กองปราบรวมอีก 6 ราย (พระ 5 คนขับรถ 1) ฐานสมรู้ร่วมคิด ‘พระคม’ ยักยอกเงินวัด เบื้องต้นให้การภาคเสธ ตำรวจแฉ พระคม โทรสั่งทั้ง 6 คนย้ายทรัพย์สินก่อนถูกรวบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) สั่งการ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมพระลูกวัดวัดป่าธรรมคีรี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน 5 รูป และ พนักงานขับรถของวัด อีก 1 คน ประกอบด้วย
1.นายบุญส่ง หรือ พระบุญส่ง ผ่านภูวงษ์ อายุ 34 ปี 2.นายบัณฑิต หรือ พระบัณฑิต ย่อยชา อายุ 42 ปี 3.นายณัฐพัช หรือ พระณัฐพัช ตั้งใจสนอง อายุ 36 ปี 4.นายบุญเหลือ หรือ พระบุญเหลือ โพธิ์ทอง อายุ 36 ปี 5.นายธนกฤต หรือพระธนกฤต ยศสุรินทร์ อายุ 34 ปี และ 6.นายบุญศักดิ์ ภัทรโกศล อายุ 45 ปี คนขับรถ
ตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต,เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต ,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ รับของโจร”
สำหรับการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 รายครั้งนี้ เป็นการขยายผลต่อเนื่องจากคดีการจับกุม นายคม คงแก้ว หรือ พระอาจารย์คม อภิวโร อายุ 39 ปี นาย วุฒิมา หรือพระหมอ เถาว์หมอ อายุ 38 ปี และ น.ส.จุฑาทิพย์ ภูบดีวโรชุพันธุ์อายุ 35 ปี ยักยอกเงินหรือทรัพย์สินของวัดไปเป็นของส่วนตัวจำนวนกว่า 300 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา
จนทราบว่านอกเหนือจากพระคม พระหมอ และ น.ส.จุฑาทิพย์ แล้ว ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระลูกวัด และ ฆราวาส หรือ คนใกล้ชิด หลังพบหลักฐานว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้ช่วยกันนำทรัพย์สินมีค่าจำพวก เงินสด สร้อยแหวน ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณที่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายทำบุญให้กับวัด ไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆภายในวัด ก่อนหน้าที่จะมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวขึ้น จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับและนำมาสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก 6 รายดังกล่าว
@ 6 ผู้ต้องสงสัยให้การภาคเสธ
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่า ร่วมกันนำทรัพย์สินมีค่าๆต่างของวัดไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆรอบวัดจริง แต่เป็นการทำตามคำสั่งของ อดีตพระคม ซึ่งตอนนั้นไม่ทราบว่าอดีตพระคมมีเจตนาใด แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังการสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆภายในวัด
เจ้าหน้าที่ได้พบเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับสถานที่ซุกซ่อนทรัพย์สินของวัดที่ถูกยักยอกไป ซึ่งส่วนใหญ่กระจายอยู่ในพื้นที่บริเวณโดยรอบของวัด อาทิ กุฎิ แทงค์น้ำ หรือ ใต้พื้นดิน จึงกระจายกำลังปูพรมตรวจสอบรอบพื้นที่วัดอย่างละเอียด ก่อนพบ ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ และ เงินสดอีกจำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติม
@ 6 บุคคลย้ายทรัพย์สิน เตรียมเผ่น
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังการจับกุมตัว นายคม คงแก้ว หรือ อดีตพระอาจารย์คม อภิวโร อายุ 39 ปี นาย วุฒิมา หรือ อดีตพระหมอ เถาว์หมอ อายุ 38 ปี และ น.ส.จุฑาทิพย์ ภูบดีวโรชุพันธุ์อายุ 35 ปี ร่วมกันยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี ไปจำนวน 180 กว่าล้านบาท ไปเมื่อวันที่ 6 พ.ค.แล้วนั้น ตำรวจกองปราบยังคงเร่งขยายผลต่อเนื่องจนทราบข้อมูลสำคัญจากการสอบปากคำนายวุฒิมา ว่าเคยนำเงินของวัดจำนวน 9 ล้านบาท ไปซื้อทองคำตามคำสั่งพระอาจารย์คม มาเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟภายในกุฏิ เช้าวันที่ 7 พ.ค. จึงเร่งนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่ไม่พบทองคำดังกล่าว
นอกจานี้ หลังปรากฎกรณีดังกล่าวขึ้นมา เจ้าหน้าที่จึงเร่งแกะรอยสืบหาเบาะแส จนทราบว่าก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ ได้มีพระลูกวัดจำนวน 5 รูป และ ฆราวาสอีก 1 คน ซึ่งเป็นคนขับรถของพระอาจารย์คม ช่วยกันขนย้ายทองคำแท่งและเงินสดทรัพย์สินต่างๆ ใส่รถตู้ก่อนแล้วนำไปจอดไว้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งอยู่ห่างจากวัดประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อเตรียมจะเคลื่อนย้ายหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามนำกลับคืนมา
@แฉ พระคม สั่ง 6 คนเอาทรัพย์สินไปซ่อน
ด้านพ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากแนวทางสืบสวนยังพบว่า ก่อนที่อดีตพระอาจารย์คม และ อดีตพระอาจารย์หมอ และน.ส.จุฑาทิพย์ จะถูกจับนั้น ได้สั่งการให้ผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากกุฏิของตนให้หมด แล้วนำไปซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ต่างๆภายในวัด
อีกทั้งในช่วงขณะที่ถูกควบคุมตัว อดีตพระอาจารย์คม ยังได้ออกอุบายขอยืมโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าขอติดต่อญาติ ให้นำยารักษาโรคประจำตัวของของสาวมาให้ ก่อนจะแอบใช้โทรศัพท์มาสั่งการให้กลุ่มขบวนการนี้ช่วยกันทำการขนย้ายเงินสด และทองคำ ให้ขนย้ายออกไปข้างนอกวัดให้หมด ซึ่งมีทรัพย์สินบางส่วนที่ไม่สามารถขนย้ายได้ทันจึงได้นำไปขุดฝังเอาไว้ที่ภูเขาด้านหลังวัด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับและนำมาสู่การตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 รายในวันนี้ ขณะที่ในส่วนของทรัพย์สินวัด จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดกลับคืนมาได้แล้วจำนวนกว่า 280 ล้านบาท
พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับวัดดังกล่าวเดิมทีมีพระอยู่จำนวน 22 รูป ถูกจับกุมและสึกไปแล้ว 9 รูป ส่วนผู้ร่วมขบวนการจากข้อมูลพยานหลักฐานขณะนี้เชื่อว่าส่วนใหญ่จะเป็นพระลูกวัดที่อยู่ภายใต้การควบคุมสั่งการได้ หรือพระลูกวัดที่สนิทและไว้ใจ ซึ่งขณะนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ได้ถูกจับกุมหมดแล้ว ส่วนทรัพย์สินของวัดที่ถูกยักยอกไปยังเชื่อว่าน่าจะมีมากกว่านี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผลติดตามกลับคืนมาต่อไป