'อนุชา' ยืนยัน รัฐบาลไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ย้ำวิพากษ์วิจารณแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริง พร้อมหาพื้นที่ตรงกลางร่วมกับสื่อ ส่วนการดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดยังดำเนินการต่อไป
----------------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรกายาร แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล ชี้แจงกรณีที่องค์กรวิชาชีพสื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้มีการยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับการห้ามนำเสนอข่าวให้คนหวาดกลัว ว่า ได้มีการยืนยันกับตัวแทนที่มายื่นหนังสือว่า รัฐบาลไม่ได้จำกัดสิทธิในการแสดงออก สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริง หากวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลแต่ข้อมูลบิดเบือน อาจทำให้ประชาชนสับสน แล้วเข้าใจผิด อาจทำให้เกิดความเกลียดชังได้ด้วย ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราไม่อยากให้สังคมมีการเผชิญหน้ากัน เราต้องการให้ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงโควิด
"สิ่งต่างๆ เหล่านี้อยากแจงให้เคลียร์ว่ารัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น เราต้องการให้ประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์หลายๆสิ่งหลายๆอย่างได้ บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน และหลังจากนี้ไปคงมีการพูดคุยกันมากขึ้น ทั้งในด้านสื่อมวลชนและรัฐบาล ที่จะหาพื้นที่ตรงกลางที่เราจะมีกรอบการทำงาน ในอนาคตเรื่องดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนด ก็ยังดำเนินการอยู่ ประชาชนหลายคนก็บอกว่าอยากให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด" นายอนุชา กล่าว
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยหลักเราอยากให้ประชาชนอยู่ด้วยกันอย่างมีเหตุมีผล ข้อมูลที่ประชาชนเผยแพร่ แสดงความเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เช่น วัคซีนอยู่ไหน อยากได้แล้ว แบบนี้ไม่เป็นประเด็น หรือการเผยแพร่ภาพที่เป็นปัญหา ยังมีความแอดอัดอยู่ ตรงนี้รัฐบาลต้องขอบคุณเพื่อจะได้เข้าไปแก้ไข จึงขอให้ประชาชนสบายใจ แต่กรณีวันนี้ก็มีข่าวลือที่หากปล่อยให้เผยแพร่ออกไปจะเกิดความสับสนและกังวลใจของสังคม ยกตัวอย่าง กรณีข่าวลือที่มีการแชร์ภาพว่าที่ภูเก็ตว่ามีคนเสียชีวิตนอนกองบนพื้น ซึ่งความจริงก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
@ นายกฯไม่เคยสั่งปลดโฆษก แต่ย้ำให้ทุกกระทรวงชี้แจงเฟกนิวส์ให้เร็ว
นายอนุชา กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีพิธีกรสถานีข่าวรายการหนึ่งพูดว่านายกรัฐมนตรีจะปลดโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยพูดเป็นเรื่องเป็นราวไป ขออนุญาตแจงให้เคลียร์ว่า วันนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงเรื่องประชาสัมพันธ์ที่ภาครัฐจะต้องมีการปรับ โดยมีส่วนเกี่ยวข้องหลายโฆษกมาก เฉพาะโฆษกกระทรวงก็มี 20 กว่าคน แต่ละกระทรวงนายกรัฐมนตรีก็อยากให้ประชาสัมพันธ์มากขึ้น มีข่าวเฟกนิวส์ อะไรที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงต้องรีบออกมาชี้แจง ท่านเลยบอกว่าอยากให้ทุกกระทรวงรีบออกมาทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงชี้แจงให้กับประชาชนให้ได้รับข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว ถูกต้องและฉับไว
"ถ้าเกิดสมมติว่า โฆษกกระทรวง หรือ โฆษกส่วนใดที่อาจจะมีภารกิจ บางท่านอาจเป็นข้าราชการการเมืองอยู๋แล้ว บางท่านอาจเป็นข้าราชการประจำ เรียกว่าระยะเวลาหรือการทำหน้าที่อาจจะไม่เต็มที่ ท่านก็บอกว่า ก็ให้คนอื่นเข้ามาทำได้ นี่เป็นข้อเท็จจริงที่อยากชี้แจงให้เคลียร์" นายอนุชา กล่าว
ข่าวประกอบ :
6 องค์กรสื่อฯ จี้รัฐทบทวนข้อกำหนดการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินกระทบต่อเสรีภาพ
แถลงการณ์ 6 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน จี้รัฐยกเลิกจำกัดเสรีภาพสื่อ-ประชาชน
วงเสวนาจี้รัฐยกเลิก'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน'ชี้หยุดอ้างเฟกนิวส์ คุกคามเสรีภาพสื่อ-ประชาชน
‘บิ๊กตู่’ยกระดับคุม!ห้ามเสนอข่าวให้คนหวาดกลัว สั่ง กสทช.ตรวจสอบ-ระงับไอพีทันที
คณบดีนิติฯ มธ.อัด ข้อกำหนด ฉ.29 ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ ขัดต่อสามัญสำนึก-รัฐธรรมนูญ
6 องค์กรวิชาชีพสื่อ ยื่น จม.เปิดผนึกจี้ยกเลิก ข้อกำหนดห้ามเสนอข่าวให้คนหวาดกลัว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage