สภาผู้บริโภคเผย รณรงค์เปลี่ยนถุงลมนิรภัยยี่ห้อ 'ทาคาตะ' ที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน-ช่วยเหลือผู้เสียหายจากเหตุถุงลมนิรภัยระเบิด ได้รับเงินเยียวยารวมกว่า 7 ล้านบาทสำเร็จ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2566 สภาองค์กรของผู้บริโภค แถลงข่าวกรณีสภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาผู้บริโภคกรณีถุงลมนิรภัยไม่ปลอดภัยตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 และได้จัดแถลงข่าว รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนภัยผู้บริโภคและกระตุ้นให้ผู้ใช้รถรุ่นที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยอันตรายนำรถยนต์เข้ารับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยที่ศูนย์บริการได้โดยไม่มีค่าใช่จ่าย
อีกทั้งได้ทำหนังสือถึงบริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้ว่าราชการทั้ง 77 จังหวัด เพื่อขอความร่วมมือให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับถุงลมนิรภัย นั้นจากการที่สภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาผู้บริโภคกรณีถุงลมนิรภัยไม่ปลอดภัยตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 และได้จัดแถลงข่าว รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนภัยผู้บริโภคและกระตุ้นให้ผู้ใช้รถรุ่นที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยอันตรายนำรถยนต์เข้ารับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยที่ศูนย์บริการได้โดยไม่มีค่าใช่จ่าย นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือถึงบริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้ว่าราชการทั้ง 77 จังหวัด เพื่อขอความร่วมมือให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับถุงลมนิรภัย นั้น
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้เกิดการตื่นตัวอย่างมากของหน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบการรถยนต์ และผู้บริโภค เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กำกับดูแลเรื่องการเรียกคืนรถยนต์ของผู้ประกอบการมากขึ้น ขณะที่กรมการขนส่งก็เปิดใช้งาน 'ระบบแจ้งเตือนถุงลมนิรภัย' เมื่อมีการดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถยนต์ ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ส่วนภาคธุรกิจก็มีความตื่นตัวและมีการจัดทำสื่อโฆษณารูปแบบต่าง ๆ โดยเผยแพร่ผ่านสื่อสาธารณะหรือบางบริษัทอาจเผยแพร่ผ่านช่องทางการสื่อสารที่บริษัทมี เป็นต้น ซึ่งต้องขอบคุณบริษัท หน่วยงาน รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ อยากให้ช่วยกันผลักดันเรื่องนี้ต่อไปจนกว่ารถยนต์รุ่นที่มีปัญหาจะได้เข้ารับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยใหม่จนหมด
นางสาวสารี กล่าวเพิ่มเติมว่า สภาผู้บริโภคมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมถึง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยมองว่า สคบ. ควรทำความร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพื่อเชิญบริษัทรถยนต์อื่น ๆ นอกเหนือจาก 8 บริษัทเข้าไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยที่มีปัญหา และทำแผนเรื่องการเรียกคืนสินค้าให้เป็นระบบเพื่อเป็นแนวปฏิบัติ นอกจากนี้ สคบ. อาจออกประกาศกำหนดเกณฑ์แจ้งความเป็นอันตรายของถุงลมนิรภัยแก่ผู้บริโภคและประชาชน เมื่อเป็นเช่นนี้ หากในอนาคตเกิดกรณีสินค้าไม่ปลอดภัยในลักษณะเดียวกัน ก็จะมีกระบวนการเรียกคืนที่เป็นระบบและรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคได้รับความคุ้มครองได้ทันท่วงที
ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ หัวหน้าสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชศาสตร์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยทราบเรื่องถุงลมนิรภัยระเบิดมาก่อน จนกระทั่งเมื่อต้นปี 2565 มีกรณีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไม่รุนแรงแต่ตามร่างกายกลับมีโลหะขนาดใหญ่ฝังอยู่ที่ช่วงหน้าอกและลำคอ จึงได้ร่วมกับอาจารย์หลาย ๆ ท่านชันสูตร จนกระทั่งเจอข้อมูลจากงานวิจัยของต่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะของบาดแผลและโลหะที่พบคล้ายกัน โดยผลการชันสูตรสรุปว่าเกิดจากการระเบิดของถุงลมนิรภัย หลังจากนั้นญาติของผู้เสียชีวิตได้ติดต่อไปที่สภาผู้บริโภค และสภาผู้บริโภคได้เขามาผลักดันเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตื่นตัวมากขึ้น ผู้บริโภคทราบเรื่องนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์มาก เพราะกรณีมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากถุงลมนิรภัยระเบิดเป็นกรณีที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในต่างประเทศ
"หากสภาผู้บริโภคไม่เข้ามาดำเนินการ อุบัติเหตุถุงลมนิรภัยระเบิดในครั้งนั้นก็คงจะจบแค่ผลการชันสูตรว่าเสียชีวิตจากถุงลมนิรภัยระเบิด รู้สึกดีใจที่มีการผลักดันจนเรื่องนี้กลายเป็นที่รับรู้ของสังคม เพราะไม่อยากพบการเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวอีก เนื่องจากเป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ง่ายมาก เพียงแค่นำรถยนต์เข้าไปเปลี่ยนถุงลมนิรภัยเท่านั้น"ผศ.นพ.สมิทธิ์ ระบุ
นายภัทรกร ทีปบุญรัตน์ เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) สภาผู้บริโภค กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติผู้เสียชีวิตกรณีถุงลมนิรภัยระเบิดเมื่อเดือนเมษายน 2565 สภาผู้บริโภคได้จัดแถลงข่าวร่วมกับกรมการขนส่งทางและ และสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในเดือนพฤษภาคม 2565 และหลังงานแถลงข่าว ก็ได้รับข้อมูลว่ามีผู้เสียหายจากถุงลมนิรภัยระเบิดอีก 5 กรณี แบ่งเป็นได้รับบาดเจ็บ 3 กรณี และเสียชีวิต 2 กรณี ทั้งนี้ บางกรณีเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนที่สภาผู้บริโภคจะเข้ามาดำเนินการเรื่องนี้ และบริษัทรถยนต์ได้ทราบเรื่องและจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียหายเฉพาะกรณี แต่ก็ไม่ได้การแจ้งเตือนผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภครายอื่น ๆ ที่ได้รับความเสียหายจากถุงลมนิรภัยระเบิดไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้รับการเยียวยา สำหรับการดำเนินการหลังรับทราบข้อมูลผู้เสียหาย
นายภัทรกรกล่าวต่อว่า สภาผู้บริโภคได้ประสานงานไปยังผู้ประกอบธุรกิจ ให้ทราบถึงปัญหาและเยียวยาผู้บริโภคที่ถูกละเมิดสิทธิ โดยกรณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดพะเยา ได้ส่งต่อข้อมูลให้หน่วยงานประจำจังหวัดพะเยา ลงพิ้นที่สอบข้อเท็จจริง เพื่อนำข้อมูล ยื่นข้อเสนอให้ทางผู้ประกอบการชดใช้เยียวยา ส่วนกรณีที่เกิดในกรุงเทพฯ ก็มีการเจรจาไกล่เกลี่ย ในลักษณะเดียวกัน คือ ส่งข้อมูลความเสียหาย เสนอตัวเลขที่ควรจะได้รับการเยียวยาที่เหมาะสมและเป็นธรรม โดยสามารถการได้ข้อยุติที่ผู้เสียหายได้การชดใช้ ในเดือน มกราคม 2566 ในเวลาไล่เลี่ยกัน รวมยอดเงินรวม กว่า 7 ล้านบาท มากน้อยตามอาการและลักษณะการบาดเจ็บ
นายวรชัย สมบัติเจริญกิจ หนึ่งในผู้เสียหายจากกรณีถุงลมนิรภัยระเบิด กล่าวว่า หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์ได้แจ้งว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากถุงลมนิรภัยระเบิด แต่ก็ไม่ทราบว่าตัวเองมีสิทธิที่จะได้รับการเยียวยา จนกระทั่งแพทย์เจ้าของไข้ประสานงานไปยังสภาผู้บริโภค และมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักกับสภาผู้บริโภค
“ต้องขอบคุณสภาผู้บริโภคที่เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งทางกฎหมาย ข้อมูล และการประสานงาน จนกระทั่งได้รับการดูแลจากผู้ประกอบการรถยนต์ นอกจากนี้ เมื่อมีคนใกล้ตัวที่ประสบปัญหาผู้บริโภคอื่น ๆ แล้วติดต่อไปทางสภาผู้บริโภค ก็ได้รับคำแนะนำและความช่วยเหลืออย่างดี ทั้งนี้ อยากให้สภาผู้บริโภคทำงานอย่างเข้มแข็งต่อไปเรื่อย ๆ เพราะเป็นองค์กรที่ทำเพื่อประโยชน์ของทุกคนจริง ๆ” ผู้เสียหายจากกรณีถุงลมนิรภัยระเบิด กล่าว
นายวรชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ถุงลมนิรภัยจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัย แต่ถุงลมนิรภัยที่ไม่ปลอดภัยก็สามารถทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ จึงอยากให้ทุกภาคส่วนช่วยการรณรงค์เรื่องการเปลี่ยนถุงลมนิรภัย รวมทั้งอยากให้บริษัทรถยนต์ต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รถยนต์รุ่นที่มีปัญหาได้เข้ารับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยทั้งหมด