ครม.เห็นชอบมาตรการช่วยเหลืออสังหาริมทรัพย์ภายใต้ ‘Flexible Plus Program’ ให้คนต่างด้าวที่ลงทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขอ ‘Work Permit’ ทำงานในไทยได้ คาดสร้างเงินหมุนเวียน 3 แสนล้าน
..............................
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลืออสังหาริมทรัพย์ภายใต้โครงการ Flexible Plus Program
พร้อมทั้งเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงฯและร่างหลักเกณฑ์ฯที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่งได้รับบัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อการทำงาน และร่างหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่งได้รับบัตรสมาชิกพิเศษ อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำงาน
สำหรับมาตรการช่วยเหลืออสังหาริมทรัพย์ภายใต้โครงการ Flexible Plus Program ดังกล่าว จะกำหนดให้คนต่างด้าว ซึ่งได้รับบัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) ที่มีการลงทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับจากเข้าร่วมโครงการฯ สามารถขอรับใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ในราชอาณาจักรได้
นอกจากนี้ คนต่างด้าวที่ได้รับบัตรสมาชิกพิเศษ รวมถึงคู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีอายุไม่เกิน 20 ปี สามารถขอเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา เป็นประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงาน (Non-Immigrant Visa) มีระยะเวลาคราวละ 5 ปี ตลอดระยะเวลาการลงทุนในโครงการ Flexible Plus Program
“คนต่างด้าวที่จะได้รับสิทธิในโครงการ Flexible Plus Program ต้องลงทุนใน 3 ประเภท คือ ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ตามสิทธิของชาวต่างชาติที่พึงได้รับ, ลงทุนในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด และลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น หุ้นสามัญ หุ้นกู้ หรือหน่วยลงทุนที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมกันไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี ระบุว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินว่า การให้สิทธิประโยชน์ตามโครงการ Flexible Plus Program ดังกล่าว สอดคล้องกับแผนการดึงดูดกลุ่มประชากรที่มีความมั่งคั่งสูง ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ Flexible Plus Program จำนวน 10,000 ราย ซึ่งทำให้มีเงินหมุนเวียนภายในประเทศจากการลงทุนประมาณ 300,000 ล้านบาท
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/