‘วิษณุ’ ชี้ กมธ.ศึกษากาสิโนไม่ใช่เรื่องใหม่ ทำความเห็นมาแล้วหลายยุค แต่สุดท้ายเดินอย่างไรต้องจบที่รัฐบาล เผยเป็นการต่อสู้กันระหว่างศีลธรรม สังคม เศรษฐกิจ ส่วนตัวดีใจที่พรรคจับมือร่วมกัน ขณะที่นายกฯ โยนสภาตัดสินไทย ชี้ดูความเหมาะสม ข้อเท็จจริงปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่วอันที่ 3 ธันวาคม 2564 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ในรูปแบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ว่า ในอดีตมีการตั้งคณะกรรมาการขึ้นมาศึกษาทุกสมัย สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ได้ตั้งตนเป็นประธานศึกษาเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์แล้ว แต่ยังพิจารณายังไม่ทันจบ ตนก็ลาออกจากรองนายกรัฐมนตรีเสียก่อน ส่วนสาเหตุในอดีตที่ไม่สามารถผลักดันได้สำเร็จนั้น มันคงเป็นการต่อสู้กันระหว่างศีลธรรม สังคม และเศรษฐกิจ เหมือนกับเรื่องโควิด-19 ที่เป็นการสู้กันระหว่างเรื่องสาธารณสุขและเศรษฐกิจ
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ จะเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งจะมาเจอเรื่องของการบังคับใช้ว่าเราควบคุมได้จริงหรือไม่ ที่จริงมีข้อเสนอเยอะแยะ ทั้งให้ไปตั้งที่เกาะ หรือเสนอให้ตั้งตรงนั้นตรงนี้ มีการระบุชื่อจังหวัดมาแล้วด้วยซ้ำไป ครั้งหนึ่งนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เคยมีข้อเสนอว่าอย่าไปตั้งในจังหวัดท่องเที่ยว แต่ให้ตั้งในจังหวัดที่ติดกับจังหวัดท่องเที่ยว เพราะหากตั้งในจังหวัดท่องเที่ยวจะเป็นการสนับสนุนจังหวัดนั้นไปหมด เช่น ไม่ให้ตั้งที่ภูเก็ต แต่ให้ตั้งที่พังงา เพื่อให้เกิดความเจริญในพื้นที่ใหม่ และจะสามารถควบคุมได้ ข้อเสนอค่อนข้างมาเป็นรูปประธรรม ในตอนนั้นรัฐบาลส่งตนไปดูงานที่ เก็นติ้งไฮแลนด์ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเก็นติ้งไฮแลนด์บอกว่า ถ้าเราจะเปิด เขาพร้อมจะช่วยแนะนำให้ แต่พอตนลาออกก็เลิก
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า สำหรับคณะกรรมการชุดที่มีตนเป็นประธานในอดีต ทำหน้าที่ศึกษาเพื่อที่จะเพิ่มพูนรายได้ให้กับประเทศ นอกจากนี้ จะทำอย่างไรกับเรื่องผลกระทบด้านศีลธรรม รวมถึงเรื่องการควบคุม จะทำอย่างไรให้เกิดภาษีเข้ารัฐโดยไม่มีเบี้ยบ้ายรายทาง การรีดไถ ที่สำคัญที่สุดคือ ส่วนใหญ่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ เป็นบ่อเกิดอาชญากรรม มีเรื่องโสเภณี ค้ามนุษย์ ยาเสพติด ทำอย่างไรจะควบคุมสิ่งเหล่านี้ให้ได้ ตนจึงคิดว่า กมธ.ที่มีการตั้งขึ้นมาคงพยายามศึกษาสิ่งเหล่านี้ทั้งแพ็กเกจ ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรกว่าจะได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สุดท้ายคนที่จะทำให้มันสามารถเกิดขึ้นได้จริงคือใคร นายวิษณุ กล่าวว่า สุดท้ายต้องมาจบที่รัฐบาลเพราะบางอย่างมันทำได้เลย บางอย่างต้องออกกฎหมาย เหมือน กมธ.ต่างๆ ไม่ว่าศึกษาเรื่องอะไร เขาไม่สามารถทำเองได้ เขาจะส่งข้อเสนอมายังรัฐบาล
เมื่อถามว่า ครั้งที่นายวิษณุไปดูงาน ดูแล้วน่าจะเป็นผลดีกับประเทศใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ทันไปถึงจุดนั้น เพราะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
เมื่อถามว่า ถ้าอยากให้รอบนี้สำเสร็จ กมธ.ควรต้องไปทำอะไรตรงไหน นายวิษณุ กล่าวว่า ตอบไม่ถูก แต่ กมธ.คงรู้ดี ปล่อยให้เขาศึกษาไปกันสักระยะ ส่วนตนดีใจที่ทุกพรรคเขาจับมือร่วมกัน คงจะได้ข้อมูลที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายหนึ่งเสนอ อีกฝ่ายหนึ่งค้าน มันจะกลับตาลปัตร
เมื่อถามว่า การที่ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ จะถือเป็นปัจจัยสำคัญหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เราพูดถึงศีลธรรมอย่าไปพูดเฉพาะศาสนาพุทธเลย เพราะศาสนาอื่นก็ระมัดระวังเรื่องแบบนี้เหมือนกัน
ทางด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความเห็นกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบญัตติตั้งคณะกรรมาธิการฯศึกษาการเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายว่า ให้เป็นเรื่องของสภาที่ส.ส.เป็นผู้เสนอ และเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการจะเป็นผู้พิจารณาดูถึงความเหมาะสม ข้อเท็จจริง และดูถึงปัจจุบันว่าเกิดอะไรขึ้นมา ในประเทศรอบบ้านมีเยอะ ซึ่งก็มีการแอบไปเล่นกันเยอะ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เรื่องนี้ให้สภาพิจารณา ตนจะไปสั่งอะไรได้ เพราะไม่ใช่ผู้เสนอเรื่องนี้ เป็นเรื่องของ ส.ส.
เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวเห็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ตอบ ตอบไม่ได้ เป็นเรื่องของประชาชน