‘ศาลปกครองสูงสุด’ นัด 31 ม.ค.นี้ ชี้ขาดคดี ‘สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน-พวก’ ยื่นฟ้อง ‘กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ’ กรณีอนุญาตให้ผู้ประกอบการ 'สำรวจ-ขุดเจาะปิโตรเลียม' ในอ่าวไทย โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากประชาชนที่อาศัยในพื้นที่
....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 1785/2553 คดีหมายเลขแดงที่ 962/2558 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 309 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่ 1 กับพวกรวม 5 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
คดีนี้ ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่ 1 กับพวกรวม 5 คน อนุญาตให้ผู้ประกอบการดำเนินการขุดเจาะ สำรวจ และผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ท้องทะเลอ่าวไทย โดยไม่ผ่านความเห็นชอบหรือการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เป็นผู้อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งผู้ฟ้องคดีกับพวกรวม 309 คน เห็นว่า ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งวิถีชีวิตของประชาชน กรณีจึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีกับพวกรวม 309 คน ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) โดยความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการเอกชนดำเนินการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมโครงการต่างๆ โดยมีการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) แล้ว
และโดยที่มาตรา 49 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 บัญญัติว่า ในกรณีที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการให้ความเห็นชอบ หรือกรณีที่ถือว่าคณะกรรมการผู้ชำนาญการให้ความเห็นชอบแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายสั่งอนุญาตแก่บุคคลซึ่งขออนุญาตได้ ประกอบกับตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 31 ส.ค.2553 มิได้กำหนดให้การขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเป็นประเภทหนึ่งของโครงการหรือกิจการที่อาจก่อผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง
ดังนั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 โดยความเห็นชอบจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 อนุญาตให้ดำเนินการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมตามฟ้อง จึงเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ กรณีจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ผู้ฟ้องคดี จึงยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด