รอง ผบ.ตร. ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี 'แอม ไซยาไนด์' เผยเชิญอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม-เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล คาดอีกไม่นานคดีจะมีความชัดเจน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2566 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดี นางสรารัตน์ หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ วางยาฆ่าชิงทรัพย์เหยื่อ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง พร้อมกันนี้ยังได้เชิญ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานฯ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าไซยาไนด์ ทั้งบริษัทผลิต โรงงานที่นำเข้า วัตถุประสงค์ของการนำเข้าและนำไปใช้ และการครอบครองไซยาไนด์ รวมถึงข้อกำหนดต่าง ๆ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เรียกกรมโรงงานอุตสาหกรรมมาชี้แจงรายละเอียด โดยเฉพาะเรื่องของการควบคุมและการกำกับดูแล เพราะไซยาไนด์มีไว้สำหรับอุตสาหกรรมและเพื่อศึกษาวิจัยเท่านั้น ซึ่งหากพบว่าการที่ไซยาไนด์หลุดลอดออกไปจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะมีความผิดด้วย เหมือนกับกรณีเรื่องปืนหาย ที่ผู้กำกับการสถานีตำรวจนั้น ๆ จะต้องได้รับโทษ 157 ในฐานะผู้บังคับบัญชา และโรงงานที่นำเข้าไซยาไนด์ เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใด ซึ่งจะมีการประชุมในวันนี้ก่อน
รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าทางคดี วันนี้เป็นการเรียกประชุมที่กองปราบปรามทั้งหมดตามคำสั่งของ ผบ.ตร. ที่ให้นำสำนวนคดีมารวมไว้ที่กองปราบปราม เบื้องต้นขณะนี้ ยังไม่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับใคร แต่ยอมรับว่าในช่วง 4 วันที่ผ่านมาคดีมีความคืบหน้าไปมาก ทั้งการขยายผลในทางคดี และคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะมีความชัดเจนว่า จะมีใครเกี่ยวข้องกับการร่วมกันฆ่าหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนในกรณีของ น.ส.มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือ 'ทราย' ที่เสียชีวิตในพื้นที่ สน.ทองหล่อ วันพรุ่งนี้ (10 พ.ค. 2566) จะทำการสอบปากคำแพทย์นิติเวชเพื่อประกอบสำนวนคดี หลังจากนั้นคาดว่าจะสามารถออกหมายจับแอมเพิ่มในคดีนี้ได้ส่วนในวันพุธที่ 11 พ.ค.นี้ จะเรียกบุคลากรทางการแพทย์ มาสอบปากคำในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ เพื่อขอความเห็นภาพรวมของคดีที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์และการใช้สารไซยาไนด์ทั้งหมด ที่สโมสรตำรวจ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญจะต้องใช้ขึ้นศาลด้วย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกอีกด้วยว่า ขณะที่ การสอบปากคำพ่อแม่ของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตรองผู้กำกับการสอบสวน สภ.สวนผึ้ง หรือรองอ๊อฟ อดีตสามีของนางสรารัตน์ นั้นพบว่าให้การเป็นประโยชน์ แต่ไม่สามารถเปิดเผยคำให้การได้ เพราะจะกระทบกับรูปคดีส่วนการสอบปากคำนอมินีที่มีชื่อบนกล่องพัสดุว่าเป็นคนสั่งซื้อไซยาไนด์ให้นางสรารัตน์ นั้นขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ขอยังไม่ให้ข้อมูลรายละเอียดในสำนวนเรื่องคำให้การ เพราะเป็นประเด็นสำคัญในสำนวน ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่านางสรารัตน์เป็นคนสั่งโดยที่เขาไม่ทราบว่าขื่อถูกนำไปแอบอ้างสั่งสิ่งของ