“...การที่นายธนาธรเป็นหัวหน้าพรรค ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวนมาก กรรมการบริหารพรรคควรจะรู้ว่า การเป็นหนี้จำนวนมากต่อบุคคลใด ย่อมก่อให้เกิดการครอบงำ สามารถอาศัยอำนาจมูลหนี้ หรืองดเว้นการอันใดอันหนึ่งตามสัญญาก็ได้ ก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการเงินมาเป็นผู้บงการพรรคแต่เพียงผู้เดียวหรือกลุ่มเดียว ส่งผลให้พรรคการเมืองเป็นธุรกิจการเมือง ดังนั้นการกู้ยืมของพรรคการเมือง หลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ตามมาตรา 66 การรับบริจาคดังกล่าวต้องห้ามตามมาตรา 66 จึงเป็นการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 72…”
......................................
สาธารณชนคงทราบไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า คณะกรรมการ กกต. มีมติดำเนินคดีอาญาแก่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (ปัจจุบันเป็นประธานคณะก้าวหน้า) และอดีตกรรมการบริหารพรรคอีก 15 ราย กรณีการปล่อยเงินกู้แก่พรรคอนาคตใหม่ วงเงิน 191.2 ล้านบาท ผิดตามมาตรา 66 ประกอบมาตรา 77 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 (อ่านประกอบ : เปิดชื่อครบ! กกต.ดำเนินคดีอาญา‘ธนาธร-15 อดีต กก.อนค.’ปมปล่อยกู้พรรค 191 ล.)
หลักฐานชิ้นสำคัญที่นำไปสู่การดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร และพวกคือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุชัดเจนว่า การกู้ยืมเงินดังกล่าว แม้เป็นเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ แต่มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท/พรรค/ปี จึงต้องห้ามตามมาตรา 66 วรรคสอง
ที่สำคัญคือการปล่อยกู้เงินมากเช่นนี้ ย่อมก่อให้เกิดการครอบงำ ก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการเงินมาเป็นผู้บงการพรรคแต่เพียงผู้เดียวหรือกลุ่มเดียว ส่งผลให้พรรคการเมืองกลายเป็นธุรกิจการเมือง
เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สรุปที่มาที่ไปของเรื่องราวดังกล่าว ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนถึงปัจจุบันให้ทราบ ดังนี้
(15 พ.ค. 62 นายธนาธร แถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศฯ, ภาพจาก www.khaosan-nannakorn.com)
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2562 ที่สมาคมนักข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดประเด็นถึงวิธีบริหารพรรคอนาคตใหม่ โดยระบุว่า ให้เงินพรรคยืมอยู่ 110 ล้านบาท ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งรอบนี้ เพราะพรรคไม่สามารถระดมทุนได้ทันเวลาสำหรับการหาเสียง โดยตอนนี้ในบัญชีพรรค ตนเป็นเจ้าหนี้การค้า (Account Payable) ร้อยกว่าล้านบาท จำตัวเลขแน่ชัดไม่ได้ น่าจะประมาณ 105-110 ล้านบาท ที่ให้พรรคยืมเงิน
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2562 น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ยืมเงิน แต่เป็นการกู้เงิน โดยมีเพดานวงเงินสูงสุดอยู่ที่ 250 ล้านบาท แต่การดำเนินกิจกรรมจนถึงวันเลือกตั้ง พรรคอนาคตใหม่กู้ไปแล้วประมาณ 90 ล้านบาท และจนถึงขณะนี้มีการกู้เพิ่มอีกนิดหน่อย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของพรรค ตัวเลขจึงอยู่ที่ 110 ล้านบาท ยืนยันว่าการกู้เงินครั้งนี้ผ่านความเห็นชอบจากกรรมการบริหารพรรคแล้ว และพรรคจะเป็นผู้จ่ายเงินคืนแก่นายธนาธรทั้งหมด
ถัดมา เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงาน กกต. ขอให้ตรวจสอบกรณีพรรคอนาคตใหม่กู้เงินนายธนาธร วงเงิน 110 ล้านบาท (ขณะนั้น) เนื่องจากอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ มาตรา 66 (บุคคลบริจาค หรือให้ผลประโยชน์อื่นใดเกิน 10 ล้านบาท/ปี) เนื่องจากรายได้ของพรรคการเมืองตามมาตรา 62 ไม่ได้ระบุให้พรรคการเมืองกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจกรรมของพรรคได้
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2562 นายธนาธร ทำหนังสือถึงสำนักงาน ป.ป.ช. ขอขยายเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 โดยระบุว่าอยู่ระหว่างรวบรวมรายการทรัพย์สินและหนี้สินจากสถาบันการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2562 ได้ขอขยายระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นครั้งที่ 2
โดยเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2562 สำนักงาน ป.ป.ช. เผยแพร่บัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ส.ส. ของนายธนาธร มีทรัพย์สินรวมคู่สมรส (นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ) ประมาณ 5.6 พันล้านบาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 6.8 แสนบาทเศษ
ในส่วนของเงินให้กู้ยืม ระบุ 3 รายการ โดย 2 รายการแรก ได้แก่ เงินให้กู้ยืมพรรคอนาคตใหม่ ครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2562 วงเงิน 161.2 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2562 วงเงิน 30 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี
ทั้งนี้นายธนาธร ระบุในหมายเหตุด้วยว่า พรรคอนาคตใหม่ได้ชำระหนี้บางส่วนให้แก่นายธนาธรแล้วจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ดีในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายธนาธร มิได้ระบุว่า มีรายได้ส่วนหนึ่งมาจากการชำระหนี้เงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ (อ่านประกอบ : โชว์ละเอียดสัญญาปล่อยกู้‘ธนาธร-อนค.’ 2 ครั้ง 191 ล.-คิดดอกเบี้ยไม่เท่ากัน?)
(เอกสารการกู้ยืมเงินระหว่างพรรคอนาคตใหม่กับนายธนาธรที่แจ้งต่อ กกต. ในงบการเงินปี 2561)
@จาก กกต.สู่ศาล รธน.วินิจฉัย : ก่อความได้เปรียบเป็นผู้บงการพรรค-ทำพรรคเป็นธุรกิจการเมือง
หลังจากนั้นจึงนำสู่การร้องเรียนต่อ กกต. โดยในช่วงเดือน พ.ย. 2562-ธ.ค. 2562 กกต. ดำเนินการสอบสวน และขอพยานหลักฐานต่าง ๆ จากพรรคอนาคตใหม่ ขณะเดียวกันมีการตัดพยานหลักฐานของพรรคอนาคตใหม่บางส่วน เนื่องจากส่งมาไม่ทันตามกำหนด ก่อนที่จะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย โดยเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าว รับคำร้องจาก กกต.
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดีดังกล่าว โดยสรุปสาระสำคัญได้ว่า
หนึ่ง แม้ พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ จะมิได้บัญญัติการห้ามกู้เงินไว้โดยชัดเจน แต่ไม่ได้รับรองว่าให้กระทำได้
สอง สำหรับการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ ถูกตีความเป็นประโยชน์อื่นใด โดยคำว่าบริจาคและประโยชน์อื่นใด เป็นคำที่มีความหมายเฉพาะ เพื่อควบคุมการสนับสนุนทางการเมือง ให้เป็นไปโดยพอเหมาะพอควร ป้องกันมิให้บุคคลหรือกลุ่มคนใดอาศัยพรรคการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ ความได้เปรียบทางการเงิน บงการหรือมีอิทธิพลครอบงำ หรือชี้นำกิจการของพรรคการเมืองแต่เพียงบุคคลหรือคณะบุคคลได้
สาม ข้อพิรุธในการกู้เงินดังกล่าว แบ่งเป็น 1.การคิดดอกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เท่ากัน โดยสัญญาแรก วงเงิน 161.2 ล้านบาท คิด 7.5% ต่อปี ส่วนสัญญาที่สอง วงเงิน 30 ล้านบาท คิด 2% ต่อปี 2.ในช่วงเวลาดังกล่าวนายธนาธรได้บริจาคเงินแก่พรรคอนาคตใหม่อีก 8.5 ล้านบาท ดังนั้นย่อมชัดแจ้งว่านายธนาธร บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท/พรรค/ปี ต้องห้ามตามมาตรา 66 วรรคสอง
“ข้อเท็จจริง พฤติการณ์ หลักฐานดังกล่าว เห็นว่า การที่นายธนาธร ให้เงินกู้แก่พรรคอนาคตใหม่ เป็นการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด และการที่นายธนาธรเป็นหัวหน้าพรรค ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวนมาก กรรมการบริหารพรรคควรจะรู้ว่า การเป็นหนี้จำนวนมากต่อบุคคลใด ย่อมก่อให้เกิดการครอบงำ สามารถอาศัยอำนาจมูลหนี้ หรืองดเว้นการอันใดอันหนึ่งตามสัญญาก็ได้ ก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการเงินมาเป็นผู้บงการพรรคแต่เพียงผู้เดียวหรือกลุ่มเดียว ส่งผลให้พรรคการเมืองเป็นธุรกิจการเมือง ดังนั้นการกู้ยืมของพรรคการเมือง หลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ตามมาตรา 66 การรับบริจาคดังกล่าวต้องห้ามตามมาตรา 66 จึงเป็นการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 72” คำวินิจฉัยช่วงท้ายของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุ
ศาลรัฐธรรมนูญมีมีติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 พยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคอนาคตใหม่ ฝ่าฝืนมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ประกอบมาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) เป็นเหตุทำให้ยุบพรรค (อ่านประกอบ : ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัยศาล รธน.ฟัน อนค.ทำพรรคเป็นธุรกิจการเมือง-บงการเพียงผู้เดียว)
(คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ)
@ประเด็นข้อกฎหมาย
คดีดังกล่าว กกต. มีมติดำเนินคดีอาญาแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1.กรณีของนายธนาธร มีความผิดฐานบริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาท/พรรค/ปี ให้แก่พรรคการเมือง ตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมือง มีโทษตามมาตรา 124 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.กรณีอดีตกรรมการบริหารพรรคอีก 15 ราย มีความผิดฐานกระทำความผิดตามมาตรา 66 วรรคสอง และมาตรา 72 ประกอบมาตรา 137 พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ กรณีรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลโดยมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท/พรรค/ปี และรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด อันรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีโทษตามมาตรา 125 และมาตรา 126 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท
ส่วนกรณีเงินกู้ส่วนเกินตามมาตรา 125 ที่ระบุว่า พรรคการเมืองใดรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด มีมูลค่าเกินกำหนดตามมาตรา 66 วรรคสอง จะต้องส่งเงินเข้าสู่กองทุนพรรคการเมืองหรือไม่?
เบื้องต้นความเห็นภายในสำนักงาน กกต. แบ่งเป็น 2 ฝ่าย กล่าวคือ ฝ่ายสำนักงาน กกต. เสนอว่า สามารถที่จะยึดเงินเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองได้ แต่คณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. เห็นว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค จึงไม่เหลือพรรคการเมืองที่จะให้ กกต. ไปเรียกเงินมาเป็นของกองทุนได้ ดังนั้นประเด็นนี้จึงไม่ได้ข้อยุติ
ทั้งหมดคือไทม์ไลน์รวม 1 ปี 5 เดือนเศษ คดีเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ จากคำพูดของนายธนาธร นำไปสู่การสอบสวนของ กกต. จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ก่อนที่จะส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอาญาต่อไป
ผลจะเป็นอย่างไร คงต้องรอดูกัน!
อ่านประกอบ :
เปิดชื่อครบ! กกต.ดำเนินคดีอาญา‘ธนาธร-15 อดีต กก.อนค.’ปมปล่อยกู้พรรค 191 ล.
‘ธนาธร-15 อดีต กก.อนค.’ลุ้น! กกต.ถกลงมติคดีอาญาปมปล่อยกู้พรรคสัปดาห์หน้า
คดีอาญาติดตัว‘ธนาธร-กก.บห.อนค.’ โทษสูงสุดคุก 3-18 ปี-เงินกู้ต้องคืนหลวงเท่าไหร่?
ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัยศาล รธน.ฟัน อนค.ทำพรรคเป็นธุรกิจการเมือง-บงการเพียงผู้เดียว
เปิดมติศาล รธน. 7:2 ยุบ อนค.คดีกู้เงิน‘ชัช-ทวีเกียรติ’เสียงข้างน้อย
ยุบพรรคอนาคตใหม่! คำวินิจฉัย ศาล รธน.คดีเงินกู้-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กก.บห.10 ปี
‘ธนาธร-แกนนำ อนค.’ไม่ไปฟังคำวินิจฉัยคดีกู้เงิน-ปัดกดดันศาล รธน.แต่ต้องพิสูจน์ว่าอิสระ
กาง 4 แนวทางคำวินิจฉัยศาล รธน. คดีเงินกู้ อนค.-ชี้ชะตา'ส.ส.สีส้ม'ถ้าโดนยุบเอาไงต่อ?
ไทม์ไลน์ 10 เดือนคดีเงินกู้ อนค.จากคำพูด‘ธนาธร’ถึงศาล รธน.-21 ก.พ. รอดหรือยุบ?
ศาล รธน.ไร้อำนาจยุบพรรค!‘ปิยบุตร’ แจงคดีกู้เงิน-รับความสามารถระดมทุนไม่เท่ากัน
รอศาล รธน.วินิจฉัยก่อน!ปธ.กกต. ชี้เงินกู้ อนค.-พรรคอื่นต่างกัน-คดีอาญา‘ธนาธร’งวดแล้ว
กกต.โดนอีก! ‘ธนาธร’จ่อฟ้องรายคนปมชงศาล รธน.ยุบ อนค.-ท้าสอบเงินกู้ได้มามิชอบอย่างไร
อนค.โต้ศาล รธน.! ไม่เปิดไต่สวนเป็นธรรมหรือไม่-หลังตีตกคำร้องแต่ขยายเวลายื่นคำให้การ
‘ปิยบุตร’ค้านคำสั่งศาล รธน.ขอให้เปิดไต่สวนพยาน-อ้างสื่อตีข่าวตุลาการฯเก่าตัดสินทิ้งทวน
มั่นใจไม่ถูกยุบ! ‘ปิยบุตร’แถลงแจงปมร้อนศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดีกู้เงิน 21 ก.พ.
ศาล รธน.นัดชี้ชะตา! วินิจฉัยคดียุบ อนค. กู้เงิน 21 ก.พ.-ปมเสียบบัตร 7 ก.พ.
ขอศาล รธน.เปิดไต่สวนพยาน!โฆษก อนค. เผยส่งเอกสารเพิ่มคดีกู้เงินครบ-มั่นใจทำถูกต้อง
‘จารุวรรณ’ร้องสอดศาล รธน.ขอขยาย 30 วันแจง อนค.คดีกู้เงิน-ชี้ กกต.ยังไม่เปิดสำนวน
ทำตามขั้นตอน! กกต.แจงปมเอกสารลับยกคำร้องคดี อนค.กู้เงิน-สั่งสอบคนปล่อยหลุด
ศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดี อนค.ล้มล้างการปกครอง 21 ม.ค. 63-สั่งแจงปมกู้เงินใน 15 วัน
อนค.เผยศาล รธน.ไม่รับคำร้องไต่สวนพยานคดีล้มล้างการปกครอง-รอนัดฟังคำวินิจฉัย
ปัดใช้เวลา 89 วันชงยุบพรรค! กกต.แจงรับคำร้องสอบ อนค.กู้เงิน'ธนาธร'ตั้งแต่ พ.ค.62
กกต.ยื่นศาล รธน.วินิจฉัยยุบ อนค.แล้ว-ลุ้น 18 ธ.ค.เข้าที่ประชุมตุลาการฯหรือไม่
เผยเหตุผล กกต.ชงศาล รธน.ยุบ อนค. ชี้ข้อเท็จจริงยุติแล้วเหลือแค่ตีความ กม.
กาง กม.ค้นเบื้องหลัง! กกต.ฟัน อนค. คดีกู้เงิน-จับตา 3 เส้นทาง(หาก)พรรคถูกยุบ?
คำต่อคำ 'ปิยบุตร' : กกต.ลงมติส่ง ศาลรธน.ยุบอนาคตใหม่ ..วันนี้เป็นวันอัปยศอีกครั้งหนึ่ง
กฎหมายไม่เปิดช่องให้ทำ! มติ กกต.ชงศาล รธน.ยุบอนาคตใหม่ปมกู้เงิน'ธนาธร'
ปัดมีใบสั่งการเมือง! กกต.โต้‘พรรณิการ์’ คดี อนค.กู้เงิน ยันเลขาฯมีสิทธิเสนอความเห็น
‘ปิยบุตร’โต้ กกต.คดี อนค.กู้เงิน ยันส่งหลักฐานสำคัญไปหมดแล้ว-ขู่ฟ้องใช้อำนาจมิชอบ
กกต.ตัดหลักฐานที่เหลือคดี อนค.กู้เงิน ‘ธนาธร’ 191 ล.เหตุส่งช้า-ชงที่ประชุม 11 ธ.ค.
กกต.ขยายให้แค่ 6 วัน! ขีดเส้น 2 ธ.ค. อนค.ต้องส่งเอกสารเพิ่มปมกู้เงิน‘ธนาธร’
กกต.เรียกหลักฐานเพิ่มจาก อนค.ปมกู้เงิน'ธนาธร' 191 ล.-ก่อนนี้อนุฯขอแล้วไม่ส่งให้
กาง กม.พรรคการเมือง ชำแหละปม ‘ธนาธร’ปล่อยกู้อนาคตใหม่ได้ไหม-ใช้คืนอย่างไร?
ปมใหม่‘ธนาธร’ปล่อยกู้ อนค.191 ล.รับคืนแล้วบางส่วน ไฉน! ไม่แจ้งรายได้กับ ป.ป.ช.?
โชว์ละเอียดสัญญาปล่อยกู้‘ธนาธร-อนค.’ 2 ครั้ง 191 ล.-คิดดอกเบี้ยไม่เท่ากัน?
‘ธนาธร’ตั้งข้อสังเกต 5 ปมถูกศาล รธน. ฟันพ้น ส.ส.ยันหลักฐานโอนหุ้นเป็นไปตาม กม.
4 ข้อสังเกต‘อิศรา’คดีหุ้น‘วี-ลัค มีเดีย’ สอดคล้อง คำวินิจฉัยศาล รธน.-หลักฐานเชิงประจักษ์
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage