กทม.ออกประกาศฉบับที่ 44 คลายล็อกโรงหนัง-ห้างสรรพสินค้า ขยายเวลาปิดกิจการถึง 4 ทุ่ม จำกัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มมากกว่า 50 คน ส่วนผับ บาร์ คาราโอเกะยังคงปิด มีผล 16 ต.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 44 มีใจความสำคัญระบุว่า ด้วยมีการประกาศใช้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 35 ลงวันที่ 15 ต.ค.2564 เพื่อปรับปรุงและผ่อนคลายความเข้มงวดของมาตรการควบคุมโรค
ดังนั้นเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยความเห็นชอบคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 30/2564 เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2564 จึงมีคำสั่งดังนี้
1.ให้ปิดสถานที่ตามข้อ 1 ของประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 43 ลงวันที่ 29 ก.ย.2564 และให้ดำเนินการตามข้อ 2 ของประกาศดังกล่าว เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ และให้สถานที่ดังต่อไปนี้ สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบกำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะโดยเคร่งครัด
1.1 ให้สถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมที่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการได้แล้ว เช่น ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ ห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา สวนสาธารณะ สามารถเปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติแต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเวลาการห้ามออกนอกเคหสถาน
1.2 ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด สามารถเปิดเพื่อการจำหน่ายสินค้าได้ทุกประเภทจนถึงเวลา 22.00 น. โดยการเปิดให้บริการเครื่องเล่นให้สำนักงานเขตพื้นที่ประเมินอนุญาตตามความเหมาะสม สำหรับร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการในช่วงเวลากลางคืน ให้ปิดการให้บริการในช่วงระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น
1.3 ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สามารถเปิดให้บริการในลักษณะของการดูแลผู้สูงอายุแบบเช้าไปเย็นกลับได้ โดยให้สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร อนุญาตตามความเหมาะสม โดยกำหนด เงื่อนไขให้ผู้รับบริการและบุคลากรเจ้าหน้าที่ต้องได้รับการฉีดวัคนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด และให้ผู้ประกอบการสุ่มตรวจบุคลากรเจ้าหน้าที่ทุกสัปดาห์โดยการใช้ชุดตรวจ และน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อโควิดแบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (ATK) เพื่อยืนยันว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด หรือโดยวิธีการที่ทางราชการกำหนด
1.4 โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ หรือสถานที่ที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดให้บริการเพื่อการจัดประชุม สัมมนา หรือการจัดงานพิธีตามประเพณีนิยมได้จนถึงเวลา 22.00 น. โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และให้ปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัย สำหรับองค์กรที่กำหนด เช่น การจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน การให้ผู้เข้าร่วมงานสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา การจัดให้มีช่วงเวลาพักเพื่อการระบายอากาศของห้องประชุม การจัดเตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด การเว้นระยะห่างไม่ให้แออัด รวมทั้งดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสำนักงานส่งเสริม การจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กำหนดอย่างเคร่งครัด
1.5 ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบกิจการอื่น ที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดให้บริการเพื่อการจัดประชุม สัมมนา หรือการจัดงานพิธีตามประเพณีนิยมได้ จนถึงเวลา 22.00 น. โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และให้ปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กรที่กำหนด เช่นเดียวกับกรณีตามข้อ 1.4
1.6 สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กโดยให้สำนักงานเขตพื้นที่ ประเมินและพิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสม
แต่ยังคงให้งดกิจกรรมส่งเสริมการขายและปิดให้บริการในส่วนที่เป็นร้านเกม ตู้เกม เครื่องเล่น สวนสนุก สวนน้ำ ผับ บาร์ คาราโอเกะ กิจการอาบอบนวด กิจการอบไอน้ำอบสมุนไพร สนามชนไก่ สนามซ้อมไก่ สนามชนโค สนามกัดปลา สนามม้า หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
2. ห้ามการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนมากกว่า 50 คน โดยให้เป็นไปตามข้อห้ามและข้อยกเว้นตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 33 ลงวันที่ 20 มิ.ย. 2564 ฉบับที่ 34 ลงวันที่ 27 มิ.ย.2564 และข้อกำหนดออกตามความ ในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่30 ลงวันที่ 1 ส.ค. 2564
ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2564 จนถึงวันที่ 31 ต.ค.2564 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage