“...นำมูลค่าข้าวที่ตกลงขายตามสัญญามาเปรียบกับมูลค่าข้าว ณ วันทำสัญญา ผลต่างมูลค่าข้าวจะเป็นค่าเสียหาย โดยมูลค่าข้าวที่ตกลงขายตามสัญญา ได้แก่ ปริมาณที่ส่งมอบข้าวคูณด้วยราคาที่ตกลงขายตามสัญญา และมูลค่าข้าว ณ วันทำสัญญา ได้แก่ ปริมาณที่ส่งมอบคูณด้วยราคาตลาดภายในประเทศ ที่มีการซื้อขายกันโดยทั่วไป ณ วันทำสัญญา ผลต่างเป็นค่าเสียหายเท่ากับจำนวน 20,014,284,113.16 บาท…”
......................................
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2564 ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษายกฟ้อง คดีระหว่างนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีต ผอ.สำนักบริหารการค้าข้าว กรมการค้าต่างประเทศ และอดีตผู้ช่วยเลขานุการในคณะทำงานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว นายอัฐฐิติพงศ์ หรือ อัครพงศ์ ทีปวัชระ หรือช่วยเกลี้ยง อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พานิชย์ เป็นผู้ฟ้องคดีที่ 1-5 โดยมีนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 กรณีขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ที่สั่งให้ทั้งหมดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการทุจริตโครงการรับจำนำ และโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) 4 สัญญา สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
โดยศาลปกครองกลางยืนยันให้นายมนัส นายทิฆัมพร นายภูมิ และนายบุญทรง ชดใช้ค่าเสียหายวงเงิน 20% ในการทุจริตข้าวจีทูจี และพิพากษาแก้ลดสัดส่วนของนายอัครพงศ์ ทีปวัชระ ลดเป็นชดใช้ 10% ในสัญญาที่ 1-2 และชดใช้ 20% ในสัญญาที่ 3-4 รวมวงเงินทั้งสิ้นกว่า 2 หมื่นล้านบาท (อ่านประกอบ : ศาล ปค.พิพากษายันชดใช้ค่าข้าวจีทูจี 2 หมื่นล.! ‘บุญทรง’ 1,768 ล.-‘ภูมิ’ 2,242 ล.)
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ศาลปกครองกลางใช้หลักอะไรในการคิดคำนวณค่าความเสียหายดังกล่าว?
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) หยิบยกคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2564 มานำเสนอ ดังนี้
มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (นายกรัฐมนตรี) โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (รมว.พาณิชย์) และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (ปลัดกระทรวงพาณิชย์) ออกคำสั่งเรียกให้ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ทางราชการเป็นธรรมตามระดับความร้ายแรงแห่งการกระทำละเมิดหรือไม่
พิจารณาแล้วเห็นว่า มาตรา 9 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 บัญญัติว่า ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเพื่อการละเมิดของเจ้าหน้าที่ ให้หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ผู้ทำละเมิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ได้กระทำการนั้นไปด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เมื่อความเสียหายที่เกิดจากการกระทำละเมิดของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ปรากฎข้อเท็จจริงตามรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดและความเห็นของผู้ฟ้องคดีที่ 4 (กระทรวงการคลัง) ดังนี้
สัญญาฉบับที่ 1 ลงวันที่ 6 ต.ค. 2554 ระหว่าง กรมการค้าต่างประเทศ กับบริษัท กวางตุ้งฯ ขายข้าวทุกชนิดในคลังสินค้าของรัฐบาลไทย เป็นข้าวนาปี ปีการผลิตเก่า 2548/49 ปี 2551/52 ปี 2552/53 และข้าวนาปรังปี 2549 ปี 2551 และปี 2552 ราคา ณ หน้าคลังสินค้า (Ex-Warehouse) ถัวเฉลี่ยทุกชนิดข้าวตันละ 1 หมื่นบาท โดยมีการรับมอบข้าวตามสัญญา 1,820,815.66 ตัน มูลค่าตามสัญญา (มูลค่าข้าวตามเช็คที่ได้รับ) 18,208,156,586.36 บาท มูลค่าข้าวที่มีการรับมอบจริง 18,208,156,700 บาท ส่วนต่างระหว่างมูลค่าตามสัญญาและมูลค่าข้าวที่มีการรับมอบจริง (ชำระเงินค่าข้าวที่รับมอบไม่ครบมูลค่าตามสัญญา) 113.64 บาท และมีส่วนต่างราคาข้าวที่ตกลงขายตามสัญญากับมูลค่าตามราคาตลาด ณ วันที่ทำสัญญา หักลดค่าเสื่อมสภาพ จำนวน 10,991,736,139.90 บาท
สัญญาฉบับที่ 2 ลงวันที่ 6 ต.ค. 2554 ระหว่าง กรมการค้าต่างประเทศ กับบริษัท กวางตุ้งฯ ขายข้าวนาปี ปีการผลิตใหม่ 2554/55 ปริมาณ 2 ล้านตัน ณ หน้าคลังสินค้า และวันที่ 2 พ.ย. 2554 ผู้ฟ้องคดีที่ 1 (นายมนัส) มีบันทึกขอแก้ไขสัญญาขอเพิ่มปริมาณปลายข้าวหอมมะลิ 2.5 แสนตัน รวมเป็น 2,250,000 ตัน โดยมีการรับมอบข้าวตามสัญญา 1,402,537.86 ตัน มูลค่าตามสัญญา 28,988,111,652.88 บาท มูลค่าข้าวที่มีการรับมอบจริง 29,031,549,776.80 บาท ส่วนต่างระหว่างมูลค่าตามสัญญาและมูลค่าข้าวที่มีการรับมอบจริง 43,438,123.92 บาท และมีส่วนต่างราคาข้าวที่ตกลงขายตามสัญญากับมูลค่าข้าวตามราคาตลาด ณ วันทำสัญญา หักลดตามค่าเสื่อมสภาพ จำนวน 2,135,632,483.87 บาท
สัญญาฉบับที่ 3 ลงวันที่ 3 ก.ค. 2555 ระหว่างกรมการค้าต่างประเทศ กับบริษัท กวางตุ้งฯ ขายข้าวนาปรังปีการผลิต 2555 ราคาหน้าคลังสินค้า ข้าวขาว 5% รวม 5 แสนตัน และปลายข้าวเอวันเลิศ (A1 Super) 5 แสนตัน โดยมีการรับมอบข้าวตามสัญญา 1,654,453.13 ตัน มูลค่าตามสัญญา 22,505,865,369.16 บาท มูลค่าข้าวที่มีการรับมอบจริง 22,505,866,749.80 บาท ส่วนต่างระหว่างมูลค่าตามสัญญาและมูลค่าข้าวที่มีการรับมอบจริง 1,380.64 บาท และมีส่วนต่างราคาข้าวที่ตกลงขายตามสัญญากับมูลค่าข้าวตามราคาตลาด ณ วันทำสัญญา หักลดตามค่าเสื่อมสภาพ จำนวน 6,687,419,994.09 บาท
สัญญาฉบับที่ 4 ลงวันที่ 6 ก.ย. 2555 ระหว่าง กรมการค้าต่างประเทศ กับบริษัท ห่ายหนานฯ ขายปลายข้าวเหนียวขาวเอวันเลิศ ข้าวนาปี 2554/55 และข้าวนาปรังปี 2555 ปริมาณ 65,000 ตัน โดยมีการรับมอบข้าวตามสัญญา 61,383.22 ตัน มูลค่าตามสัญญา 847,088,405.70 บาท มูลค่าข้าวที่มีการรับมอบจริง 847,088,436 บาท ส่วนต่างระหว่างมูลค่าตามสัญญาและมูลค่าข้าวที่มีการรับมอบจริง 30.30 บาท บาท และมีส่วนต่างราคาข้าวที่ตกลงขายตามสัญญากับมูลค่าข้าวตามราคาตลาด ณ วันทำสัญญา หักลดตามค่าเสื่อมสภาพ จำนวน 199,495,495.30 บาท
ความเสียหายตามข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงแบ่งได้ 2 กรณี ดังนี้
1.ความเสียหายจากราคาขายตามสัญญา โดยพิจารณาจากข้อมูลการทำสัญญาซื้อขาย และระบายข้าวตามสัญญา คิดค่าเสื่อมสภาพของข้าว (ข้าวปีการผลิตเก่า) ในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี และราคาตลาดในประเทศที่มีการเสนอราคาซื้อขายกันโดยทั่วไปในขณะนั้น (ใช้ราคาข้าวเฉลี่ยระหว่างราคาข้าวภายในประเทศของกรมการค้าภายใน กับราคาของสมาคมโรงสีข้าวไทย ณ วันที่ทำสัญญา) โดยนับอายุข้าวตามปีการผลิต มีรายละเอียดการพิจารณา ดังนี้
1) กรมการค้าต่างประเทศตกลงทำสัญญาซื้อขายข้าวกับรัฐวิสาหกิจจีนทั้งหมด 4 สัญญา ปริมาณข้าวรวม 6,495,000 ตัน มีการส่งมอบข้าวตามสัญญาเป็นปริมาณรวม 4,939,190 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 70,549,222,014.10 บาท ราคาที่ตกลงซื้อขายเป็นราคาส่งมอบ ณ หน้าคลังสินค้า
2) นำหลักการคิดค่าเสื่อมราคาสภาพข้าวที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด พิจารณาใช้สำหรับข้าวปีการผลิตเก่า โดยคิดคำนวณค่าเสื่อมสภาพข้าวตามอายุปีการผลิต แล้วนำมาหักออกจากราคาตลาดภายในประเทศของข้าวแต่ละชนิดที่มีการเสนอราคาซื้อขายกันโดยทั่วไปในขณะนั้น คงเหลือเป็นราคาเฉลี่ยข้าวแต่ละชนิด ณ วันทำสัญญา หลังหักค่าเสื่อมสภาพข้าว
3) นำหลักการเปรียบเทียบราคามาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาคิดค่าเสียหาย กล่าวคือ นำมูลค่าข้าวที่ตกลงขายตามสัญญามาเปรียบกับมูลค่าข้าว ณ วันทำสัญญา ผลต่างมูลค่าข้าวจะเป็นค่าเสียหาย โดยมูลค่าข้าวที่ตกลงขายตามสัญญา ได้แก่ ปริมาณที่ส่งมอบข้าวคูณด้วยราคาที่ตกลงขายตามสัญญา และมูลค่าข้าว ณ วันทำสัญญา ได้แก่ ปริมาณที่ส่งมอบคูณด้วยราคาตลาดภายในประเทศ ที่มีการซื้อขายกันโดยทั่วไป ณ วันทำสัญญา ผลต่างเป็นค่าเสียหายเท่ากับจำนวน 20,014,284,113.16 บาท
กรณีจึงแยกความเสียหายแต่ละสัญญาได้ ดังนี้
สัญญาฉบับที่ 1 เสียหาย 10,991,736,139.90 บาท สัญญาฉบับที่ 2 เสียหาย 2,135,632,483.87 บาท สัญญาฉบับที่ 3 เสียหาย 6,687,419,994.09 บาท สัญญาฉบับที่ 4 เสียหาย 199,495,495.30 บาท
2.ความเสียหายจากการชำระค่าข้าวตามสัญญาน้อยกว่ามูลค่าข้าวที่มีการรับมอบจริง โดยพิจารณาจากมูลค่าที่มีการชำระราคาตามปริมาณข้าวที่รับมอบจริง นำมาหักออกจากมูลค่าที่ต้องชำระตามปริมาณข้าวที่รับมอบแต่ละชนิดคูณด้วยราคาของแต่ละชนิดข้าวที่ตกลงขายตามสัญญา คิดเป็นค่าเสียหายจำนวน 43,439,648.50 บาท
รวมความเสียหายทั้ง 2 กรณี คิดเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 20,057,723,761.66 บาท
ทั้งหมดคือประเด็นการคิดคำนวณค่าเสียหายในโครงการระบายข้าวจีทูจี 4 สัญญาแรก นำไปสู่คำพิพากษาของศาลปกครองกลางให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 (นายมนัส สร้อยพลอย) ชดใช้ 4,011 ล้านบาท ผู้ฟ้องคดีที่ 2 (นายทิฆัมพร นาทวรทัต) ชดใช้ 4,011 ล้านบาท ผู้ฟ้องคดีที่ 4 (นายภูมิ สาระผล) ชดใช้ 2,242 ล้านบาท และผู้ฟ้องคดีที่ 5 (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) ชดใช้ 1,768 ล้านบาท
ส่วนผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (นายอัฐฐิติพงศ์ หรือ อัครพงศ์ ทีปวัชระ หรือช่วยเกลี้ยง) ให้ชดใช้ในส่วนสัญญาฉบับที่ 1-2 จำนวน 10% และชดใช้สัญญาฉบับที่ 3-4 จำนวน 20% รวมชดใช้ 2,694 ล้านบาท
นับเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่นักการเมือง และข้าราชการทุกรายต้องพึงระวัง!
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายบุญทรง จาก https://static.posttoday.com/, ภาพนายภูมิ จากเฟซบุ๊กแฟนเพจ ภูมิ สาระผล
อ่านประกอบ :
ประมวลข้อโต้แย้ง-เหตุผลศาล ปค.ไฉนชี้ขาด‘บุญทรง-พวก’ชดใช้ค่าข้าวจีทูจี 2 หมื่นล.?
ศาล ปค.พิพากษายันชดใช้ค่าข้าวจีทูจี 2 หมื่นล.! ‘บุญทรง’ 1,768 ล.-‘ภูมิ’ 2,242 ล.
29 มี.ค.ศาล ปค.นัดพิพากษา ‘บุญทรง-ภูมิ’ชดใช้ข้าวจีทูจี-2 เม.ย.ตัดสินคดี'ยิ่งลักษณ์'
รอเคาะวันพิพากษา! คดีชดใช้ค่าเสียหายข้าว‘ยิ่งลักษณ์’ศาล ปค.แสวงข้อเท็จจริงยุติแล้ว
ศาลปค.ยกคำร้อง ‘ยิ่งลักษณ์’ ยื่นครั้งที่ 2 ขอทุเลาบังคับคดีจำนำข้าว
ตามรอย‘ภูมิ-บุญทรง’!ศาลปค.ยกคำร้อง ‘ปู’ขอทุเลาอายัดทรัพย์คดีจำนำข้าว
‘ภูมิ-บุญทรง’แห้ว!ศาล ปค.ไม่คุ้มครองปมอาจถูกอายัดทรัพย์ชดใช้คดีจีทูจี 2 หมื่นล.
ชั่วชีวิตใช้ไม่หมด! ‘ปู’ขอศาลคุ้มครองชั่วคราวปมอายัดทรัพย์คดีข้าว 3.5 หมื่นล.
โชว์ชัดค่าเสียหายจำนำข้าว 1.7 แสนล. 'ปู'จ่ายแค่ 20%-วิจารณ์ขรมคำนวณผิด?
ชาติเสียหาย5แสนล.! สตง.ชง บิ๊กตู่ ค้าน คลัง คิดค่าเสียหายจำนำข้าว 'ปู' แค่ 20 %
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage