"...จากการตรวจสอบพบว่ามีห้างหุ้นส่วนจํากัดและบริษัทจํากัด ที่ไม่ปรากฏชื่อในทะเบียนนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ายื่นเสนอราคาเข้ามา คือ บริษัท อมรกรีนเฮ้าส์ จํากัด ซึ่งมีนางสาวอมร เตชะชมพูเวท ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท ไม่ปรากฏชื่อในทะเบียนราษฎร์ ของกรมการปกครอง ส่วนนางสาวอมร ที่มีนามสกุลเตชะชมพูเวทย์ หรือนามสกุลเตชะชมภูเวทย์ ซึ่งมีชื่อในทะเบียนราษฎร ไม่มีส่วน เกี่ยวข้องกับบริษัทอมรกรีนเฮ้าส์ จํากัด และไม่เคยเกี่ยวข้องกับการเสนอราคาจัดซื้อต้นไม้ตามฟ้อง..."
.................................
นายชาย บัวเพ็ชร อดีตนักวิชาการฝึกอาชีพ 5 จำเลยที่ 1 ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาลงโทษ จำคุกกระทงละ 6 ปี รวม 21 กระทง เป็นจำคุก 126 ปี แต่รับโทษจริงแค่ 50 ปี ตาม ป.อ.มาตรา 91 (3)
ส่วนนายปราณีต หรือ ประณีต ประภากรณ์กุล หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อยู่สุขก่อสร้าง โดนพิพากษาลงโทษจำคุก กระทงละ 4 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 8 ปี
คือ ผลความคืบหน้าคดีทุจริตจัดซื้อและเบิกจ่ายเงินค่าต้นไม้ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานงวดปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 -2545 จำนวน 69 ครั้ง ที่ข่าวปรากฏเป็นข่าวโด่งดังในอดีต ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบล่าสุด
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษาให้จำคุก นางประไพศรี เผ่าพันธุ์ อดีตรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน รวม 49 กระทง กระทงละ 5 ปี รวมทั้งสิ้น 245 ปี ฐานกระทำผิดทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) ในการดำเนินโครงการ จัดซื้อต้นไม้ปรับแต่งภูมิทัศน์และอาคารสถานที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ระหว่างปีงบประมาณ 2543-2545 จำนวน 201 งานจ้าง เป็นเงินทั้งสิ้น 311,317,086 บาท ซึ่งมีพฤติการณ์ช่วยเหลือเอกชนแห่งหนึ่ง โดยไม่มีการดำเนินการสอบราคาและแข่งขันเสนอราคากันจริง โดยทำเอกสารเท็จของเอกชนรายอื่นมาเป็นหลักฐานแข่งขันเสนอราคาดังกล่าว แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงแล้วตามกฎหมายให้จำคุกสูงสุดไว้ 50 ปี
นอกจากนี้คำพิพากษา ยังลงโทษจำคุกข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานกับเอกชนผู้เสนองาน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดสมยอมราคา อีกรวม 13 ราย คนละ 30-40 กระทง ให้จำคุกสูงสุดไว้ 50 ปีเช่นกัน ทั้งนี้ศาลได้พิพากษายกฟ้องข้าราชการชั้นผู้น้อยประมาณ 20 ราย เนื่องจากเห็นว่าเป็นเพียงผู้รับเรื่องประมูล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสมยอมราคาและการทุจริต
(อ่านประกอบ : คุก 126 ปี ติดจริง 50! อดีต ขรก.กรมพัฒนาฝีมือฯ ทุจริตซื้อต้นไม้ - เอกชน โดน 8 ปี)
ข้อมูลที่ยังไม่ปรากฏต่อสาธารณะเป็นทางการ คือ พฤติการณ์การกระทำความผิดของ นายชาย บัวเพ็ชร อดีตนักวิชาการฝึกอาชีพ 5 ผู้นี้ ที่ทำให้ถูกพิพากษาลงโทษจำคุกถึง 126 ปี
สำนักข่าวอิศรา สืบค้นคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ตัดสินลงโทษ นายชาย บัวเพ็ชร ระบุข้อมูลไว้ดังนี้
ตามวันเวลาเกิดเหตุในฟ้อง นายชาย บัวเพ็ชร จําเลยที่ 1 มีตําแหน่งเป็นนักวิชาการฝึกอาชีพ 4 กองคลัง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4
ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในขณะนั้นต้องปฏิบัติตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535
โดยจําเลยที่ 1 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาตามฟ้อง รวม 9 ครั้ง ในการจัดซื้อต้นไม้ให้แก่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร มุกดาหาร กาญจนบุรีแม่ฮ่องสอน นครศรีธรรมราช ตราด สุโขทัย สิงห์บุรี สมุทรสาคร
และ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุตามฟ้อง รวม 12 ครั้ง ในการจัดซื้อต้นไม้ให้แก่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม สิงห์บุรี น่าน กําแพงเพชร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี เชียงใหม่ หนองคาย ปทุมธานี เชียงใหม่ ตาก ซึ่ง ห้างหุ้นส่วนจํากัดอยู่สุข ก่อสร้าง ซึ่งมีนายปราณีต หรือ ประณีต ประภากรณ์กุล จําเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เข้าร่วมยื่นซองเสนอราคาในการจัดซื้อต้นไม้ให้แก่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสุโขทัย ตาก
ตามเอกสารเกี่ยวกับการจัดซื้อต้นไม้ รวม 21 ครั้ง ตามฟ้อง มีการจัดซื้อ จัดจ้าง ในลักษณะและทํานองเดียวกัน โดยไม่เป็นไปตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 เริ่มตั้งแต่การเสนอขออนุมัติจัดซื้อต้นไม้โดยวิธีสอบราคา
ซึ่งระเบียบดังกล่าวระบุไว้ในข้อ 27 ว่า “ก่อนดําเนินการซื้อหรือจ้างทุกวิธี นอกจากการซื้อที่ดินและหรือสิ่งก่อสร้างตามข้อ 28 ให้เจ้าหน้าที่พัสดุจัดทํารายงานเสนอหัวหน้าส่วนราชการตามรายการ ดังต่อไปนี้ (1) เหตุผลและความจําเป็นที่จะต้องซื้อหรือจ้าง (2) รายละเอียดของพัสดุที่จะซื้อหรืองานที่จะจ้าง”
แต่ประกาศสอบราคาจัดซื้อต้นไม้ทั้ง 21 ครั้ง การจัดซื้อดังกล่าวข้างต้นไม่ได้ระบุรายการและจํานวนต้นไม้ที่จะจัดซื้อในส่วนของการเผยแพร่การสอบราคา ไม่มีการส่งประกาศสอบราคาจัดซื้อต้นไม้ให้ผู้มีอาชีพขาย
คงมีเพียงแต่หนังสือเชิญยื่นเสนอราคาถึงห้างหุ้นส่วนจํากัดหรือบริษัทที่มีการยื่นเสนอราคาเข้ามาในแต่ละการจัดซื้อตามฟ้องเท่านั้น
ต่อมาเมื่อมีการยื่นซองเสนอราคา ในส่วนของคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา ซึ่งมีจําเลยที่ 1 เป็นกรรมการร่วมอยู่ด้วยรวม 9 ครั้งนั้น คณะกรรมการเปิดซองสอบราคามิได้ดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ของตน ซึ่งตามระเบียบสํานักงานนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ข้อ 42 ระบุว่า “คณะกรรมการเปิดซองสอบราคามีหน้าที่ดังนี้
(1) เปิดซองใบเสนอราคา และอ่านแจ้งราคาพร้อมบัญชีรายการเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ของผู้เสนอราคาทุกรายโดยเปิดเผย ตามวัน เวลา และสถานที่ที่กําหนด และตรวจสอบรายการเอกสารตามบัญชีของผู้เสนอราคาทุกราย แล้วให้กรรมการทุกคนลงลายมือชื่อกํากับไว้ในใบเสนอราคาและเอกสารประกอบใบเสนอราคาทุกแผ่น
(2) ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคา ใบเสนอราคา แคตตาล็อกหรือแบบรูปและรายละเอียด แล้วคัดเลือกผู้เสนอราคาที่ถูกต้องตามเงื่อนไขในเอกสารสอบราคา...”
โดยไม่ปรากฏหลักฐานการรับซองสอบราคา ไม่มีหลักฐานว่ามีการปฏิบัติหน้าที่พร้อมกัน และร่วมกันเปิดซอง ณ สถานที่ที่กําหนดในประกาศสอบราคา การลงลายมือชื่อในใบเสนอราคาและเอกสารประกอบการเสนอราคาบางรายการลงไว้ไม่ครบถ้วน
และจากการตรวจสอบพบว่ามีห้างหุ้นส่วนจํากัดและบริษัทจํากัด ที่ไม่ปรากฏชื่อในทะเบียนนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ายื่นเสนอราคาเข้ามา คือ บริษัท อมรกรีนเฮ้าส์ จํากัด ซึ่งมีนางสาวอมร เตชะชมพูเวท ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท ไม่ปรากฏชื่อในทะเบียนราษฎร์ ของกรมการปกครอง
ส่วนนางสาวอมร ที่มีนามสกุลเตชะชมพูเวทย์ หรือนามสกุลเตชะชมภูเวทย์ ซึ่งมีชื่อในทะเบียนราษฎร ไม่มีส่วน เกี่ยวข้องกับบริษัทอมรกรีนเฮ้าส์ จํากัด และไม่เคยเกี่ยวข้องกับการเสนอราคาจัดซื้อต้นไม้ตามฟ้อง
บริษัท จีระรุตน์ จํากัด ซึ่งมีนายจีระรุตน์ อุปโยธา เป็นกรรมการผู้จัดการ ไม่ปรากฏชื่อในฐานข้อมูลทะเบียนสํานักงานทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และบริษัทกรีนการ์เด้นท์ จํากัด ซึ่งอ้างว่ามีนางสาวศิริ พูลเกตุ เป็นกรรมการผู้จัดการ นางสาวศิริไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทหรือเคยขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
และในส่วนบริษัทอัจฉริยะตระการ จํากัด ซึ่งมีนายประยุทธ ผินสุวรรณ เป็นกรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจํากัดสยามชาติธุรกิจ ซึ่งมีนายวีระชาติ เจียมวิจักษณ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ต่างไม่ได้เข้าร่วมยื่นเสนอราคาในการจัดซื้อต้นไม้ตามฟ้อง
ย่อมแสดงว่าจําเลยที่ 1 กับพวกมิได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาซึ่งต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาตามที่ได้รับมอบหมายจริง
แต่จําเลยที่ 1 กับพวกในฐานะคณะกรรมการเปิดซองสอบราคากลับเห็นควรอนุมัติรับราคาของผู้เสนอราคาต่ําสุด และ เป็นเหตุให้มีการอนุมัติจัดซื้อตามเสนอนั้น
โดยไม่ปรากฏว่ามีการส่งสัญญาหรือข้อตกลงการสั่งซื้อให้สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคแล้วแต่กรณี และกรมสรรพากร ตามข้อ 135 ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 แต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทซึ่งได้ทําสัญญากับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในแต่ละการจัดซื้อตามฟ้องอ้างว่า ส่งต้นไม้ให้ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานตามสัญญาแล้ว
จําเลยที่ 1 ซึ่งร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุรวม 12 ครั้ง ตามฟ้องนั้น มิได้ปฏิบัติตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ข้อ 72 โดยไม่ปรากฏบันทึกรายงานการเดินทางไปตรวจรับพัสดุหรือมีบันทึกรายงานการเดินทางไปตรวจรับพัสดุแต่มีเพียงคณะกรรมการบางคนซึ่งแสดงให้เห็นว่ามิได้มีการตรวจรับพัสดุพร้อมกันตามอํานาจหน้าที่ของแต่ละคน
และเมื่อจําเลยที่ 1 กับพวก ในฐานะคณะกรรมการตรวจรับพัสดุลงนามรับต้นไม้แล้ว จึงมีการเบิกอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้แก่ห้างหุ้นส่วนจํากัดหรือบริษัทจํากัดซึ่งเป็นผู้เข้าทําสัญญากับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในการจัดซื้อต้นไม้ตามฟ้อง โดยเจ้าหน้าที่บริหารการเงินผู้รับผิดชอบในแต่ละการจัดซื้อได้จัดทําฎีกาเงินงบประมาณและลงนามผู้เบิกรับรองว่า “การเบิกเงินตามฎีกาฉบับนี้ได้ปฏิบัติตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุถูกต้องแล้ว และมีหนี้ผูกพันทันทีที่ถึงกําหนดต้องจ่ายเงินแล้ว”
เมื่อ คลั่งอนุมัติฎีกา กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้จ่ายเงินเป็นค่าจัดซื้อต้นไม้ตามการจัดซื้อแต่ละประกาศตามฟ้องไป
ต่อมาภายหลังมีการตรวจสอบต้นไม้ที่จัดซื้อในแต่ละศูนย์ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานตามฟ้องพบว่า ไม่มีต้นไม้ให้ตรวจสอบหรือไม่มีปลูกอยู่ในบริเวณศูนย์ หรือต้นไม้มีไม่ครบตามรายการสั่งซื้อ หรือไม่ตรงกับรายการสั่งซื้อ หรือไม่มีการจัดส่งต้นไม้เพื่อปลูกในศูนย์
หรือเมื่อพิจารณาจากรูปลักษณะตลอดจนขนาดของต้นไม้กับราคาต่อหน่วยที่ซื้อแล้วเห็นว่า ไม่น่าจะใช่ต้นไม้ที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานสั่งซื้อ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานการที่จําเลยที่ 1 กับพวก ไม่ปฏิบัติตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ซึ่งกําหนดหลักเกณฑ์ที่ให้หน่วยงานของรัฐนําไปใช้เป็นหลักปฏิบัติเพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยมุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนให้มากที่สุดเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม โดยเฉพาะการไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวในส่วนที่เป็นสาระสําคัญ คือ การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาในฐานะเป็นคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา กับการตรวจรับพัสดุซึ่งต้องเดินทางไปตรวจรับยังสถานที่ที่กําหนดไว้ด้วยตัวจําเลยที่ 1 เองนั้น
ย่อมแสดงให้เห็นถึงการเข้าไปมีส่วนร่วมในการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างตามฟ้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ซึ่งปรากฏว่าการจัดซื้อรวม 21 รายการตามฟ้องนี้มีห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่หมุนเวียนกันเข้ามาเสนอราคาโดยผู้ที่จะได้ทําสัญญากับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในแต่ละการจัดซื้อนั้นจะเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางที่ประกาศกําหนดเพียงรายเดียว
ส่วนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ร่วมเสนอราคาด้วยนั้นจะเสนอราคาให้สูงกว่าราคากลางที่ประกาศกําหนดเพื่อจะไม่ได้รับการพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ไม่มีการจดทะเบียนจริง หรือบุคคลที่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการผู้จัดการผู้มีอํานาจกระทําการแทน ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น ๆ ก็ไม่มีตัวตนในแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎรของกรมการปกครองหรือหากมีตัวตนก็ไม่เคยเกี่ยวข้องกับห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าร่วมเสนอราคานั้น ๆ มีลักษณะแอบอ้างเอาชื่อบุคคลอื่นมาใช้ พฤติการณ์จึงเป็นการร่วมกันเสนอราคาเพื่อให้ครบตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศกําหนดแต่มิได้มีเจตนาจะเข้าแข่งขันราคากันอย่างแท้จริง อีกทั้งเมื่อผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดและได้รับการพิจารณาให้เข้าทําสัญญากับกรมฝีมือแรงงานแล้วนั้น ก็มิได้ปฏิบัติตามสัญญาให้ถูกต้อง
แต่กลับได้รับอนุมัติเบิกจ่ายเงินครบถ้วนตามสัญญาแต่ละการจัดซื้อตามฟ้อง
การกระทําของจําเลยที่ 1 จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือโดยทุจริต และเป็นการกระทําการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออํานวยแก่ผู้เข้าทําการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทําสัญญากับหน่วยงานของรัฐ
ส่วนที่จําเลยที่ 1 ให้การต่อสู้ว่า ไม่รู้เรื่องระเบียบปฏิบัติ อีกทั้งมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนแต่งตั้งให้จําเลยที่ 1 เป็นคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาและคณะกรรมการตรวจรับพัสดุเพราะมีตําแหน่งที่จะรับผิดชอบหน้าที่ดังกล่าวได้เพียงไม่กี่คนนั้น
เห็นว่า การกําหนดหลักเกณฑ์ให้พนักงานระดับใดรับผิดชอบงานระดับใดนั้น ย่อมต้องเป็นไปตามความรู้ความสามารถที่ผ่านที่ผ่านการปฏิบัติงานมาทั้งพร้อมจะรับผิดชอบงานดังกล่าวให้ผ่านไปได้ด้วยดี
เมื่อจําเลยที่ 1 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาและคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ แม้จะไม่มีความรู้ในเรื่องดังกล่าว
แต่จําเลยที่ 1 ต้องขวนขวายศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และดําเนินการตามหน้าที่ดังกล่าวด้วยตนเอง มิใช่เพียงแต่ลงลายมือชื่อในเอกสารที่มีผู้ทํามาให้โดยมิได้มีการตรวจสอบทักท้วงแต่อย่างใด
ข้อต่อสู้ของจําเลยที่ 1 จึงฟังไม่ขึ้น
ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามแนวทางการไต่สวนว่า จําเลยที่ 1 ร่วมกับพวกปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือโดยทุจริต และเมื่อจําเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เป็นคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ จึงมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทํา จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ใช้อํานาจในตําแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ หรือกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับมีความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กระทําการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออํานวยแก่ผู้เข้าทําการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทําสัญญากับหน่วยงานของรัฐ อันเป็นความผิดตามฟ้อง
สำหรับพฤติการณ์การกระทำความผิดของ นายปราณีต หรือ ประณีต ประภากรณ์กุล หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อยู่สุขก่อสร้าง จำเลยที่ 2 ในคดีนี้ ที่โดนศาลฯ พิพากษาจำคุก เป็นระยะเวลา 8 ปี
รายละเอียดเป็นอย่างไร สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
อุทธรณ์พิพากษากลับยกฟ้อง 3 อดีตบิ๊ก คพ.คดีคลองด่าน-อสส.ยังยื่นฎีกาสู้คดีต่อ
คุก 1 ปี 4 ด.! อดีต 'พ.ต.ท.' สน.บางบอน สารภาพไม่รับแจ้งความถูกปล้นทรัพย์
ยืนโทษคุก 10 ปี! อดีต หน.ศูนย์ขยายพันธุ์ไหม ทุจริตจัดซื้อจ้าง-พวกโดน 6 ปี 8 ด.
เปิดละเอียด! พฤติการณ์ อดีต หน.ศูนย์ขยายพันธุ์ไหม ศรีสะเกษ ทุจริตจ้างแรงงาน คุก 10 ปี
รอลงอาญา! คุก 24 ปี 72 ด. อดีตจนท อบต. เตาปูน แพร่ เบียดบังเงินค่าเก็บขยะ
คุก 12 ปี 36 ด.! ไม่รอลงอาญา อดีตผอ.เลือกตั้งเขต 6 ร้อยเอ็ด ปลอมเอกสารจัดจ้างเท็จ
คุก 1 ปี 6 ด.! 'ร.ต.อ.' สภ.นครไทย พิษณุโลก ปล่อยตัวผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยพลการ
รอลงอาญา คุก 8 ด.! อดีตประมงโคราช เรียกรับเงินผู้ขายลูกพันธุ์ปลานิลแปลงเพศ
คดีที่สอง! คุก 3 ปี 4 ด. อดีตนายก อบต.ตรมไพร ยักยอกเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพ
คุก 126 ปี ติดจริง 50! อดีต ขรก.กรมพัฒนาฝีมือฯ ทุจริตซื้อต้นไม้ - เอกชน โดน 8 ปี
คดีที่ 2 ! ยืนโทษคุก 3 ปี 6 ด. อดีตนายกฯ ป่าไผ่ เชียงใหม่ ทุจริตซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage