"...หลังจากได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องรักห่วงลูก เรืออากาศเอกสอาด ได้ยกตัวอย่าง นายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับคดีลูกชายตนเองที่ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงแก่ความตาย ซึ่งคดียังไม่เสร็จทั้งๆที่ดาบตำรวจเป็นฝ่ายผิดเพราะขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความประมาทและไม่ปฏิบัติตามกฎจราจราจร พล.อ.ท.จักรกฤช จึงเล่าให้เรืออาอากาศเอกสอาดฯ ฟังว่า ตนเองและพลอากาศโทสุรเชษฐ ทองสลวย ได้เห็นเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุในคดีนี้ หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ เรืออากาศเอกสอาดฯ ได้เดินทางมาพบที่บ้านพักและขอให้ตนเอง ไปให้การเป็นพยานกับพนักงานสอบสวนฯ เกี่ยวกับคดีนี้ด้วย...."
.................................................
พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร พยานสำคัญอีกรายหนึ่งในคดี 'บอส-นายวรยุทธ อยู่วิทยา' ขับรถชนตำรวจ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 กลับมาได้รับความสนใจจากสาธารณชนอีกครั้ง
เมื่อล่าสุด สื่อมวลชนหลายแห่งได้นำเสนอข้อมูลคำให้การของ พล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร ในฐานะพยาน ที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นเอกสารจากรายงานเรื่องร้องเรียน ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ร้องขอความเป็นธรรมกรณีการใช้ดุลยพินิจของพนักงานอัยการไม่ชอบด้วยกฏหมาย ต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2559
โดยสื่อหลายสำนักระบุว่า นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการการยุติธรรมฯ เป็นผู้มอบให้สื่อมวลชน เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2563 ที่ผ่านมา
(ภาพเอกสารคำให้การของ พล.อ.ท.จักรกฤช ที่ถูกนำเสนอโดย The reporters)
@ พล.อ.ท.จักรกฤช ให้การครั้งแรกปี 58 เผย 'พล.อ.ท.สุรเชษฐ ทองสลวย' อยู่ในรถด้วยกัน หลังกลับจากงานวันเกิด เสธ.ไอซ์ อ้าง 'ด.ต.วิเชียร' ขับรถส่ายไปส่ายมา
ในเอกสารคำให้การของพล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร ต่อสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ระบุว่า
ในคืนวันที่ 2-3 ก.ย.2555 พล.อ.ท.จักรกฤช และพล.อ.ท.สุรเชษฐ ทองสลวย ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หรือ เสธไอซ์ ที่ร้านฟาลาเบลล่า ราชดำริ ตั้งแต่ เวลา 22.00 น.จนกระทั่งเวลา 04.00 น.พล.อ.ท.จักรกฤช ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อ เมอซีเดส เบ็นซ์ รุ่น 230 อี หมายเลขทะเบียน งร 404 กรุงเทพมหานคร สีขาว โดยมี พล.อ.ท.สุรเชษฐ์ ทองสลวย นั่งรถมาด้วย ซึ่งในช่วงเวลาประมาณ 05.00 น.ระหว่างที่ ตนเองขับรถยนต์มาตามถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าเอกมัย ระหว่างซอยสุขุมวิท 45 กับซอยสุขุมวิท 47 ได้ขับมาในช้องทางเดินรถช่องที่ 2 ได้สังเกตเห็นชายคนหนึ่งใส่ชุดเครื่องแบบตำรวจ กำลังขี่รถจักรยานยนต์ป้ายทะเบียนตราโล่ห์คล้ายป้ายตำรวจ แต่ไม่ได้จำหมายเลขทะเบียน มาในช่องทางเดินรถช่องที่ 1 โดยรถยนต์ที่ตนเองกำลังขับมานั้น อยู่ห่างจากรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ประมาณ 10 เมตรและรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับส่ายไปส่ายมาทำท่าจะเปลี่ยนช่องทางมาช่องทางที่ 2...
ข้าฯ ได้ขับมาในช่องทางเดินรถช่องที่ 2 ได้สังเกตเห็นชายคนหนึ่งใส่ชุดเครื่องแบบตำรวจ กำลังขี่รถจักรยานยนต์ ป้ายทะเบียนตราโล่คล้ายป้ายตำรวจ แต่ไม่ได้จำหมายเลขทะเบียน มาในช่องทางเดินรถช่องที่ 1 (ช่องซ้ายสุด ) โดยรถยนต์ที่ข้ากำลังขับมานั้น อยู่ห่างจากรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวประมาณ 10 เมตร และรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ขับส่ายไปส่ายมา ทำท่าจะเปลี่ยนช่องทางมาช่องทางที่ 2
ข้าฯ ได้พูดกับ พล.อ.ท.สุรเชษฐฯ ว่า คนขับรถจักรยานยนต์เมาหรือเปล่า จึงขี่รถส่ายไปมาแบบนี้ ทางพล.อ.ท.สุรเชษฐฯ จึงได้บอกข้าฯ ขับชิดซ้ายเพื่อจอดรถ เพราะเกรงว่าจะชนรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ข้าฯ จึงได้ชะลอความเร็วลง และได้เปลี่ยนช่องทางเดินรถจากช่องที่ 2 มายังช่องทางเดินรถที่ 1 (ช่องซ้ายสุด ) และมาจอดบริเวณอยู่ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 47 ประมาณ 15 เมตร
ข้าฯ ได้เห็นมีรถกระบะคันหนึ่ง แล่นมาในช่องทางเดินรถช่องที่ 2 ขับแซงรถยนต์ของข้าไป ทันใดนั้นเอง ข้าฯ เห็นรถจักรยานยนต์ของตำรวจ ได้ขับเปลี่ยนช่องทางเดินรถ จากช่องที่ 1 ตัดเข้าช่องทางเดินรถช่องที่ 2 ในลักษณะที่รถจักรยานยนต์ ขับตัดหน้ารถกระบะอย่างกระชั้นชิด โดยไม่ส่งสัญญาณมือหรือสัญญาณไฟเพื่อเปลี่ยนเส้นทาง ทำให้คนขับรถยนต์กระบะ ต้องหักเลี้ยวไปด้านซ้าย เพื่อเบี่ยงหลบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เข้าไปในช่องทางเดินรถช่องที่ 1 ( ช่องซ้ายสุด ) แต่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ก็ยังขับเปลี่ยนช่องทาง เข้าไปในช่องทางเดินรถช่องที่ 3 (ช่องขวาสุด) ตัดหน้ารถยนต์เก๋งสปอร์ตคันหนึ่ง ซึ่งแล่นมาในช่องทางเดินรถช่องที่ 3 (ช่องขวาสุด )
คำถามพยาน : ตามที่ท่านให้การว่า ท่านได้ขับรถยนต์ ตามรถจักรยานยนต์ ในขณะเกิดเหตุในคดีนั้น ท่านสามารถระบุรายละเอียด ในกล้องวงจรปิดที่พนักงานสอบสวนให้ดูได้หรือไม่
คำตอบพยาน จากภาพในกล้องวงจรปิดที่พนักงานสอบสวนให้ข้าฯ ดู ข้าฯ สามารถยืนยันได้ว่า รถยนต์ของข้าฯ ที่ขับตามหลังรถจักรยานยนต์ ซึ่งปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด โดยข้าฯ ได้ลงลายมือชื่อรับรองในสำเนาภาพถ่ายกล้องวงจรปิดดังกล่าวไว้แล้ว
@ 'จักรกฤช' เผยชื่อผู้ใหญ่ที่เคารพ ร.อ.สอาด ศบศาสตราศร-พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีต ผบ.ทอ.
บันทึกคำให้การของพยาน คือ พล.อ.ท.จักรกฤช ที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ระบุใจความช่วงที่ พล.อ.ท.จักรกฤช เอ่ยถึง เรืออากาศเอกสอาด ศบศาสตราศร และพล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ ดังนี้
คำถามพยาน : เหตุใดท่านจึงมาให้การเป็นพยานในคดีนี้ ในเวลานี้
คำตอบพยาน : ข้าฯ ได้ทราบข่าวจากทางโทรทัศน์วันนั้น ( 3 ก.ย.2555 ) ว่าบุตรชายของเจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง ได้ขับรถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ของตำรวจบริเวณซอยสุขุมวิท 47 ในช่วงเวลาประมาณ 05:30 แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคดีนี้ จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2558 ที่ผ่านมา ข้าฯ ได้เดินทางไปพบ เรืออากาศเอกสอาด ศบศาสตราศร นักเรียนนายเรืออากาศรุ่นพี่ ซึ่งคุ้นเคยกันดี และเป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท บางกอก เอวิชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผลิตนักบินพาณิชย์ เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการจะให้บุตรชายของข้าฯ สอบคัดเลือกเป็นนักบินหลังจากได้….
ในคำให้การพยานระบุว่า ในเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2558 ที่ผ่านมา พล.อ.ท.จักรกฤช ได้เดินทางไปพบเรืออากาศเอกสอาด ศบศาสตราศร นักเรียนนายเรืออากาศรุ่นพี่ ซึ่งคุ้นเคยกันดีและเรื่ออากาศเป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท บางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผลิตนักบินพาณิชย์เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการจะให้บุตรชาย สอบคัดเลือกเป็นนักบิน
หลังจากได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องรักห่วงลูก เรืออากาศเอกสอาด ได้ยกตัวอย่าง นายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับคดีลูกชายตนเองที่ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงแก่ความตาย ซึ่งคดียังไม่เสร็จทั้งๆที่ดาบตำรวจเป็นฝ่ายผิดเพราะขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความประมาทและไม่ปฏิบัติตามกฎจราจราจร
พล.อ.ท.จักรกฤช จึงเล่าให้เรืออาอากาศเอกสอาดฯ ฟังว่า ตนเองและพลอากาศโทสุรเชษฐ ทองสลวย ได้เห็นเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุในคดีนี้ หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ เรืออากาศเอกสอาดฯ ได้เดินทางมาพบที่บ้านพักและขอให้ตนเอง ไปให้การเป็นพยานกับพนักงานสอบสวนฯ เกี่ยวกับคดีนี้ด้วย
พล.อ.ท.จักรกฤษ ระบุว่า ยินดีมาให้การเป็นพยานในคดีนี้ตามที่ได้พบเห็นในวันเกิดเหตุตามช่วงเวลาที่เกิดเหตุ โดยยืนยันไม่เคยรู้จัก นายเฉลิม อยู่วิทยามาก่อนและไม่เคยโกรธเคืองกับผู้ต้องหาในคดีนี้จึงมาให้การกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ในวันที่ 28 ก.ค.2558
สำนักข่าวอิศรา ยังตรวจสอบพบว่า ในเอกสารบันทึกคำให้การของพยานคือ พล.อ.ท.จักรกฤช ที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 มีใจความตอนหนึ่ง ระบุด้วยว่า
หลังเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2555 เวลาประมาณ 18:00 น. ข้าฯ พร้อมด้วย พล.อ.ท.สุรเชษฐ ทองสลวย ได้ไปพบ พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่ข้าเคารพนับถือ ที่บ้านของพลอากาศเอกกันต์ เพื่อเยี่ยม ซึ่งข้าฯ จะเดินทางไปเยี่ยมเป็นประจำทุกเดือน ระหว่างที่นั่งคุยกัน เป็นจังหวะเดียวกันที่มีการเสนอข่าวทางโทรทัศน์ ช่องอะไรข้าจำไม่ได้ ได้นำเสนอข่าวเหตุการณ์ที่บุตรชายของเจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง ขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงแก่ความตาย ที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 47 โดยพลอ.อ.กันต์ ได้พูดว่า “ลูกคนดังก่อเรื่องอีกแล้ว” ข้าฯ กับ พล.อ.โท.สุรเชษฐฯ จึงได้บอกกับพลอากาศเอกกันต์ ว่าข้าฯ ทั้งสองคนได้เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยเห็นตำรวจขับรถจักรยานยนต์ส่ายไปส่ายมา และได้เปลี่ยนช่องทางเดินรถ ตัดหน้ารถยนต์อย่างกะทันกัน ซึ่งข้าฯ สงสัยว่าตำรวจคงจะเมา ข้าฯ ยังต้องหยุดรถข้างทาง เพราะเกรงว่าจะชนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ซึ่งพลอากาศเอกกันต์ ได้พูดกับข้าว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้เด็กก็แย่สิ” หลังจากนั้นข้าฯ ทั้งสองคน ได้พูดคุยเรื่องอื่นๆ กับพลอากาศเอกกันต์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น.ข้าฯ ทั้งสองคนก็ได้ลากลับ
ทั้งนี้ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หรือ เสธ.ไอซ์ ผู้ที่พล.อ.ท.จักรกฤช ให้การอ้างว่าไปงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดซึ่งจัดที่ร้านพาราเบลล่า ราชดำริ ตั้งแต่ เวลา 22.00 น.ของวันที่ 2 ก.ย.2555 จนกระทั่งเวลา 04.00 ของวันที่ 3 ก.ย.2555 นั้น เสธ.ไอซ์ เกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2492 เป็นอดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เตรียมทหารรุ่น 10 เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ วันที่ 8 มิ.ย.2559 หลังเข้ารับการรักษาที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ขณะที่รายงานเรื่องร้องเรียน ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ร้องขอความเป็นธรรมกรณีการใช้ดุลยพินิจของพนักงานอัยการไม่ชอบด้วยกฏหมาย ต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ระบุวันที่ 4 พ.ค.2559 ส่วนพล.อ.ท.จักรกฤช ให้การเป็นพยานกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ในวันที่ 28 ก.ค.2558
ขณะที่ พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีตผบ.ทอ. ที่พล.อ.ท.จักรกฤช อ้างว่าได้เล่าเหตุการณ์ที่พบเห็นให้ฟังเมื่อวันที่ 8 ก.ย.2555 หรือหลังเกิดเหตุ 4 วันนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า พล.อ.อ.กันต์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 เป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้าที่พล.อ.ท.จักรกฤช และนายจารุชาติ จะเข้าให้การครั้งที่ 2 ในวันที่ 4 ธันวาคม 2562
พล.อ.อ.กันต์ เกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2476 ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2535
@‘อิศรา’ ไปติดต่อขอสัมภาษณ์ พล.อ.ท.จักรกฤช ที่บ้าน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้พยายามติดต่อ พล.อ.ท.จักรกฤช เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นทางการอีกครั้งหลังจากที่พยายามติดต่อหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถติดต่อได้
จึงได้เดินทางไปยังบ้านของ พล.อ.ท.จักรกฤช เพื่อติดต่อด้วยตนเอง ตามที่อยู่ที่สืบค้นจากข้อมูลหนังสือทำเนียบ นักเรียนนายเรืออากาศรุ่น 20 ระบุข้อมูลพล.อ.ท.จักรกฤช ขณะใช้ยศ พลอากาศตรี แจ้งที่อยู่เลขที่ 126 ซ.พหลโยธิน 19/1 ถ.พหลโยธิน ลาดยาว จตุจักร ตรงกันกับข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่มีที่อยู่ พล.อ.ท.จักรกฤช ปรากฎในสำเนาผู้ถือหุ้น บริษัท พระพิราพ จำกัด ทำธุรกิจให้บริการรถลีมูซีน รถหรู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเลขที่ดังกล่าว พบสัญลักษณ์และป้ายชื่อ บริษัทพระพิราพ ทรานสปอร์ต ติดไว้เหนือเลขที่บ้าน 126 และ 124 ซึ่งเป็นบ้านหลังเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเลขที่บ้านที่ระบุ ทำให้ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวซึ่งมีสัญลักษณ์และป้าย บ.พระพิราพ ทรานสปอร์ต ติดอยู่ยังเป็นที่อยู่เดียวกับบริษัท กรีน เวิลด์ ฮาลาล ฟู๊ด จำกัด ที่มีชื่อนางสาว ณัฐธยาน์ โยธาประเสริฐ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ แต่ยังไม่อาจระบุได้ว่านางสาว ณัฐธยาน์ โยธาประเสริฐซึ่งเป็นกรรมการ บ.พระพิราพ, บ.กรีนเวิลด์ฯ และ ณัฐธยาญ์ (นักธุรกิจ ) ที่มีชื่อระบุในหนังสือทำเนียบนักเรียนนายเรืออากาศรุ่น 20 ของพล.อ.ท.จักรกฤช ขณะใช้ยศ พลอากาศตรี เป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ และมีสถานะหรือความเกี่ยวข้องใดกับพล.อ.ท.จักรกฤช ซึ่งที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ติดต่อนางสาวณัฐธยาน์ โยธาประเสริฐ ด้วย แต่ไม่สามารถติดต่อได้เช่นเดียวกัน
( อ่านประกอบ : ธุรกิจ 'พล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร' พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' เคยได้งานรัฐ 188 ล.! )
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้สั่นกระดิ่งที่แขวนไว้ที่หน้าบ้านเพื่อติดต่อ พล.อ.ท.จักรกฤช จากนั้น มีชายอายุประมาณ 25 ปี เดินออกมาพบ
ผู้สื่อข่าวแจ้งว่ามาจากสำนักข่าวอิศราต้องการสัมภาษณ์ พล.อ.ท.จักรกฤช ในกรณีที่เป็นพยานคดีนายวรยุธ
ผู้ชายที่ออกมาพบผู้สื่อข่าวแจ้งว่า พล.อ.ท.จักรกฤช ออกไปข้างนอก กว่าจะกลับก็ดึก ประมาณ 4-5 ทุ่ม
ผู้สื่อข่าวแจ้งว่าได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อ พล.อ.ท.จักรกฤชแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทำอย่างไรจึงจะได้พบและสัมภาษณ์พล.อ.ท.จักรกฤช
ชายรายนี้ตอบว่าไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นางสาวณัฐธยาน์ ก็อยู่ที่บ้านหลังนี้ใช่หรือไม่ ชายผู้ดูแลบ้านตอบว่าใช่ ผู้สื่อข่าวถามว่านางสาวณัฐธยาน์ อยู่หรือไม่ ชายผู้ดูแลบ้านตอบว่า ไม่อยู่และกว่าจะกลับมาในแต่ละวันก็ดึกเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่นี่เป็นบริษัทพระพิราพใช่หรือไม่ ชายคนนี้ตอบว่าไม่ทราบ และระบุว่าตนเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ 3 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดระยะเวลาที่พูดคุยผู้สื่อข่าวอยู่ยืนนอกรั้วบ้าน แต่เมื่อมองเข้าไปภายในรั้ว พบว่ามีชายอยู่อีก 2 คน คนหนึ่งอายุประมาณ 25 ปีเช่นเดียวกับชายที่มาพบผู้สื่อข่าว แต่ชายอีกรายมีอายุประมาณ 40 ปี ขณะที่ผู้สื่อข่าวลากลับ ชายวัย 40 ปี ได้เดินมาพบผู้สื่อข่าว ผู้สื่อข่าวจึงแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่าต้องการสัมภาษณ์พล.อ.ท.จักรกฤช กรณีที่ให้การเป็นพยานคดีนายวรยุทธ ผู้สื่อข่าวได้มอบนามบัตรสำหรับติดต่อกลับให้กับชายคนดังกล่าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาบ้านพล.อ.ท.จักรกฤช ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ผู้สื่อข่าวเคยมาขอพบเพื่อสัมภาษณ์ พล.อ.ท.จักรกฤช แต่ผู้ดูแลบ้านซึ่งเป็นชายอายุประมาณ 25 ปีคนเดียวกับที่พบในวันนี้ ในครั้งนั้นได้แจ้งแก่ผู้สื่อข่าวว่าพล.อ.ท.จักรกฤช ไปงานศพบิดาที่วัด ในวันนั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้มอบนามบัตรสำหรับติดต่อกลับให้แก่ผู้ดูแลบ้านรายนี้เช่นกัน เพื่อฝากให้แก่พล.อ.ท.จักรกฤช แต่ผู้สื่อข่าวไม่เคยได้รับการติดต่อกลับ
ทั้งหมดนี้ คือ ความคืบหน้าล่าสุด เกี่ยวกับข้อมูล พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร ประจักษ์พยานสำคัญอีกรายหนึ่งในคดี 'บอส-นายวรยุทธ อยู่วิทยา' ขับรถชนตำรวจ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 ที่สำนักข่าวอิศรา นำมาเสนอล่าสุด
อ่านประกอบ
เส้นทางชีวิต ‘จารุชาติ’ พยานพลิกคดี'บอส' ให้การปี55-ไปไต้หวัน-ให้การปี 62-ตายต้นปี 63
INFO: เส้นทางชีวิต ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' ก่อนเสียชีวิตกะทันหัน
INFO : สรุปคดี 'บอส อยู่วิทยา' ก่อนอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
รองอสส.ถือว่าทำผิดกม.! 'คณิต' ชี้คดี 'บอส' อัยการสูงสุดสั่งฟ้องไปแล้วเปลี่ยนไม่ได้
ร่วมทำบุญผ้าป่า-เดินทางไปงานบวช! ไขข้อมูล 'ส.ว.ก๊อง - อสส.' รู้จักกันจริงไหม?
ผบช.ภ.5แถลงสอบลูกน้อง‘ชูชัย’ สารภาพ ทำลายโทรศัพท์‘จารุชาติ’พยานคดีบอส อ้างมีรูปตัวเองเยอะ
ถอดคลิป18 ช็อต! อุบัติเหตุ 'จารุชาติ' พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' ตำรวจตั้งข้อหาถูกแล้วหรือ?
เจาะ บ.นิติชัยฯ นายจ้าง 'จารุชาติ' - อดีต ส.ว.ก๊อง รวมก่อตั้ง - แจ้งมีเงินให้กก.กู้ยืม 7.1 ล.
ก่อนเล่าหลังฉากพยานคดี‘บอส’!โพรไฟล์ ‘ชูชัย เลิศพงศ์อดิศร’อ้างรู้จัก‘เฉลิม อยู่วิทยา’?
ชำแหละคำแถลงคณะทำงาน อสส.แค่’เอาตัวรอด-โยนความผิด’?ไร้ผลนำ‘บอส’ขึ้นศาล
ใครเป็นใคร? เปิดชื่อ-หน้าที่ 3 คณะทำงาน-4 กมธ.2 สภาลุยสอบปมไม่ฟ้องคดี‘บอส อยู่วิทยา’
ผบก.ป.ตั้ง 2 สมมติฐานชันสูตรศพ‘จารุชาติ’-ลั่นหลักฐานต้องชัดเจนไม่ว่าผลเป็นอย่างไร
ผู้การเชียงใหม่'เร่งรัดผลตรวจหาสารในร่าง'จารุชาติ'-กองปราบฯ ลงพท.สืบปมการตาย
ทางการ! 'บิ๊กตู่'สั่งอายัดศพ'จารุชาติ'พยานคดี'บอส'ชันสูตรหาสาเหตุเสียชีวิตใหม่แล้ว
'บวรศักดิ์'จี้ชันสูตรศพพยานคดี’บอส’ให้ชัดเจน ก่อนญาติฌาปนกิจพรุ่งนี้
ตายเพราะอุบัติเหตุกะทันหัน! ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานปากเอก พลิกคดี ’บอส อยู่วิทยา’
ฉบับเต็ม! สำนวนลับอัยการสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ พยาน 2 รายใหม่ อ้างขับรถแค่ 50-60กม.
เปิดอาณาจักร 62 บ.‘อยู่วิทยา’ ปี 62 ‘ที.ซี.ฟาร์มาฯ-กระทิงแดง’รายได้ 4 หมื่นล.
มูลนิธิเมาไม่ขับจี้ อสส.-ผบ.ตร.! ชี้แจงหลักการ-เหตุผลไม่สั่งฟ้อง‘วรยุทธ อยู่วิทยา’
โชว์หนังสืออัยการสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’ผบ.ตร.ไม่แย้ง-สตช.ยื่นศาลถอนหมายจับ
อสส. แจงอิศรายังไม่ทราบเรื่อง! ซีเอ็นเอ็น ตีข่าว 'อัยการ' ไม่สั่งฟ้อง 'บอส อยู่วิทยา'
ป.ป.ช.ฟันวินัยไม่ร้ายแรงอดีต‘ผบก.น.5-พวก’ปมช่วยเหลือ-ไม่ออกหมายจับ‘บอส กระทิงแดง’
ทายาทกระทิงแดงขอสอบพยานเพิ่มทำคดีขับชน ตร.ตายช้า! อสส.เร่งส่งฟ้องศาล
ไทม์ไลน์ทายาท‘กระทิงแดง’ขอเลื่อนพบอัยการ 7 ครั้งก่อนจ่อถูกหมายจับ?
เจาะอาณาจักรธุรกิจหมื่นล.‘อยู่วิทยา’ -‘วรยุทธ’กก. 3 บริษัทรายได้รวม 914 ล