เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี-รมว.สธ. จี้ออกมาตรการปิดสภาวะกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2565 เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด ออกจดหมายเปิดผนึกฉบับที่สอง ขอให้ออกมาตรการ 'ปิดสภาวะกัญชาเสรีในสภาวะ สุญญากาศทันที' และ 'จัดให้มีกระบวนการรับฟังผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายกัญชาของประเทศไทย' ถึงนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้ที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า
หลังจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา กำหนดให้พืชกัญชาไม่เป็นยาเสพติด ทำให้เกิดสถานการณ์'กัญชาเสในสภาวะสูญญากาศ' เนื่องจากยังไม่มีนโยบายควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ปรากฎเห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เกิดผลกระทบจากการใช้กัญชาอย่างมาก ทั้งการบริโภคแบบรู้ตัว (เช่น สูบดอกกัญชา) และแบบไม่รู้ตัว (เช่น กินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชาที่ไม่มีใครบอก) ซึ่งเกิดกับทั้งผู้ใหญ่ เยาวชน และเด็กเล็ก
ตลอดจนมีการขายกัญชาเพื่อนันทนาการ (ความบันเทิง) แพร่หลายไปหมด สถานการณ์เช่นนี้จะรุนแรงยิ่งขึ้นเมือประชาชนมีการปลูกในครัวเรือนมากขึ้นในอนาคต หากสถานการณ์กัญชาเสในสภาวะสูญญากาศนี้ยังต่อเนื่องไปนาน จะเกิดความเสียหายต่อประเทศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะต่ออนาคตของเด็กและเยาวชนไทยในระยะยาว ประเทศไทยจึงไม่ควรตกอยู่ในสภาวสุญญากาศนาน ต้องมีนโบายควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดอย่างเพียงพอโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม การออกแบบมาตรการเพื่อควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดมีรายละเอียดมาก ต้องการการออกแบบอย่างรอบคอบ เช่น กัญชาจะยังเป็นยาเสพติดหรือไม่ ประเทศไทยต้องการนโบายกัญชาทางการแพทย์ หรือ กัญชาเพื่อเศรษฐกิจ หรือ กัญชาเพื่อนันทนาการ จะให้ปลูกกัญซาในครัวเรือนหรือไม่ จำนวนเท่าใด จะควบคุมเยาวชนนำช่อดอกกัญชาไปสูบได้อย่างไร จะควบคุมการทำธุรกิจกัญชาแค่ไหนเพียงใด จะควบคุมการโฆษณา และการส่งเสริมการขายหรือไม่เพียงใด จะปกป้องเยาวชนอย่างไร จะปกป้องผู้ไม่เสพใช้กัญชาอย่างไร จะควบคุมการขับขี่ยานพาหนะหลังการเสพกัญชาอย่างไร จะมีมาตรการภาษีกัญชาหรือไม่ อย่างไร และ จะใช้งบประมาณส่วนไหนอย่างไร เพื่อจัดระบบรักษาพยาบาลผู้ป่วยจากการใช้กัญชา เพื่อจัดการรณรงค์ป้องกันการใช้กัญชาหรือการใช้กัญชาในทางที่ผิด และเพื่อจัดให้มีระบบติดตามและประเมินผล เป็นต้น ซึ่งต้องปรึกษาผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน และต้องใช้เวลาพิจารณาอย่างรอบคอบ จะเร่งรัดไม่ได้
ด้วยว่าเหตุผลของการออกนโยบายดังกล่าวได้ถูกอ้างว่าต้องการให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ได้ดีขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสทางเศรษฐกิจจากกัญชา และไม่ต้องการให้มีการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ ดังนั้นเมื่อเห็นว่าประชาชนจำนวนมากใช้กัญชาเพื่อนันทนาการและจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการบริโภคกัญชาแบบไม่รู้ตัวอย่างชัดเจน จึงควรพิจารณาทบทวนนโยบายกัญชาเสรีดังกล่าว ซึ่งทำได้ง่ายมาก
เนื่องจากการปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติดเป็นเพียงประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นอำนาจและความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น โดยควรที่จะต้อง 'ปิดสภาวะสูญญากาศทันที' และ 'จัดให้มีกระบนการรับฟังผู้เกียวข้องอย่างรอบด้านเพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายกัญชาของประทศไทย ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาต่อไป' บนจุดยืนการสนับสนุนนโยบายกัญชาทางสายกลาง คือ การใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ในทางการแพทย์ และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายกัญชาเสรี เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติดขอเสนอให้รัฐบาล คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา โปรดพิจารณา
-
ปิดสภาวะสุญญากาศทันที โดย ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขชะลอการบังคับใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดออกไปก่อนจนกว่าจะมีมาตรการควบคุมที่เพียงพอ หรือ ประกาศให้กัญชา (ครอบคลุมดอก ยาง สารสกัด และหิงเจอร์ จากตอกและยางกัญชา) เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 (ซึ่งจะใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้เหมือนมอร์ฟีน และประเทศไทยจะไม่ผิดฐานละเมิดอนุสัญญายาเสพติด ค.ศ. 1961 และ ค.ศ. 1972 ที่ได้ลงนามสัตยาบันไว้อีกด้วย) หรือ ออกพระราชกำหนดกำหนดให้กัญชายังเป็นยาเสพติดจนกว่าจะมีกฎหมายกัญชาออกมาบังคับใช้ เป็นต้น
-
ในขณะเดียวกันกับการปิดสภาะสุญญากาศ จะต้องจัดให้มีกระบวนการรับฟังผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายกัญชาของประเทศไทยอย่างน้อยหนึ่งถึงสองปี เพื่อจัดทำข้อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อพิจารณาออกกฎหมายกัญชาต่อไป
หากทำเช่นนี้ จะทำให้สามารถปิดสภาวสุญญากาศได้ทันที จะทำให้สถานการณ์นโยบายกัญชากลับไปยังก่อนปลดล็อก คือ กัญชายังเป็นยาเสพติด แต่อนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ได้ แต่ผลกระทบร้ายแรงจะบรรเทาลงทันที ทุกฝ่ายจะได้รับการยอมรับจากสังคมว่าห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง และจะทำให้มีเวลาเพียงพอที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะมีส่วนร่วมออกแบบนโบายกัญชาของประเทศไทยร่วมกัน อันจะทำให้ผลประโยชน์และผลเสียหายของทุกฝ่าย ได้รับการคำนึงถึงอย่างครบถ้วน และจะทำให้ได้นโยบายกัญชา ที่เกิดประโยชน์สูงสุดและป้องกันโทษได้ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย และอนาคตของเด็กและเยาวชนไทยจะได้รับการปกป้อง