ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัด 7 พ.ย.นี้ สืบพยานคดีที่อดีตพระคม เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี พร้อมจำเลยอีก 8 คน ยักยอกเงินวัดไป 182 ล้านบาท เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกคน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 15 สิงหาคม 2566 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) ศาลนัดสอบคำให้การในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 125/2566 ที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ยื่นฟ้องนายวุฒิมาหรือพระมหาวุฒิมา เถาว์หมอ กับพวกรวม 9 คน
ในความผิด(เเต่ละรายพฤติการณ์ข้อหาต่างกัน) ฐานเป็น เจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริต หรือโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษา ทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอา ทรัพย์นั้นไปเสีย หรือ รับของโจร
@จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลนัดสอบคำให้การและกำหนดวันนัดพิจารณา โจทก์ จำเลยทั้งเก้า ทนายจำเลยที่ทั้ง9 มาศาล ศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยทั้ง 9ฟัง จำเลยทั้ง 9 ยืนยันให้การปฏิเสธ
เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการตรวจพยานหลักฐานและการพิจารณาคดี ศาลเห็นสมควร มอบหมายให้เจ้าพนักงานคดีดำเนินการตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยวิธีการดำเนินคดีทุจริต และประพฤติมิชอบ พ.ศ.2560 ข้อ 11 ให้เจ้าพนักงานคดีได้ดำเนินการตรวจสอบและรวบรวม พยานหลักฐาน และให้คู่ความมาศาลเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวร่วมกับเจ้าพนักงานคดี ให้นัด ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานคดีรวม 1 นัด ในวันที่ 25 ก.ย.66 เวลา 09.00 น. ตามที่คู่ความมีวันว่างตรงกัน โดยให้เจ้าพนักงานคดีช่วยควบคุมและแนะนำให้คู่ความ ดำเนินคดีนี้ให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายและคำสั่งศาล หากพบว่ามีข้อบกพร่องหรือขัดข้องเกี่ยวกับ กระบวนพิจารณาหรือการได้มาซึ่งพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างอิง ให้รายงานต่อศาลพร้อมด้วย แนวทางแก้ไขโดยเร็ว
เพื่อให้ศาลพิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควรให้คู่ความดำเนินการดังต่อไปนี้ก่อนวันนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าวไม่น้อยกว่า 7 วัน
1.ยื่นคำแถลงแนวทางการเสนอพยานหลักฐานในการไต่สวนต่อศาล รวมทั้ง ความเกี่ยวข้องกับประเด็นและความจำเป็นที่ต้องสืบพยานหลักฐานเช่นว่านั้น เพื่อพิสูจน์สนับสนุน ข้อเท็จจริงใดที่ยกขึ้นอ้างในแนวทางการไต่สวนนั้น พร้อมสำเนาแก่คู่ความอีกฝ่าย
2.ยื่นบัญชีระบุพยาน พร้อมคำแถลงวิธีการได้มาซึ่งพยาน และสำเนาแก่คู่ความอีกฝ่าย
3.ส่งพยานเอกสารหรือพยานวัตถุที่ประสงค์อ้างอิงและยังอยู่ในความครอบครอง ของตนต่อศาลเพื่อให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตรวจสอบ กรณีพยานเอกสารให้ส่งพร้อมสำเนาในจำนวน ที่เพียงพอต่อคู่ความฝ่ายอื่น
4.จัดทำสารบัญรายการพยานเอกสารหรือพยานวัตถุดังกล่าวตามข้อ 3 ตามลำดับ
5.กรณีคู่ความประสงค์อ้างอิงพยานเอกสารหรือพยานวัตถุที่อยู่ในความครอบครอง ของบุคคลภายนอกให้คู่ความตรวจสอบเอกสารที่มีอยู่ในสำนวนก่อน หากไม่มี ให้ขอศาลมีคำสั่งเรียก พยานหลักฐานนั้นจากผู้ครอบครอง
6.ยื่นคำแถลงเสนอแนวทางไต่สวนพยานบุคคลที่จะนำเข้าสืบพยานว่ามีจำนวน เท่าใด แต่ละปากเบิกความเพื่อพิสูจน์เกี่ยวกับข้อเท็จจริงใดโดยย่อ
กรณีที่คู่ความไม่มาในวันนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงาน คดีหรือไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลดังกล่าว ถือว่าคู่ความมีความพร้อมในการดำเนินกระบวนพิจารณา และไม่มีข้อขัดข้องใด ๆ ศาลจะพิจารณาตรวจพยานหลักฐานไปตามรูปคดีที่ปรากฏในสำนวนและ ตามรายงานของเจ้าพนักงานคดีต่อไป
เมื่อเจ้าพนักงานคดีและคู่ความร่วมกันดำเนินการตรวจสอบและ รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นในกำหนดนัดดำเนินการดังกล่าวแล้ว ให้คู่ความดำเนินการดังต่อไปนี้
1.ตรวจสอบพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่งและจัดทำคำแถลงยื่นต่อศาลว่ายอมรับ หรือโต้แย้งพยานหลักฐานดังกล่าว หากโต้แย้งให้แสดงเหตุแห่งการโต้แย้งโดยชัดแจ้ง มิฉะนั้นถือว่า ยอมรับพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่ง
2.ยื่นคำแถลงแนวทางการเสนอพยานหลักฐานในประเด็นที่ยังโต้แย้งกัน ทั้งพยาน วัตถุ พยานเอกสาร พยานบุคคลและหลักฐานอื่นที่คู่ความชี้ช่องประสงค์ให้ศาลกำหนดให้นำเข้าไต่สวน
@นัดตรวจพยาน 7 พ.ย. 66
โดยให้คู่ความจัดทำคำแถลงดังกล่าวข้างต้นยื่นต่อศาลก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐาน ไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อให้เจ้าพนักงานคดีตรวจสำนวน จัดทำสรุปย่อการกระทำความผิดของจำเลย ทั้ง9 ตามฟ้อง สรุปรายงานการพยานหลักฐานต่าง ๆ ของคู่ความ โดยระบุพยานหลักฐานที่คู่ความ ไม่โต้แย้งกันเพื่อความสะดวกในการที่ศาลจะสอบถามคู่ความและให้คู่ความรับข้อเท็จจริงหรือ พยานหลักฐานนั้นโดยไม่ต้องสืบพยาน สรุปประเด็นแห่งคดีที่คู่ความโต้แย้งกัน จำนวนพยานบุคคล และความเกี่ยวข้องกับประเด็น ความจำเป็นที่ต้องสืบพยานดังกล่าว และวิธีการได้มาซึ่งพยานหลักฐาน รวมทั้งจัดเรียงลำดับพยานบุคคลที่จะนำเข้าสืบก่อนหลังตามความประสงค์ของคู่ความ รายงานเสนอ ศาลก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐาน ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 7 พ.ย. 2566 เวลา 09.30 น.ตามที่คู่ความมีวันว่างตรงกัน หมายเบิกจําเลยที่ 1-4 ที่ 6และที่ 8มาในวันนัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับรายชื่อจำเลยทั้ง 9 คน ประกอบด้วยนาย คม หรือ อดีตพระอาจารย์คม อายุ 39 ปี ,นายวุฒิมา หรือพระหมอ อายุ 38 ปี และ 3. น.ส.จุฑาทิพย์ อายุ 35 ปี ,นายบุญส่ง หรืออดีตพระมหาบุญส่ง ผ่านภูวงษ์ อายุ 34 ปีนายบุณยศักดิ์ หรือไอซ์ ภัทรโกศล,นายบุญเหลือ หรือ พระบุญเหลือ โพธิ์ทอง อายุ 37 ปี,นายธนกฤต หรืออดีตพระธนกฤต ยศสุรินทร์ อายุ34ปี,นายบัณดิษฐ์ หรืออดีตพระบัณดิษฐ์ ย่อยชา อายุ 38ปี,นายณัฐพัชร์ หรืออดีตพระณัฐพัชร์ หรือเบนซ์ ตั้งใจสนอง อายุ35 ปี
ซึ่งกลุ่มจำเลยได้ร่วมกันเบียดบังเอาเงินของวัดป่าธรรมคีรีไปเป็นของ ตนเอง หรือของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นเหตุให้วัดป่าธรรมคีรี ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงินจำนวน 182,776,733 บาท
ที่มาภาพปก: กรมประชาสัมพันธ์
อ่านประกอบ
- จับอีก 6 คนร่วม ‘พระคม’ ยักยอกเงินวัด แฉโทรสั่งย้ายทรัพย์สินตอนโดนจับ
- อาจหลบหนี! ศาลไม่ให้ประกันตัว 'อดีตพระอาจารย์คม-พวก’ คดียักยอกเงินทำบุญกว่า 180 ล.
- ‘ผบก.ป.’เผย‘อดีตพระอาจารย์คม’ยอมรับ โอนเงินวัดฯเข้าบัญชี‘น้องสาว’จริง แต่ไม่มีเจตนาโกง
- บก.ป.-สอบสวนกลาง สนธิกำลังจับพระอาจารย์ วัดป่า ย่านปากช่อง ทุจริตเงินกว่า 180 ล้าน