ครม.รับทราบข้อเสนอแนะ 'ป.ป.ช.' เสนอทบทวนโครงการ ‘1 หมู่บ้าน 1 กม.ถนนพาราซอยล์ฯ' ตั้งแต่การกำหนด ‘ราคากลาง’ ไปจนถึงการป้องกันการเอื้อประโยชน์ผู้ผลิตไม่กี่ราย
.........................
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีศึกษาโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร ถนนพาราซอยล์ซีเมนต์ พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย รับข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. ความเห็น และข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการ
สำหรับข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. เพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษา โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร ถนนพาราซอยล์ซีเมนต์ นั้น ป.ป.ช.เสนอให้รัฐบาลควรทบทวนนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง โดยการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดสร้างถนนที่นำน้ำยางพารามาเป็นวัสดุส่วนผสมในการก่อสร้าง (ถนนพาราซอยล์ซีเมนต์) เพื่อทำการศึกษาในด้านต่างๆ อย่างรอบครอบ
เช่น การกำหนดราคากลาง การกำหนดสารเคมีที่นำมาผสมกับน้ำยางพาราต้องมีใช้อย่างแพร่หลาย ไม่เป็นการผูกขาดหรือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ผลิตเพียงไม่กี่ราย รวมถึงการถอดรูปแบบรายการงานก่อสร้างความมั่นคงถาวร และความคุ้มค่าของถนนพาราซอยล์ซีเมนต์ที่ชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยคำนึงถึงประโยชน์ของเกษตรกรอย่างสูงสุด ทั้งนี้ การทบทวนเพื่อทำการศึกษาดังกล่าวให้พิจารณาขยายผลครอบคลุมถึงการดำเนินการก่อสร้างถนนพาราซอยล์ซีเมนต์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่นด้วย
นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ได้แก่ 1.รัฐบาลควรพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางในส่วนราคายางให้เกิดเสถียรภาพในระยะยาวไม่ให้ราคาตกต่ำมากเกินไป โดยหากรัฐบาลจำเป็นต้องแทรกแซงกลไกตลาด ควรดำเนินการเท่าที่จำเป็นโดยคำนึงถึงหลักการภายใต้เงื่อนไขขององค์การการค้าโลก (WTO) ทั้งนี้ รัฐบาลอาจขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและเป็นไปตามแผนที่วางไว้
“หากรัฐบาลจำเป็นต้องนำเสนอนโยบายหรือโครงการเกี่ยวกับการพยุงราคายางพารา ควรส่งเสริมการใช้ยางพาราในแนวทางที่มีหลักเกณฑ์ ขั้นตอนการดำเนินงานที่ชัดเจน โปร่งใส สามารถทำให้ประโยชน์จากการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินตกแก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราได้อย่างเต็มที่ โดยเพิ่มช่องทางให้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ประโยชน์จากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐตอบสนองต่อความต้องการของเกษตรกรได้อย่างแท้จริง” ป.ป.ช.ระบุ
2.รัฐบาลควรส่งเสริมให้มีสถาบันที่รับผิดชอบในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวกับยางพาราเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพาราและสามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำได้อย่างยั่งยืน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/