ศูนย์วิจัยยาเสพติด จุฬาฯ พบสาร THC จากกัญชาเกินกำหนดในอาหารคาว หวาน อาหารแห้ง และเครื่องดื่มในท้องตลาดเพียบ ด้านเครือข่ายวิชาการและประชาชนยื่นจดหมาย ขอคณะกรรมการ ป.ป.ส. ชะลอปลดล็อกออกจากยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ออกไปก่อน หวั่นเด็กและเยาวชนเสพติดทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2565 ศูนย์วิจัยยาเสพติด วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยผลการวิจัย วิเคราะห์ปริมาณสาร Tetrahydrocannabinol หรือ THC ในอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้ขายรายงานว่ามีกัญชา เป็นส่วนผสมอยู่ ซึ่งสาร THC มีคุณสมบัติต่อจิตประสาททำให้ผ่อนคลาายเคลิบเคลิ้ม โดยทำการ ศึกษาในตัวอย่างอาหารคาว หวาน อาหารแห้ง และเครื่องดื่ม ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดจำนวน 29 ตัวอย่าง ระหว่าง เดือนธ.ค. 2564 ถึง ม.ค. 2565 นำมาตรวจหาปริมาณสาร THC เพื่อดูว่าในอาหารมีสาร THC เกินกว่ามาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 427 และ 429 พ.ศ. 2564 หรือไม่
ศ.ดร.จิตรลดา อารีย์สันติชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยาเสพติดฯ กล่าวถึงผลการศึกษาซึ่งพบว่า อาหารคาวและอาหารหวานผ่านเกณฑ์คือมี THC ต่ำกว่า 0.2% โดยน้ำหนัก แต่หลายผลิตภัณฑ์ไม่ผ่าน เกณฑ์คือมี THC สูงเกินกำหนดซึ่งถือเป็นยาเสพติด ได้แก่ เครื่องดื่มผสมสมุนไพรและผงชากัญชามี THC ร้อยละ 0.214-0.231 โดยน้ำหนัก คุกกี้มี THC ร้อยละ 0.498 โดยน้ำหนัก
ด้าน ผศ.ดร.อุษณีย์ พึ่งปาน นักวิจัยอาวุโส ศูนย์วิจัยยาเสพติดฯ ผู้ร่วมการวิจัยนี้ กล่าวเสริมว่า ที่น่าเป็นห่วงมากคืออาหารแห้ง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผสมกัญชามี THC สูงถึง 32-51% โดยน้ำหนัก ซึ่งเกินเกณฑ์ไปมาก สันนิษฐานว่าใบกัญชาที่นำมาใส่อาจใกล้ช่อดอก หรืออาจมีการแอบผสมช่อดอกในบะหมี่ กึ่งสำเร็จรูปนี้
"นี่คือสิ่งที่น่าเป็นห่วง หากมีการปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดคนจะนำไปใช้แบบผิดๆ ได้ เพราะคิดว่าไม่มีใครมาตรวจ ผู้ขายอาจแอบนำกัญชามาใส่ในอาหารในระดับที่มากเพื่อให้ขายได้ดีๆ” ผศ.ดร. อุษณีย์ กล่าว
ขณะที่เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด นำโดย ผศ.ดร.นพ.อภินันท์ อร่ามรัตน์ ศ.ดร.พญ.สาวิตรี อัษณางค์กรชัย ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผศ.ดร.อุษณีย์ พึ่งปาน ศ.ดร.จิตรลดา อารีย์สันติชัย และ นายวัชรพงศ์ พุ่มชื่น ได้ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อขอให้ชะลอการตัดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดออกไปก่อน จนกว่าจะมีการฟังความคิดเห็น อย่างรอบด้านและมีกฎหมายและแผนการควบคุมที่ชัดเจน
นายวัชรพงศ์ พุ่มชื่น ผู้แทนภาคประชาชนต่อต้านปัญหายาเสพติด กล่าวว่า สืบเนื่องจากข้อมูลที่ได้รับฟังจากการเสวนาเรื่องมองรอบด้าน : ประเทศไทยพร้อมแล้วหรือที่จะตัดกัญชาออก จากการเป็นยาเสตติด ที่จัดโดยศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติดฯ เมื่อวานนี้ พบว่า กัญชาก่อให้เกิดโรคจิตได้ มีผล ต่อพัฒนาการทางสมองของเด็กและเยาวชน มีผลต่อหัวใจจนทำให้เสียชีวิตได้ บวกกับข้อมูลใหม่วันนี้จากศูนย์ วิจัยยาเสพติด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่พบสาร THC ผสมอยู่ในอาหารตั้งหลายชนิด
"แบบนี้เด็กและเยาวชนจะไม่เสพ THC ที่เป็นยาเสพติดกันทั่วประเทศหรือ นี่ยังไม่นับว่าเด็กจะเอา ช่อดอกมาสูบหากมีการปลูกที่บ้านอย่างเสรี" นายวัชรพงศ์ กล่าว
เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติดยังย้ำจุดยืนว่า เราเห็นด้วยกับการใช้ ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์ แต่เราไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกกัญชาจากการเป็นยาเสพติด การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์ ไม่จำเป็นต้องยกเลิกกัญชาจากการเป็น ยาเสพติด และขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โปรดพิจารณาทบทวนและ ชะลอการนำพืชกัญชาออกจากชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (ยส.5) ออกไปก่อน จนกว่าจะมีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและข้อมูลที่รอบด้าน และมีกฎหมายและแผน ในการควบคุมที่ชัดเจนที่เป็นฉันทมติร่วมกันของผู้คนในสังคมไทย
อ่านข่าวประกอบ: