เปิดแผนลงพื้นที่ ‘เศรษฐา’ พร้อมประชุม ครม.สัญจร จ.ระนอง พบดูพื้นที่ท่าเรือระนอง เยือนความคืบหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ ก่อนที่จะนำประชุม ครม.สัญจร วันที่ 23 ม.ค.นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 20 มกราคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) และเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 ณ จังหวัดระนอง ในระหว่างที่ 22 - 23 มกราคม 2567 นี้
โดยการลงพื้นที่จังหวัดระนองครั้งนี้ มีเป้าหมายในการตรวจราชการที่สำคัญหลายมิติ ทั้งเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคการประมง การติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
กำหนดการเบื้องต้น วันแรก (22 ม.ค.67) นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ติดตามโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง – เกาะสอง อำเภอเมืองระนอง และพูดคุยประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง ซึ่งท่าเรือระนอง - เกาะสอง ตำบลปากน้ำ เป็นจุดผ่านแดนที่ใช้รองรับการเดินทางระหว่างประเทศไทยและเมียนมา โดยเป็นท่าเรือข้ามฟาก ขนส่งและท่องเที่ยว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะรับฟังการบรรยายสรุปข้อมูลการพัฒนาท่าเรือระนอง - เกาะสอง ข้อมูลการค้าผ่านแดนระหว่าง 2 ประเทศ แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะพบปะประชาชนกลุ่มประมงและกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้ติดตามความคืบหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย – อันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ ณ อุทยานแห่งชาติแหลมสน อำเภอกระเปอร์ จังหวัดระนอง โครงการแลนด์บริดจ์เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคม โดยการเชื่อมโยง 2 ท่าเรือในฝั่งทะเลอันดามัน และฝั่งอ่าวไทยให้เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อำเภอเมืองระนอง ในรูปแบบการพัฒนาโครงการเป็นการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership : PPP) ซึ่งหากโครงการนี้แล้วเสร็จจะช่วยสร้างโอกาสการจ้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจจะมีแผนงานเร่งรัดพัฒนาศักยภาพทางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สามารถสร้างเม็ดเงินการลงทุน และการใช้จ่ายเข้าสู่ประเทศได้ด้วยความรวดเร็ว ตามศักยภาพของพื้นที่ต่างๆ
อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี จะเยี่ยมชมการบริหารจัดการบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน ณ บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน อำเภอเมืองระนอง ซึ่งมีบ่อน้ำแร่ร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดที่มีการชูอัตลักษณ์ชุมชน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างรายได้ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซี่งรัฐบาลจะผลักดันจังหวัดระนองสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำของโลก (Wellness City) ต่อยอดพัฒนาการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน สร้างจุดแข็ง นำรายได้เข้าประเทศ
ส่วนกำหนดการในวันอังคารที่ 23 มกราคม 2567 นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2567 ณ หอประชุมคอซู้เจียง ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง โดยจังหวัดระนองเตรียมนำเสนอโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง - เกาะสอง เพื่อการท่องเที่ยวและสัญจร เป็นโครงการปรับปรุงทางเข้าท่าเรือและปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร เนื่องจากท่าเรือดังกล่าว เป็นท่าเรือข้ามฟากระหว่างจังหวัดระนองกับจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา รวมทั้งเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) จากจังหวัดระนอง-จังหวัดพังงา และโครงการก่อสร้างถนนสายราชกรูด-หลังสวน (ทางหลวงหมายเลข 4006) ขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร จากอำเภอเมืองระนอง ไปยังจังหวัดพังงา เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองระนอง