"....หลังจากที่มีการส่งเอกสารมาให้กับสำนักข่าวอิศราแล้ว ตัวแทนของนายสอนแก้วได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เข้าใจว่า ณ เวลานี้นั้นมีผู้ที่มาร้องเรียนแสดงความมีสิทธิเป็นเจ้าของไม้กองนี้จำนวน 3 รายได้แก่ 1. นายสมสัก แก้วผาลี ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทน สปป.ลาว 2.บุคคลที่อ้างตัวเองว่าเป็นผู้รับมอบจากบริษัทพงสะหวัน และ 3.นายสอนแก้ว สิดทิไช กรรมการวิสาหกิจส่วนบุคคล พงสะหวันอุตสาหกรรมไม้ ดังนั้น การดำเนินการหลังจากนี้ก็คงจะไปยื่นเรื่องต่อหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดการมีคณะกรรมการกลาง หรือให้เกิดการดำเนินการที่จะเชิญทั้ง 3 ฝ่ายเข้ามาให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับไม้กองนี้อย่างรอบด้านต่อไป ...."
.............................
ประเด็นตรวจสอบกรณีไม้พะยูงจำนวนกว่า 11 ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 1,664 ท่อน 155 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ที่อ้างว่าถูกนำเข้าจาก สปป.ลาว และถูกยึดไว้ที่สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง (ด่านลาดกระบัง) เมื่อปี พ.ศ.2549 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการนำไม้ดังกล่าวส่งคืนให้กับ สปป.ลาวแต่อย่างใด ทั้งที่เมื่อปี 2556 กระทรวงการต่างประเทศได้มีมติเตรียมจะคืนไม้ของกลางทั้งหมดให้กับรัฐบาล สปป.ลาว เรียบร้อยแล้ว
มีความซับซ้อนมากขึ้น! เมื่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการติดต่อจากบุคคลกลุ่มที่ 3 อ้างว่าเป็นตัวแทนทางกฎหมายอย่างเป็นทางการของนายสอนแก้ว สิดทิไช กรรมการวิสาหกิจส่วนบุคคล บริษัท พงสะหวันอุตสาหกรรมไม้ ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม้พะยูงของกลางตัวจริง และได้ยื่นหนังสือขอรับไม้คืนตั้งแต่ปี 2558 แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับไม้คืนแต่อย่างใด
โดยข้อเท็งจริงดังกล่าวปรากฎขึ้น หลังจากที่สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอข่าวข้อร้องเรียนจากบุคคลกลุ่มที่ 1 คือ นายสมสัก แก้วผาลี ซึ่งอ้างว่า เป็นตัวแทนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในการติดตามทวงถามไม้พะยูงจำนวนกว่า 11 ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 1,664 ท่อน 155 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท
ขณะที่ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า ได้ทำเรื่องคืนไม้ให้กับบริษัทพงสะหวันฯ ไปแล้ว หลังจากทำการสอบสวนเรื่องนี้ จนได้ข้อพิสูจน์ว่าไม้นี้เป็นของบริษัทพงสะหวัน
ก่อนที่ในเวลาต่อมา สำนักข่าวอิศรา จะได้รับการติดต่อจากบุคคลกลุ่มที่ 2 ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทพงสะหวัน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มติม โดยยืนยันว่า ทางรัฐบาลลาวไม่ได้มีการติดใจเอาความอะไรเกี่ยวกับการนำไม้จำนวน 11 ตู้คอนเทนเนอร์คืนดังกล่าวแล้ว พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมา มีความพยายามจากคนบางกลุ่มทั้งในส่วนลาวและไทย พยายามที่จะหาวิธีการครอบครองไม้จำนวน 11 ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวเอง แต่ทาง ปทส. ก็ได้มีการสอบสวนจนชัดเจนแล้วว่าไม้นั้นเป็นไม้ของบริษัทพงสะหวันจริง และยืนยันว่า ผลจากการที่มีบุคคลไปร้องเรียนหลายหน่วยงาน รวมไปถึงผู้ตรวจการแผ่นดินและก็กรมศุลกากรด้วย ทำให้ ณ เวลานี้เกิดปัญหาจนทำให้บริษัทพงสะหวันยังไม่สามารถที่จะนำไม้ออกจากด่านกรมศุลกากรได้ และทางบริษัทได้มีการร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องเหล่านี้แล้ว
(อ่านประกอบ : อ้างตัวแทน สปป.ลาว ตามทวงคืนไม้พะยูง 200 ล.โดนยึดปี 49-ผู้การ ปทส.ยันคืนให้บริษัทแล้ว, ปมคืนไม้พะยูงของกลาง 200 ล.วุ่น! บ.ลาว อ้างมีคนหวังฮุบ ยื่นสำนักนายกฯ ขอความเป็นธรรม)
สำหรับการเข้าพบเพื่อให้ข้อมูลของตัวแทนทางกฎหมายนายสอนแก้ว สิดทิไช กรรมการวิสาหกิจส่วนบุคคล พงสะหวันอุตสาหกรรมไม้ ซึ่งถือเป็นบุคคลกลุ่มที่ 3 อย่างเป็นทางการ นั้น เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยในระหว่างการชี้แจงข้อมูล ตัวแทนทางกฎหมายได้มีการโทรศัพท์ผ่านไลน์เพื่อให้ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้พูดคุยกับนายสอนแก้วที่อยู่ สปป.ลาว โดยตรง
นายสอนแก้ว ยืนยันกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราว่า "ไม้พะยูงของกล่าวนั้นเป็นของบริษัท โดยเราได้ยื่นหนังสือขอรับไม้คืนตั้งแต่ปี 2558 แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับไม้คืน ทางเราจึงได้ทำหนังสือส่งไปยัง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เมื่อวันที่ 9.มี.ค.2563 เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าเรื่องไม้ว่ามีการดำเนินการไปถึงไหนแล้วทำไมถึงยังไม่มีการส่งไม้มายัง สปป.ลาว และก็ได้รับการตอบกลับจาก ปทส. เมื่อวันที่ 13.มี.ค.2563 ว่า จะมีการคืนไม้ให้กับบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทพงสะหวัน (บุคคลกลุ่ม 2 ที่มาร้องกับสำนักข่าวอิศราก่อนหน้านี้)"
นายสอนแก้ว กล่าวอีกว่า กรณีที่ก่อนหน้านี้มีบุคคลอ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทพงสะหวันมาชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่าบุคคลดังกล่าวนั้น ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่ไปยื่นเอกสารดำเนินการเรื่องไม้ แต่เป็นผู้ที่ไปใช้เอกสารของทางบริษัทฯ ซึ่งส่วนตัวได้ไปดำเนินคดีบุคคลดังกล่าวแล้ว แต่บุคคลดังกล่าวกลับให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องไม้แต่อย่างใด ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกลับมายุ่งเรื่องไม้อีก
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรากำลังสัมภาษณ์นายสอนแก้ว สิดทิไช กรรมการวิสาหกิจส่วนบุคคล พงสะหวันอุตสาหกรรมไม้
เอกสารยืนยันว่านายสอนแก้ว สิดทิไชเป็นตัวแทนผู้มีอำนาจของบริษัท พงสะหวันอุตสาหกรรมไม้ พร้อมหนังสือเดินทางยืนยันตัวบุคคล
เมื่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนายสมศักดิ์ แก้วผาลี ที่มาทวงไม้พะยูงเช่นกัน โดยอ้างว่าไม้พะยูงนั้นควรจะคืนกับให้ทาง สปป.ลาว
ตัวแทนของนายสอนแก้ว ได้ชี้แจงว่า ในกรณีดังกล่าวขอยืนยันว่าทางบริษัทพงสะหวันฯ ได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อรัฐบาล สปป.ลาวมาแล้ว จนกระทั่งได้ข้อพิสูจน์ยืนยันไม้พะยูงกองดังกล่าวนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทพงสะหวันและ มีเอกสารระบุออกมาแล้วว่ารัฐบาล สปป.ลาวนั้นไม่มีความประสงค์ที่จะยุ่งเกี่ยวกับไม้กองนี้แล้ว
เอกสารจากสถานเอกอัคราชทูต สปป.ลาวประจำประเทศไทย
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า หลังการชี้แจงข้อมูลดังกล่าว ตัวแทนของนายสอนแก้วได้มีการส่งเอกสารมาให้สำนักข่าวอิศรา 2 ฉบับ ได้แก่ 1.เอกสารที่ตัวแทนนายสอนแก้วได้ส่งไปถึง ปทส.เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ทาง ปทส.ได้ออกหนังสือแจ้งให้บริษัทพงสะหวันได้มารับไม้ และ 2.เอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงกับกรมศุลกากร
เอกสารจากที่ตัวแทนผู้มีอำนาจของนายสอนแก้วยื่นให้กับ ปทส.
เอกสารจากที่ตัวแทนผู้มีอำนาจของนายสอนแก้วยื่นให้กับกรมศุลกากร
ทั้งนี้ หลังจากที่มีการส่งเอกสารมาให้กับสำนักข่าวอิศราแล้ว ตัวแทนของนายสอนแก้วได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เข้าใจว่า ณ เวลานี้นั้นมีผู้ที่มาร้องเรียนแสดงความมีสิทธิเป็นเจ้าของไม้กองนี้จำนวน 3 รายได้แก่ 1. นายสมสัก แก้วผาลี ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทน สปป.ลาว 2.บุคคลที่อ้างตัวเองว่าเป็นผู้รับมอบจากบริษัทพงสะหวัน และ 3.นายสอนแก้ว สิดทิไช กรรมการวิสาหกิจส่วนบุคคล พงสะหวันอุตสาหกรรมไม้ ดังนั้น การดำเนินการหลังจากนี้ก็คงจะไปยื่นเรื่องต่อหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดการมีคณะกรรมการกลาง หรือให้เกิดการดำเนินการที่จะเชิญทั้ง 3 ฝ่ายเข้ามาให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับไม้กองนี้อย่างรอบด้านต่อไป
ตัวแทนนายสอนแก้ว ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าหากมีการดำเนินการเช่นนั้นแล้ว เชื่อมั่นว่าด้วยหลักฐานต่างๆแล้ว จะปรากฎข้อเท็จจริงว่าไม้พะยูงดังกล่าวนั้นเป็นของบริษัทพงสะหวันตัวจริง ที่มีนายสอนแก้วทำหน้าที่เป็นกรรมการอยู่แน่นอน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ภายหลังได้รับทราบข้อมูลจากตัวแทนของนายสอนแก้วดังกล่าว ได้พยายามติดต่อไปยัง พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการ ปทส. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าได้ทำเรื่องคืนไม้ให้กับใครกันแน่ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
เมื่อติดต่อไปยังอธิบดีกรมศุลกากรเพื่อขอให้ยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้เพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง (ด่านลาดกระบัง) ที่ทำหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับไม้พะยูงดังกล่าว ได้รับการยืนยันข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งว่า "เรื่องไม้พะยูงนี้มีที่ไปที่มายาวนานมาก ตั้งแต่14 ปีก่อน โดยเรื่องเดิมนั้นไปอยู่ที่สำนักกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้มีกลุ่มคนที่มาอ้างสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของไม้พะยูงนี้เยอะมาก และเยอะกว่า 2 รายตามที่สำนักข่าวอิศราได้นำเสนอไปด้วยซ้ำ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทางกรมศุลกากรยังไม่กล้าตอบอะไรมาก เพราะเราก็ยังไม่รู้รายละเอียดว่าที่มาร้องนั้น ใครเป็นตัวจริงและใครเป็นตัวปลอมกันแน่ ดังนั้น อาจจะต้องมีการนำเรื่องนี้ไปประสานกระทรวงต่างประเทศเพื่อประสานไปยัง สปป.ลาวอีกทีหนึ่ง"
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ได้ขอให้สำนักข่าวอิศราได้ทำหนังสือขอสัมภาษณ์มาอย่างเป็นทางการก่อน
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ทำหนังสือขอสัมภาษณ์เป็นทางการไปแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างรอการตอบกลับจากทางกรมศุลกากรอยู่ในขณะนี้
อ่านประกอบ:
อ้างตัวแทน สปป.ลาว ตามทวงคืนไม้พะยูง 200 ล.โดนยึดปี 49-ผู้การ ปทส.ยันคืนให้บริษัทแล้ว
ปมคืนไม้พะยูงของกลาง 200 ล.วุ่น! บ.ลาว อ้างมีคนหวังฮุบ ยื่นสำนักนายกฯ ขอความเป็นธรรม
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage