ครม.อนุมัติกระทรวงยุติธรรม ขอผูกพันโครงการเกิน 1,000 ล้านบาทปี 67 วงเงิน 4,003 ล้านบาท พบเป็นการก่อสร้างเรือนจำใหม่ใน ‘อุตรดิตถ์-ยโสธร-ชัยนาท’
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 7 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2566 ได้อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมขอก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่า 1 ปีงบประมาณ สำหรับรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ในการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวน 3 โครงการ วงเงินทั้งสิ้น 5,004.197 ล้านบาท เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 1,000,835,900 บาท ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 - พ.ศ. 2569 จำนวน 4,003,343,300 บาท ตามนัยมาตรา 26 ของพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ 2561 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
1. โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,743,288,600 บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 348,657,800 บาท (ปัดเศษ) ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 - พ.ศ. 2569 จำนวน 1,394,630,800 บาท
2. โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดยโสธร พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,616,560,600 บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 323,312,200 บาท (ปัดเศษ) ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 - พ.ศ. 2569 จำนวน 1,293,248,400 บาท
3. โครงการก่อสร้างเรือนจำจังหวัดชัยนาท พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,644,330,00 บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 328,866,000 บาท ส่วนที่เหลือผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 - พ.ศ. 2569 จำนวน 1,315,464,000 บาท
ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรม แจ้งว่า การก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่จะช่วยให้เรือนจำทั้ง 3 แห่ง สามารถควบคุมและป้องกันการหลบหนีของผู้ต้องขังได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงจะช่วยให้เรือนจำมีสถานที่เอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในด้านต่าง ๆ ซึ่งทำให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปมีความรู้ความสามารถเลี้ยงดูตนเองด้วยอาชีพสุจริตได้ โดยไม่ก่อความเดือดร้อนแก่สังคม นอกจากนี้ ยังทำให้เรือนจำมีระบบกำจัดขยะมูลฝอยและน้ำเสีย ซึ่งไม่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อมเป็นพิษรบกวนชุมชนด้วย
ที่มาภาพปก: กระทรวงยุติธรรม