ครม.เห็นชอบ 'ร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดทุนทรัพย์การไกล่เกลี่ยฯ' ฉบับใหม่ เปิดทาง 'คดีแพ่งอื่น' ที่มีจำนวน ‘ทุนทรัพย์’ ไม่เกิน 2 ล้านบาท สามารถ ‘ไกล่เกลี่ย-ประนอมข้อพิพาททางแพ่งฯ’ ได้ จากเดิมกำหนดทุนทรัพย์ไม่เกิน 2 แสนบาท
.............................
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดทุนทรัพย์การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งอื่น พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง พ.ศ.2553
สำหรับสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดทุนทรัพย์การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งอื่น พ.ศ. ....ฉบับดังกล่าว กำหนดให้เพิ่มจำนวนทุนทรัพย์ของการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งอื่น ที่ไม่ใช่ข้อพิพาททางแพ่งเกี่ยวกับที่ดินและมรดก จากเดิมที่กำหนดทุนทรัพย์ไว้ไม่เกิน 2 แสนบาท เพิ่มไม่เกิน 2 ล้านบาท
“ที่ผ่านมามีประชาชนที่เกิดข้อพิพาททางแพ่งอื่นและมีทุนทรัพย์มากกว่า 2 แสนบาท ยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องแก้กฎกระทรวงดังกล่าวเพื่อให้การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งอื่นมีความเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน” น.ส.รัชดากล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) รายงาน ครม. พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 61/2 วรรคหนึ่ง ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 บัญญัติให้ในอำเภอหนึ่ง ให้มีคณะบุคคลผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทของประชาชน ที่คู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอ ในเรื่องที่พิพาททางแพ่งเกี่ยวกับที่ดิน มรดก และข้อพิพาททางแพ่งอื่นที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2 แสนบาท หรือมากกว่านั้น ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ซึ่งตั้งแต่ พ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ยังไม่เคยมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนทุนทรัพย์การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งอื่น เพื่อกำหนดจำนวนทุนทรัพย์ การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งอื่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการไกล่เกลี่ย และประนอมข้อพิพาททางแพ่งเกี่ยวกับที่ดิน มรดก และข้อพิพาททางแพ่งอื่นที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 200,000 บาท ตามกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง พ.ศ. 2553 มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว
ปรากฏว่ามีประชาชนซึ่งเกิดข้อพิพาททางแพ่งอื่นที่มีจำนวนทุนทรัพย์เกิน 200,000 บาท ได้ยื่นคำร้องต่อนายอำเภอเพื่อนำข้อพิพาททางแพ่งดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท แต่นายอำเภอไม่อาจรับข้อพิพาททางแพ่งนั้นเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งได้
โดยสถิติข้อมูลการไกล่เกลี่ยของทุกอำเภอ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 - พ.ศ. 2564 พบว่า ข้อพิพาททางแพ่งอื่นที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยมีจำนวน 15,662 เรื่อง ไกล่เกลี่ยแล้วสำเร็จจำนวน 14,439 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 92
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมานายอำเภอเคยได้รับการร้องขอให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่งอื่นที่มีทุนทรัพย์เกินกว่า 200,000 บาท จำนวน 37 เรื่อง แบ่งเป็น ทุนทรัพย์ตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป จำนวน 1 เรื่อง ทุนทรัพย์ไม่เกิน 2,000,000 บาท จำนวน 2 เรื่อง ทุนทรัพย์ไม่เกิน 1,000,000 บาทขึ้นไป จำนวน 14 เรื่อง ทุนทรัพย์ไม่เกิน 500,000 บาทขึ้นไป จำนวน 20 เรื่อง
ต่อมาได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจอย่างมาก และส่งผลให้เกิดข้อพิพาททางแพ่งอื่นที่มีจำนวนทุนทรัพย์มากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งอื่นมีความเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป กรมการปกครองจึงเสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง พ.ศ. 2553
โดยเห็นควรให้เพิ่มจำนวนทุนทรัพย์ของข้อพิพาททางแพ่งอื่นจากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 200,000 บาท เป็น 2,000,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและวิถีชีวิตประชาชนที่มีการทำนิติกรรมสัญญาจำนวนสูงขึ้น และเป็นการอำนวยความสะดวกและเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถนำข้อพิพาททางแพ่งอื่นเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทได้มากยิ่งขึ้น
จึงสมควรเพิ่มจำนวนทุนทรัพย์ของข้อพิพาททางแพ่งอื่น โดยที่มาตรา 71/10 (5) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 บัญญัติให้ ก.พ.ร. มีอำนาจหน้าที่เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีในการตราพระราชกฤษฎีกา และกฎที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้
สำนักงาน ก.พ.ร. จึงได้ยกร่างพระราชกฤษฎีกาเพิ่มจำนวนทุนทรัพย์ของข้อพิพาททางแพ่งอื่น จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 2 แสนบาท เป็นไม่เกิน 2 ล้านบาท และเสนอ ก.พ.ร. พิจารณา ต่อมาในคราวประชุม ก.พ.ร. ครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2564 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่าง พ.รฎ.กำหนดทุนทรัพย์การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งอื่น พ.ศ. …. และให้เสนอ ครม. พิจารณาต่อไป