ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มั่นใจพยานหลักฐานเอาผิด ‘ผกก.โจ้’ และพวก โทษสูงสุดถึงประหาร พร้อมส่งสำนวนคดีบ่ายนี้ ส่วนตรวจสอบปมรถหรูพบพิรุธเพียบ แถมมีนำเข้าจากยุโรป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมสรุปสำนวนคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผกก.โจ้ และลูกน้องรวม 7 คน ซ้อมทรมานนายจิระพงศ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ในส่วนของสำนวนคดีซ้อมทารุณกรรมผู้ต้องหาจนถึงแก่ชีวิตนั้น ขณะนี้สำนวนคดีดังกล่าวได้แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย และจะส่งสำนวนในช่วงบ่ายของวันนี้ จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องทั้งหมดในข้อหา ฆ่าผู้อื่นด้วยการทารุณกรรม ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิตได้ ซึ่งหลังจากนี้คงต้องรอผลการพิจารณาในชั้นศาล ยืนยันว่าการทำคดีที่ผ่านมาไม่มีการกดดันจากที่ใดเข้ามาแทรกแซง ดำเนินการตามข้อเท็จจริง รวมถึงหลักฐานที่มีอยู่ค่อนข้างครบถ้วนเอาผิดถึงที่สุดได้แน่นอน
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่กลุ่มผู้ต้องหา ในความผิดตามมาตรา 172 ซึ่งมีการเข้าแจ้งข้อหาดังกล่าวแก่กลุ่มผู้ต้องหาในเรือนจำจนครบถ้วนทุกคนแล้ว มีเฉพาะเพียง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ ผกก.โจ้ ที่แสดงท่าทีไม่พอใจและไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนจะเดินกลับไปโดยไม่ได้บอกเหตุผลแต่อย่างใด จึงต้องดำเนินการแจ้งข้อหาผ่านเจ้าหน้าที่เรือนจำ ซึ่งไม่ถือเป็นปัญหาหรือข้อกังวลเพราะถือว่าได้แจ้งให้รับทราบแล้ว รวมถึงยังได้ทำบันทึกรายละเอียดพฤติกรรมดังกล่าวของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ลงในเอกสารสำนวน ถือเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายครบถ้วน
ส่วนเรื่องตรวจสอบทรัพย์และกรณีจับรถหรูเรียกรับเงินรางวัลนำจับนั้น คืบหน้าพอสมควร จนถึงขณะนี้พบรถหรูที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ จับกุมได้นั้นมีด้วยกัน 410 คัน ในจำนวนนี้พบเป็นรถที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน 270 คัน และรถที่นำเข้ามาจากประเทศแถบยุโรป 56 คัน ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างตรวจสอบแหล่งที่มาที่ไป นอกจากนี้ยังพบพิรุธหลายอย่าง อาทิ มีการทำบันทึกจับกุมก่อนที่รถจะเข้ามาภายในประเทศ โดยเฉพาะรถที่มีการแจ้งหายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในขั้นตอนการตรวจสอบหลังจากนี้ อาจต้องใช้เวลาอยู่บ้าง เนื่องจากต้องมีการประวานข้อมูลกับทางประเทศต้นทางทั้งแถบประเทศเพื่อนบ้านและฝั่งยุโรป
เมื่อถามว่ามีบุคคลอื่น คนดัง หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า อยู่ระหว่างขยายผลและสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆให้แน่ชัด โดยเฉพาะขั้นตอนการทำบันทึกจับกุมรถหรู ซึ่งต้องดูว่ามีรายชื่อของบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง และ ยืนยันว่าหากพบหลักฐานการกระทำผิดเชื่อมโยงถึงใคร จะต้องดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้น สุดท้ายนี้ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ทำอย่างเต็ม ตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือแต่อย่างใด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage