เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นฯ ‘นักธุรกิจต่างชาติ’ ในไทย ชี้ปัญหาที่รัฐบาลต้องแก้เร่งด่วน จัดหาวัคซีนไม่ได้ตามแผน-ยังควบคุมโควิดไม่ได้ ขณะที่ 72.9% มองเศรษฐกิจไทยปีนี้แย่ลงเมื่อเทียบกับปีก่อน พบ 70.6% มองจีดีพีปีนี้ติดลบ
............................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักธุรกิจต่างประเทศ โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างหอการค้าต่างประเทศ 35 ประเทศ รวม 70 ราย ระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ค.2564 ซึ่งผู้ตอบเป็นผู้มีตำแหน่งประธาน รองประธาน เลขาธิการ และกรรมการหรือสมาชิกที่ได้รับมอบหมาย ผลปรากฏว่า ผู้ตอบส่วนใหญ่ หรือ 72.9% มองว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยปี 2564 แย่ลง เมื่อเทียบกับปีก่อน
นอกจากนี้ ผู้ตอบ 70.6% มองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัวน้อยกว่า 0% หรือเศรษฐกิจไทยจะหดตัว และผู้ตอบส่วนใหญ่ หรือ 27.14% ไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวเมื่อไหร่ แต่มีผู้ตอบ 18.57% มองว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 3/2565
ขณะเดียวกัน ผู้ตอบส่วนใหญ่ยังมีมุมมองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในด้านต่างๆว่า แย่ลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งในด้านกำลังซื้อในประเทศ การลงทุนจากต่างประเทศ นโยบายเศรษฐกิจไทย สถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศไทย มุมมองต่ออุตสาหกรรมในประเทศไย มุมมองต่อภาคบริการของประเทศไทย สภาการจ้างงานในประเทศ และมุมมองต่อภาคการค้าระหว่างประเทศไทย (การนำเข้าและการส่งออก)
ส่วนมุมมองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า เทียบกับปัจจุบัน พบว่า 52.90% มองว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยจะแย่ลง , 57.2% มองว่ากำลังซื้อในประเทศไทยจะแย่ลง ,45.8% มีมุมมองต่อภาคบริการของประเทศไทยที่แย่ลง ขณะที่ 52.90% มองว่าสภาพการจ้างงานในประเทศไทยจะแย่ลงอีก
สำหรับประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศไทยที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน พบว่า ผู้ตอบ 42.68% เห็นว่า เป็นเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนที่ล่าช้าไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดและวัคซีนไม่เพียงพอ รองลงมา 13.41% ระบุว่า เป็นเรื่องการระบาดของโควิดระลอก 3 ที่รุนแรง กระจายทั่วประเทศและยังควบคุมในวงจำกัดไม่ได้ และ 12.20% ระบุว่า เป็นเรื่องการเข้าถึงแหล่งทุนที่ยากลำบากชของภาคธุรกิจเอกชน ทำให้เกิดการขาดสภาพคล่อง
ขณะที่ผลสำรวจเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านธุรกิจโดยภาพรวมของสมาชิกหอการค้าต่างประเทศ ผู้ตอบ 64.30% ระบุว่า รายได้รวมของธุรกิจในปีนี้แย่ลงเมื่อเทียบกับปีก่อน และผู้ตอบเกินครึ่ง หรือ 51.40% มองว่า สถานการณ์รายได้รวมของธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน
ทั้งนี้ ประเด็นปัญหาทางธุรกิจของสมาชิกฯของผู้ตอบแบบสำรวจ พบว่า 23.94% ระบุ เป็นเรื่องคำสั่งซื้อจากในประเทศและต่างประเทศที่ลดลง เป็นผลจากเศรษฐกิจที่ซบเซา รองลงมา 18.31% ระบุว่า เป็นเรื่องธุรกิจขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถเข้าถึงมาตรการในการเยียวยาของรัฐได้ และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน และ 15.49% ตอบว่า เป็นเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงควบคุมไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักธุรกิจต่างชาติ พบว่า ดัชนีเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของนักธุรกิจต่างประเทศ (ECI) ณ ไตรมาส 2/2564 รวมอยู่ที่ 28.5 ประกอบด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นฯในปัจจุบัน 23.0 และดัชนีความเชื่อมั่นฯในอนาคต 34.0 เทียบกับผลสำรวจครั้งก่อน (ณ ไตรมาส 1/2564) ดัชนีเชื่อมั่นฯรวมอยู่ที่ 31.8 ประกอบด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นฯในปัจจุบัน 18.6 และดัชนีความเชื่อมั่นฯในอนาคต 44.9
สำหรับสิ่งที่ต้องให้รัฐบาลไทยสนับสนุนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมไทยในปัจจุบัน ปรากฏว่า 41.10% ระบุว่า เป็นเรื่องการจัดหาวัคซีนเพื่อนำมาฉีดให้ประชาชนในประเทศให้เร็วและทั่วถึงที่สุด รองลงมา 16.44% เป็นเรื่องการจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) ให้กับภาคธุรกิจและ SMEs เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนธุรกิจ และอันดับ 3 เป็นเรื่องมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage