'หมอธีระ'เผยผลวิจัยจากจุฬาฯ พบหมา-แมวติดโควิด จากเจ้าของที่ติดเชื้อ แนะหากไม่สบายให้หลีกเลี่ยงคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยง พร้อมชี้หลังเปิดประเทศแรงงานต่างด้าวทะลักเข้าไทย ย้ำต้องจับ-ปรับ-ปิดให้เข้ม ส่วนนายจ้างควรได้รับโทษตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2564 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 336,709 คน ตายเพิ่ม 4,526 คน รวมแล้วติดไปรวม 250,592,773 คน เสียชีวิตรวม 5,064,391 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ รัสเซีย สหราชอาณาจักร ตุรกี เยอรมัน และอเมริกา โดยจำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็น 95.16% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 93.99%
สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 7,960 คน สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก หากรวม ATK อีก 1,605 คน จะขยับเป็นอันดับ 10 ของโลก และไม่ว่าจะเป็นแค่ยอดที่รายงานทางการ หรือจะรวม ATK ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การทะลักของแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ แรงงานต้องจ่ายเงินค่านายหน้าหลายหมื่นบาท เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทย การไล่ตามจับดังที่เป็นข่าว แม้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะทำอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ก็ยากที่จะจับได้หมด
จำนวนเงินหลักหมื่นบาทที่จ่ายให้นายหน้านั้น จริงๆ แล้วเพียงพอที่จะนำมาใช้ขึ้นทะเบียนแรงงาน ตรวจคัดกรองโรควิธีมาตรฐาน กักตัวสังเกตอาการ รวมถึงฉีดวัคซีน เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย ก่อนเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการต่างๆ ในประเทศไทย ไม่ควรให้เงินก้อนนี้ไปตกอยู่ในมือนายหน้า และสร้างความเสี่ยงต่อประชาชนทุกคนในประเทศ
อย่างไรก็ตามมาตรการข้างต้นมีส่วนสำคัญที่ขาดหายไป และทำให้ปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ มาตรการจับ ปรับ และปิด สถานประกอบกิจการต่างๆ ที่มีส่วนในการนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย หรือรับแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาทำงานในสถานประกอบกิจการของตน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร บาร์ โรงงาน ตลาด ฯลฯ
การจับ ปรับ และปิด จำเป็นต้องทำอย่างเข้มงวดและทันที เพื่อระงับยับยั้งการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม ที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเป็นต้นเหตุให้เกิดการระบาดในระลอกสองตอนปลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่นายจ้างของสถานประกอบกิจการเหล่านั้นควรได้รับโทษตามกฎหมาย ที่มิใช่แค่จับปรับและปิดเท่านั้น เพราะมีส่วนทำให้คนเจ็บป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของไทย การระบาดยังรุนแรงต่อเนื่อง เปิดท่องเที่ยว เปิดประเทศ ในขณะที่สัดส่วนของประชากรที่ได้วัคซีนครบโดสก็ยังน้อย ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงมากที่จะเห็นปรากฏการณ์ปะทุวงกว้าง ไม่ช้าก็เร็ว ไม่ว่าจะในโรงงาน สถานที่ทำงานหรือสถานประกอบกิจการต่างๆ รวมถึงตลาด หากไม่ป้องกันให้ดี
ขณะเดียวกัน ได้เปิดเผยข้อมูลถึงการติดเชื้อโควิดของสุนัขและแมวในไทย ล่าสุดมีงานวิจัยจากทีมคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ รายงานในวารสารวิชาการเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยตรวจพบสุนัข 3 ตัวจากการตรวจ 35 ตัว และแมว 1 ตัวจากการตรวจ 9 ตัว ติดเชื้อโควิด ซึ่งทั้งหมดที่ตรวจนั้นสัตว์เลี้ยงในครัวเรือนที่มีเจ้าของติดเชื้อโควิด
สุนัข 1 ตัวมีอาการเล็กน้อย ส่วนตัวอื่นๆ ที่ติดเชื้อนั้นไม่มีอาการ ข้อมูลข้างต้นนี้ช่วยกระตุ้นให้เราตระหนักถึงความสำคัญว่า คนที่ติดเชื้อจะสามารถถ่ายทอดไปยังสัตว์เลี้ยงได้ ดังนั้นหากมีอาการไม่สบาย นอกจากควรจะแยกตัวออกจากสมาชิกในครอบครัวแล้ว ยังควรหลีกเลี่ยงการไปคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงในบ้าน
ความรู้ปัจจุบัน เราทราบดีว่ามีการติดเชื้อจากคนสู่สัตว์ได้มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว ตัวมิ้งค์ เฟอร์เร่ท์ อ๊อตเตอร์ เสือ กวาง ฯลฯ
ส่วนการถ่ายทอดจากสัตว์สู่คนนั้น แม้ตอนนี้เชื่อว่าอาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการแพร่ระบาด แต่กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะมีรายงานเกี่ยวกับการติดเชื้อจากตัวมิ้งค์ไปสู่คนจากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในอเมริกา เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ฯลฯ
การไม่ไปคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงเวลาเราไม่สบาย นอกจากจะช่วยป้องกันสัตว์ไม่ให้ติดเชื้อ และไม่เป็นตัวนำพาเชื้อโรคไปยังคนอื่นในบ้านที่จะเข้ามาสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงได้ด้วย
ที่หยิบยกเรื่องนี้มาเล่าให้รับทราบกัน เพราะปัจจุบันไทยเรามีจำนวนคนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันจำนวนมาก โอกาสถ่ายทอดไปยังสัตว์ย่อมมีสูงขึ้นกว่าสมัยระลอกแรก ผลลัพธ์ของการควบคุมการระบาดที่เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนเท่านั้น
อ้างอิง : Jairak W et al. First cases of SARS-CoV-2 infection in dogs and cats in Thailand. Transbound Emerg Dis. 5 November 2021
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage