สธ.เร่งติดตามผู้เดินทางจาก 8 ประเทศเสี่ยง 333 ราย พบออกจากไทยแล้ว 61 ราย กักตัวครบแล้ว 105 ราย ติดตามได้ 26% ตรวจแล้วไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอน เหลือที่ต้องติดตาม 167 ราย ย้ำไม่มีการรับผู้เดินทางเข้ามาเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามเฝ้าระวังโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ว่า ข้อมูลผู้เดินทางเข้าประเทศไทย จาก 8 ประเทศที่พบสายพันธุ์
โอไมครอน ได้แก่ บอตสวานา เอสวาตีนี เลโซโท มาลาวี นามิเบีย แอฟริกาใต้ โมซัมบิก และซิมบับเว ตั้งแต่วันที่ 15 - 27 พ.ย. 2564 ที่เข้ามาในระบบแซนด์บ็อกซ์และระบบกักตัว มีทั้งสิ้น 333 คน พบว่าเดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้ว 61 คน อยู่ประเทศไทยจนครบ 14 วันแล้ว 105 คน เหลือที่ต้องติดตามอีก 167 คน
ขณะนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นว่าติดตามได้แล้วจำนวน 44 คน คิดเป็น 26% เบื้องต้นผลการตรวจ RT-PCR ยังไม่พบเชื้อโควิด-19 และสายพันธุ์โอไมครอน ถือว่ามีความปลอดภัย ได้เร่งติดตามผู้เดินทางจำนวนที่เหลือให้มารับการตรวจ รักษาและคุมไว้สังเกตต่อไป
"ผู้เดินทางเข้าประเทศกลุ่มนี้ แม้จะมาจากพื้นที่ที่พบสายพันธุ์โอไมครอน แต่จัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มประเทศแอฟริกาจะเข้าประเทศไทยด้วยระบบแซนด์บ็อกซ์และกักตัว ซึ่งมีข้อกำหนดว่าต้องได้รับวัคซีนครบโดส มีผลการตรวจหาเชื้อ RT-PCR เป็นลบก่อนเข้าประเทศ 72 ชั่วโมง ตรวจ RT-PCR ซ้ำตั้งแต่วันแรกที่มาถึง และตรวจ ATK อีกครั้งเมื่ออยู่ในแซนด์บ็อกซ์ครบ 7 วัน จึงเดินทางต่อได้ แต่ที่ต้องติดตามให้มาตรวจหาเชื้อก็เพื่อให้เกิดความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น" นพ.เกียรติภูมิกล่าว
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุข เสนอให้งดลงทะเบียนขอเข้าประเทศสำหรับผู้ที่จะเดินทางมาจาก 8 ประเทศดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 2564 ส่วนที่ได้รับอนุญาตแล้วสามารถเดินทางเข้ามาได้ถึงวันที่ 30 พ.ย. และให้เข้าสู่ระบบการกักตัว 14 วันทั้งหมดเพื่อตรวจหาเชื้อเป็นระยะขณะนี้ยังตรวจไม่พบเชื้อ
ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ห้ามไม่ให้เดินทางเข้าประเทศ ยกเว้นคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ ซึ่งจะส่งเข้าระบบการกักตัว จึงไม่ต้องกังวล ส่วนผู้เดินทางจากประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกา กำหนดให้ต้องเข้าสู่ระบบการกักตัว 14 วันและตรวจหาเชื้อ 3 ครั้งเช่นกัน เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยสูงสุดสำหรับประชาชนไทย