"...มีการวิเคราะห์สถานการณ์ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดของไวรัสในทวีปเอเชียขึ้นใหม่อีกรอบ โดยเกาหลีใต้ จีน สิงคโปร์ ถือว่าเป็นกลุ่มประเทศเสี่ยงที่จะเจอกับการระบาดไวรัสโคโรนาเป็นครั้งที่ 2 จากกลุ่มคนเพิ่งเดินทางกลับเข้ามาในประเทศ... ขณะที่มาเลเซียขู่ใช้กำลังทหารถ้าประชาชนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ..."
สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคโควิด 19 ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในทวีปเอเชีย ยังคงมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสรอบสอง จากกลุ่มคนเพิ่งเดินทางกลับเข้ามาในประเทศ ขณะที่มาเลเซียขู่ใช้กำลังทหารถ้าประชาชนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข้อมูลโดยอ้างอิงจากสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ ว่า มีการวิเคราะห์สถานการณ์ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดของไวรัสในทวีปเอเชียขึ้นใหม่อีกรอบ โดยเกาหลีใต้ จีน สิงคโปร์ ถือว่าเป็นกลุ่มประเทศเสี่ยงที่จะเจอกับการระบาดไวรัสโคโรนาเป็นครั้งที่ 2 จากกลุ่มคนเพิ่งเดินทางกลับเข้ามาในประเทศเหล่านี้
โดยในสิงคโปร์ มีการรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อจำนวน 47 ราย ซึ่งทั้ง 33 ราย ใน 47 ราย นั้น เป็นคนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ส่วนเกาหลีใต้มีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนทั้งสิ้น 152 ราย มีจำนวน 74 ราย เป็นคนชราที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราย่านแดกู ที่ถูกตรวจพบว่ามีผลบวกต่อเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีกี่รายที่เป็นผู้ที่เดินทางเข้าประเทศแล้วนำเชื้อไวรัสติดเข้ามาบ้าง
ส่วนในญี่ปุ่นล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 3 คน แต่ในจังหวัดฮอกไกโดซึ่งมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 154 คน กำลังจะยกเลิกข้อบังคับสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยทางการจังหวัดฮอกไกโดยืนยันว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ยุติลงแล้ว
แต่แม้ว่าจะมีการยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ยังเตือนให้ผู้คนอาศัยอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น
โดยนายนาโอมิจิ ซูซูกิ ผู้ว่าราชการจังหวัดฮอกไกโด ยืนยันว่า มาตรการที่เข้มข้นในการป้องกันไม่ให้สถานการณ์แย่ลงไปนั้นได้ผล แต่ขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นการลดจำนวนการแพร่กระจายของผู้ติดเชื้อไม่ให้เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับความพยายามที่จะทำให้กิจกรรมการจับจ่ายใช้สอยกลับมาเป็นเหมือนเดิม
นายนาโอมิจิ ซูซูกิ ผู้ว่าราชการจังหวัดฮอกไกโด (อ้างอิงรูปภาพจากเว็บไซต์ blockdit.com)
สำหรับประเทศจีน แม้สถานการณ์เรื่องไวรัสจะดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่พบผู้ติดเชื้อที่เป็นคนท้องถิ่นรายใหม่แล้ว แม้แต่ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่เริ่มต้นของการแพร่ระบาด หลังจากการสำรวจเมื่อวันที่ 19 มี.ค. แต่กลับพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 34 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นคนจากนอกประเทศที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงจีน
ในบทวิเคราะห์ยังระบุด้วยว่า จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์นั้นถือได้ว่าประสบความสำเร็จในการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม ผลจากการติดเชื้อนอกประเทศนั้นอาจจะส่งผลมาถึงการควบคุมการติดเชื้อไวรัสในประเทศด้วยเช่นกัน
โดยในเกาหลีใต้นั้นได้มีการเรียกร้องให้มีมาตรการที่เข้มข้นมากกว่านี้ ในการตอบสนองกับการจัดการเหตุการณ์ ซึ่งรวมไปถึงการตามรอยผู้ที่ติดเชื้อ การทดสอบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มใหญ่ และการกักกันกลุ่มผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว
ซึ่งสาเหตุหนึ่งของการเรียกร้องดังกล่าวก็เนื่องมาจากพบข้อมูลว่าในช่วงหลังจากช่วงต้นเดือน มี.ค.เป็นต้นมา สถานการณ์การติดเชื้อพุ่งขึ้นสูงสุด ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันของประเทศเกาหลีใต้ก็เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนที่น้อยมาก แต่ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ปรากฏว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับเพิ่มสูงขึ้นไปอยู่ที่ตัวเลข 2 หลักต่อวัน
ทำให้หน่วยงานสาธารณสุขเกาหลีใต้ต้องออกมาประกาศใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด และเรียกร้องไม่ให้มีการรวมตัวกันทำกิจกรรมกลุ่มในโบสถ์ บ้านพักคนชรา ร้านอินเตอร์เน็ต และร้านคาราโอเกะ
ซึ่งที่ผ่านมามีรายงานว่า มีนักกีฬาฟันดาบของเกาหลีใต้ 3 ราย ถูกตรวจพบผลบวกต่อเชื้อไวรัสโคโรนา หลังจากเดินทางกลับจากการแข่งขันที่ประเทศฮังการี ส่งผลทำให้นักกีฬาจำนวน 26 ราย และโค้ชต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโดยเร็วที่สุด
ส่วนความเคลื่อนไหวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักข่าวสเตรทไทม์ของสิงคโปร์ รายงานว่า มาเลเซีย กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาค และได้มีการออกประกาศเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ว่า อาจจะมีการส่งกองทัพออกมาควบคุมสถานการณ์หากประชาชนยังคงไม่สนใจกับคำสั่งให้ปิดประเทศที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายงานว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายแค่ 60 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
“ถ้าหากไม่มีทางเลือกและมีผู้ที่ปฏิบัติตามกฎหมายแค่ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ผมเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่จะต้องมีการนำเอากองทัพออกมาควบคุมสถานการณ์” นายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอป(Ismail Sabri Yaakob) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมมาเลเซียระบุ
นายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอป(Ismail Sabri Yaakob)รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย (อ้างอิงรูปภาพจากเว็บไซต์ nst.com )
นายอิสมาอิล ยังกล่าวต่อไปว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับอนุญาตให้ใช้มาตรการรุนแรงที่จำเป็นได้ทันทีหากเห็นว่ามีการละเมิดคำสั่งดังปิดเมือง หลังจากที่ภารกิจหลักของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงที่ผ่านมา มุ่งเน้นการติดตามตัวผู้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์จำนวน 4,000 คน ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.ถึงวันที่ 1 มี.ค. ซึ่งมีข้อมูลว่ามีผู้ติดเชื้อจากกิจกรรมทางศาสนาเหล่านี้ได้เดินทางไปยังต่างประเทศ ทั้งสิงคโปร์ รวมถึงไทยแล้ว
ขณะที่นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำเช่นกันว่า ในช่วงปิดประเทศที่จะกินเวลาถึงวันที่ 31 มี.ค.นั้นอาจจะต้องเลื่อนออกไปอีก ถ้าหากมาตรการดังกล่าวนั้นล้มเหลวที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสภายใน 2 สัปดาห์
เรียบเรียงจาก:https://www.bbc.com/news/world-asia-51955931,https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/coronavirus-malaysia-may-deploy-army-to-uphold-lockdown-as-only-60-per-cent-complying
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage