“...ท่านสมคิดพูดในสภาฯ ใครโกหกไม่ได้ ท่านสมคิดบอกว่า ท่านไม่ได้เป็นสามมิตร ท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มสามมิตรเลย แล้วจะเอาท่านมาเกี่ยวกับสามมิตรได้อย่างไร...”
‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ รมว.ยุติธรรม และแกนนำกลุ่มสามมิตร แถลงข่าวถึงความเคลื่อนไหวการเมือง หลัง 18 กรรมการบริหารพรรคยื่นใบลาออกเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
เขาบอกว่า วันนี้ตั้งใจจะพูดคุยถึงเรื่องการเมืองในพรรค และขอฝาก ‘คีย์เวิร์ดสำคัญ' 5 ข้อในการแถลงข่าวครั้งนี้
1.พลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองใหม่ แม้ไม่มีเสียงมากสุดในสภา แต่ก็ได้รับโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล และการทำงานจากนี้ต้อง ‘กระฉับกระเฉง’ มากกว่าเดิม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
2.การปรับปรับปรุงองค์ประกอบภายในพรรคจะส่งผลให้พรรคมั่นคง เป็น ‘เสาหลักของประเทศ’ ได้ต่อไปในอนาคต
3.โครงสร้างที่ ‘ยืดหยุ่น’ คือคุณสมบัติของพรรคการเมืองที่ดี รองรับการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับพรรคแรงงาน จากสหราชอาณาจักร ที่มีการปรับปรุงโครงสร้าง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
4.‘กลับมาได้ทุกคน’ โดยเฉพาะคนที่เข้าใจบ้านเมือง เข้าใจบริบท และเข้าใจ ส.ส. ย่อมได้รับคะแนนนิยมในพรรคให้กลับมาเป็นผู้บริหารใหม่ได้อีกครั้ง
5.ฝากทุกคน ‘หยุด’ ทำให้สังคมเข้าใจผิด ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์หรือพูดคุย ที่อาจทำลายข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และอาจสร้างผลกระทบให้กับพรรค
เป็น 5 คีย์เวิร์ดที่ ‘สมศักดิ์’ ต้องการส่งถึง ‘คนใน’ มากกว่า ‘คนนอก’ พร้อมยืนยันมีเวลา 45 วันที่สมาชิก พปชร.จะรับฟังเสียงประชาชน เพื่อเลือกสรรกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แม้ผู้บริหารชุดเก่าก็กลับมาทำงานใหม่ได้ หากได้รับความไว้วางใจ
“ผมเชื่อว่าทั้งอดีตหัวหน้าพรรค อดีตเลขาธิการพรรค และท่านประธานยุทธศาสตร์พรรคสามารถกลับมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของพรรคได้ทุกท่าน ใครทำงานสนองประเทศชาติ ก็กลับมาได้”
“ผมเคยบอกแล้วว่าก่อนเลือกตั้งพรรคเราเหมือนเม็ดกรวดเม็ดทราย วันนี้หล่อหลอมกันด้วยความร้อนจนตกผลึกเป็นอัญมณี และขั้นตอนจากนี้คือการเจียระไนให้มีคุณค่า เป็นที่ยอมรับของทุกคน” นายสมศักดิ์ กล่าว
(นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และแกนนำกลุ่มสามมิตร)
เป็นข้อความระหว่างบรรทัด สัญญาณส่งถึง ‘อุตตม สาวนายน’ รมว.คลัง-หัวหน้าพรรค และ ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’ รมว.พลังงาน-เลขาธิการพรรค และ 'พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ' รองนายกฯ-ประธานยุทธศาสตร์พรรค
และครั้งนี้ยังมีข้อความผ่านไปถึง ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวขบวน-ผู้นำ 4 กุมารโดยตรง
"ท่านสมคิดพูดในสภาฯ ใครโกหกไม่ได้ ท่านสมคิดบอกว่า ท่านไม่ได้เป็นสามมิตร ท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มสามมิตรเลย แล้วจะเอาท่านมาเกี่ยวกับสามมิตรได้อย่างไร สามมิตรที่เริ่มต้นที่นี่ (ร้านกินเส้น) คือ คุณภิรมย์ พลวิเศษ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว มาพบผมที่นี่ เป็นจุดเริ่มต้น 2 ปีพอดี ตอนนี้คุณภิรมย์จากไปแล้ว เริ่มล้มหายตายจาก ท่านสมคิดไม่ใช่สามมิตร" นายสมศักดิ์ กล่าว
แม้ที่ผ่านมาจะไม่มีการยอมรับกันอย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่เข้าใจกันในวงกว้างว่า ‘สามมิตร’ คืออดีตแกนนำ 3 คนแห่งพรรคไทยรักไทย ชื่อ ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’
ย้อนกลับไปกลางปี 2561 ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ นำทัพไป จ.เลย พบกับ ‘ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข’ อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อหารือถึงความเคลื่อนไหวการเมืองขณะนั้น
นายปรีชา กล่าวในขณะนั้นว่า ตนกับนายสมศักดิ์และนายสุริยะ เคยร่วมงานกันที่พรรคกิจสังคม และเวลานี้จำเป็นต้องระดมสมองเพื่อคิดนโยบายในการพัฒนาประเทศ และไม่ได้พูดถึงเรื่องพรรคการเมือง แต่เรียกว่าเป็นกลุ่มการเมืองที่ชื่อว่า กลุ่มสามมิตร โดยมีนายสุริยะเป็นหัวหน้ากลุ่ม
(กลุ่มสามมิตร ขณะไปหารือกับนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทส. : ภาพจากไทยโพสต์)
เวลานั้น ‘สมคิด’ ไม่ตอบรับ-ไม่ปฏิเสธ เมื่อถูกถามว่าเป็นหนึ่งในผู้รวมกลุ่มหรือไม่ “พวกนี้เพื่อนกันทั้งนั้น นักการเมืองก็เพื่อนกันหมด แต่การดำเนินการต่างๆ เป็นสิ่งที่เขาคิดและตัดสินใจ เขาอาจจะเห็นว่าผมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ก็สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์"
ในห้วงเวลาเดียวกัน ‘4 กุมาร-กลุ่มสมคิด’ ประกอบด้วย ‘อุตตม สาวนายน-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์-กอบศักดิ์ ภูตระกูล-สุวิทย เมษินทรีย์’ เปิดตัวเล่นการเมือง เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองน้องใหม่ชื่อ ‘พลังประชารัฐ’
18 พ.ย.2561 ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ ขนว่าที่ผู้สมัครกว่า 60 ชีวิต เข้าสมัครเป็นสมาชิก พปชร. ท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับจาก ‘อุตตม-สนธิรัตน์’ ผู้รับหน้าที่หัวหน้าและเลขาฯ
การเลือกตั้ง 2562 ‘กลุ่มสามมิตร’ มีบทบาทในการหาเสียงของ พปชร. กระทั่งได้มาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลในที่สุด แต่หลังส่ง พล.อ.ประยุทธ์ กลับนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี
ช่วงเวลานี้เมื่อปีที่แล้ว พปชร.ก็ปรากฎรอยร้าวหลังข่าวลือ-ข่าวจริง จากศึกแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรี และความเคลื่อนไหวยุติลงเมื่อ ‘ครม.ประยุทธ์ 2/1’ ปรากฎ
(นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีถ่ายภาพหมู่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า)
พายุสงบลงเพียงชั่วคราว – รอยร้าวครั้งใหม่ก็เกิดขึ้น ธ.ค.2562 ในการประชุมสามัญประจำปี มีข่าวหนาหูเรื่องการแต่งตั้งเลขาฯคนใหม่แทนที่ ‘สนธิรัตน์’ ชื่อที่เด่นชัดคือ ‘อนุชา นาคาศัย’ ส.ส.ชัยนาท จากกลุ่มสามมิตร แต่สุดท้ายไม่มีการเปลี่ยนแปลง-แต่เพิ่มชื่อกรรมการบริหารพรรค เป็น 34 คน
บรรยากาศคุกรุ่นต่อเนื่องถึงกลางปี 2563 กระทั่ง 18 กรรมการบริหารพรรคลาออก ‘อุตตม’ ต้องพ้นจากหัวหน้า ‘สนธิรัตน์’ ต้องอำลาหน้าที่เลขาฯ
ส่วน ‘สมคิด’ ถูก ‘สามมิตร’ โบกมืออำลาในวันนี้-วันที่ใกล้ครบ 1 ปี 'ครม.ประยุทธ์ 2/1' และต้องจับตาดู 'ครม.ประยุทธ์ 2/2' อย่างใกล้ชิด
ข่าวประกอบ :
18 ใบลาออก กก.พปชร.สู่การปรับทัพ 'ครม.ประยุทธ์ 2/2'
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/