“...เงื่อนไขการจัดสรรเงินกองทุนฯลักษณะนี้ เป็นการสกัด ‘ล็อบบี้ยิสต์’ ที่ไม่มีสายสัมพันธ์กับข้าราชการประจำ และถ้าทุกอย่างเป็นไปตามนี้ เรียกได้ว่าข้าราชการเป็นใหญ่อีกครั้ง และควบคุมการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน โดยไม่มีการถ่วงดุล...”
.................
“…ให้กำหนดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตและจำหน่ายเพื่อใช้ในราชอาณาจักร และน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร ซึ่งมีคุณภาพเป็นไปตามที่กรมธุรกิจพลังงานประกาศกำหนดตามกฎหมายว่าด้วยการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
(1) น้ำมันเบนซิน 0.1000 บาทต่อลิตร
(2) น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 0.1000 บาทต่อลิตร
(3) น้ำมันก๊าด 0.0700 บาทต่อลิตร
(4) น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 0.1000 บาทต่อลิตร
(5) น้ำมันดีเซลหมุนช้า 0.1000 บาทต่อลิตร
(6) น้ำมันเตา 0.0700 บาทต่อลิตร….”
เป็นข้อความใน ‘ประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำในราชอาณาจักร และน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในราชอาณาจักร พ.ศ.2563’ ซึ่งเป็นประกาศเกี่ยวกับการกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้า ‘กองทุนอนุรักษ์พลังงาน’ ฉบับล่าสุด
หลังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2563 เห็นชอบกำหนดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันดีเซลหมุนช้า ในอัตราลิตรละ 0.10 บาท ต่อเนื่องไปอีก 2 ปี (21 เม.ย.2563-20 เม.ย.2565)
ส่งผลเงินที่ภาครัฐจัดเก็บจากผู้ใช้น้ำมันทั่วประเทศ โดยบวกไว้ในราคาน้ำมันนั้น ไหลเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน ปีละ 4,000-5,000 ล้านบาท จากอดีตที่มีเงินไหลเข้ากองทุนฯปีละ 1 หมื่นล้านบาท (ก่อน 20 เม.ย.2561 อัตราจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ลิตรละ 0.25 บาท) โดยล่าสุด ณ วันที่ 31 ต.ค.2563 กองทุนฯมีเงินคงเหลือ 23,256.13 ล้านบาท
ในขณะที่เงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน จะถูกจัดสรรไปใช้ในโครงการที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตาม พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยในปีงบ 2563 มีการอนุมัติจัดสรรเงินกองทุนฯ 2,065 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 5,600 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่มีการอนุมัติจัดสรรเงินกองทุนฯปีละ 1-1.2 หมื่นล้านบาท
เป็นที่รับรู้ว่า การเข้าควบคุมการจัดสรรเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ทั้งผ่านกลไก ‘คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน’ และ ‘คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ’ เป็นสิ่งนักการเมือง ‘ทุกค่าย-ทุกมุ้ง’ ต่างหมายปอง จนบางปีเกิดข้อครหา ‘ชงเองกินเอง’ (อ่านประกอบ : จับตา 'กองทุนอนุรักษ์พลังงาน' ยุค พปชร. วิจารณ์แซด ‘ชงเองกินเอง’?)
แต่ทว่าในการจัดสรรเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบ 2564 ซึ่งเบื้องต้นกำหนดกรอบวงเงินจัดสรรไม่เกิน 6,500 ล้านบาทนั้น ปรากฎข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นว่า ‘ข้าราชการประจำ’ กลับมามีบทบาทสำคัญในการจัดสรรเงินกองทุนฯในปีนี้ เนื่องจากโครงการที่ได้รับจัดสรรเงินจากกองทุนฯนั้น พบว่าส่วนใหญ่จะต้องเสนอโดยหน่วยงานในสังกัด 'กระทรวงพลังงาน' หรือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงพลังงานกำหนด
เห็นได้จากเอกสารสรุปแนวทางการจัดสรรเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบ 2564 ซึ่งระบุเกี่ยวกับการจัดสรรเงินตาม ‘แผนพลังงาน’ ซึ่งคิดเป็น 97% ของเงินที่จัดสรรทั้งหมด หรือคิดเป็นเงิน 6,305 ล้านบาท พบว่า มีการล็อกคุณสมบัติของ ‘หน่วยงาน’ ที่มีสิทธิ์ได้รับการอนุมัติจัดสรรเงินแต่ละกลุ่มไว้ชัดเจน จากเดิมที่การเสนอโครงการมีลักษณะ ‘เปิดกว้าง’ ได้แก่
-กลุ่มงานตามกฎหมาย กรอบวงเงินเบื้องต้น 200 ล้านบาท ต้องเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่มีภารกิจ ‘กำกับ’ หรือ ‘มีหน้าที่บังคับทางกฎหมาย’
-กลุ่มงานสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์พลังงาน กรอบวงเงินเบื้องต้น 500 ล้านบาท ต้องเป็นหน่วยงานที่มี ‘หน้าที่โดยตรง’ ในการจัดทำนโยบายอนุรักษ์พลังงาน/พลังงานทดแทน
-กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย และสาธิตต้นแบบ กรอบวงเงินเบื้องต้น 355 ล้านบาท การกำหนดหัวข้อวิจัย ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงาน (พน.) กำหนด โดยหารือร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
-กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูล ข่าวสาร กรอบวงเงินเบื้องต้น 200 ล้านบาท ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร กระทรวงพลังงาน
-กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร กรอบวงเงินเบื้องต้น 450 ล้านบาท หน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนต้องเป็น ‘หน่วยงานภายใต้กระทรวงพลังงาน’
-กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและ พลังงานทดแทนในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อาคาร บ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ และพื้นที่พิเศษ กรอบวงเงินเบื้องต้น 2,200 ล้านบาท หน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนต้องเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจ ‘กำกับหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง’
ส่วนกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก เช่น โครงการระบบสูบน้ำและ Off Grid และสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานชุมชน กรอบวงเงินเบื้องต้น 2,400 ล้านบาท แม้จะไม่ได้ระบุเงื่อนโดยตรง แต่โครงการจะได้รับอนุมัติจัดสรรเงิน ต้องเป็นโครงการที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองระดับจังหวัด
(ที่มา : เอกสารประกอบการพิจารณาหลักเกณฑ์เงื่อนไขการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบ 2564)
“เงื่อนไขการจัดสรรเงินกองทุนฯลักษณะนี้ เป็นการสกัด ‘ล็อบบี้ยิสต์’ ที่ไม่มีสายสัมพันธ์กับข้าราชการประจำ และถ้าทุกอย่างเป็นไปตามนี้ เรียกได้ว่าข้าราชการเป็นใหญ่อีกครั้ง และควบคุมการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน โดยไม่มีการถ่วงดุล” แหล่งข่าวสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) ตั้งข้อสังเกต
แหล่งข่าวรายนี้ ยังระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ มีหนังสือคำสั่งของ 'กุลิศ สมบัติศิริ' ปลัดกระทรวงพลังงาน ให้ ส.กทอ. และกองทุนอนุรักษ์พลังงาน กลับเข้ามาอยู่ใน ‘กำกับดูแล’ ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เหมือนเดิม หลังจากมีความพยายามผลักดันให้ ส.กทอ. และกองทุนฯ เป็น ‘นิติบุคคล’ เพื่อให้การทำงานมีความอิสระมากขึ้น และลดปัญหาการแทรกแซง
เป็นอีกครั้งที่อำนาจในการจัดสรรเงิน ‘กองทุนอนุรักษ์พลังงาน’ กลับมาอยู่ในมือ ‘ข้าราชการประจำ’ หลังจากในเดือนก.ย.2561 รัฐบาลคสช. สั่งเด้งผู้บริหารระดับสูงของสนพ. เพราะมีปัญหาการร้องเรียน และถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน
ทั้งนี้ ได้แต่หวังว่าการเปลี่ยนมือคราวนี้ จะไม่ใช่ ‘สมบัติผลัดกันชม’
อ่านประกอบ :
บูสต์โพสต์-เพิ่มไลก์ 5.1 ล.บาท! ชำแหละ ‘งบพีอาร์’ ใช้เงินกองทุนอนุรักษ์-ที่ปรึกษาฯรับ1.2 แสน/ด.
วาง 5 แนวทาง! กลั่นกรองใช้เงิน 'กองทุนอนุรักษ์ฯ'-หนุนงบระบบสูบน้ำ 1.52 พันล้าน
โชว์ยิบจัดสรรเงินกองทุนอนุรักษ์ฯ! งบพีอาร์ 182 ล้าน-ติดตั้งเครื่องสูบน้ำโซลาร์ฯ 1.2 พันล.
ประเดิมเคาะงบ! ชง ‘สุพัฒนพงษ์’ ไฟเขียวจัดสรรเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน 5.6 พันล้าน
เบื้องหลัง ‘7 กฎเหล็ก’ ล้อมคอก ‘ถลุงเงิน’ กองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ 5.6 พันล้าน
แอบอ้างชื่อ 'อิศรา' ร้องเรียนทุจริตงบกองทุนอนุรักษ์ฯ เรียกเงิน15 % -เอี่ยวนักการเมือง
ย้อนรอย ‘กองทุนอนุรักษ์พลังงาน’ มีการเมืองล้วงลูก ‘ชงเองกินเอง’ จริงหรือ?
ชัดๆ ตัวเลขจัดงบกองทุนอนุรักษ์ฯรอบสอง 6.3พันล. มท.ได้มากสุด 234 โครงการ 1.9 พันล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/