
ด้านแหล่งข่าวจากรฟม.กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา การออก พ.ร.ฎ.เวนคืนดังกล่าว เนื่องจากพ.ร.ฎ.เดิมหมดอายุ และยังเหลือจำนวนผู้ที่ยังไม่มารับเงินเวนคืนอีก 30 ราย จึงจำเป็นต่ออายุ พ.ร.ฎ.เวนคืน เพื่อจัดการเรื่องการเวนคืนให้เสร็จสิ้น