“...ข้อเท็จจริงอีก 31 พรรคที่เหลือ ทั้งในส่วนเงินกู้ยืม และเงินทดรองจ่ายนั้น หลายพรรคมิได้ระบุชัดเจนว่า ยอดเงินดังกล่าวเป็นยอดเงินรวมจากบุคคลหลายคน หรือว่าเป็นบุคคลเดียว มีบางพรรคแจ้งว่าเป็นเงินกู้ยืมจากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกพรรค หรือบุคคลอื่น แต่ยอดเงินมิได้เกิน 10 ล้านบาท/ปี/พรรค แต่อย่างใด…”
สาธารณชนคงทราบไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ วงเงิน 191.2 ล้านบาท มิชอบด้วยกฎหมาย โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 66 ประกอบมาตรา 72 ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี และห้ามมีตำแหน่งในพรรคการเมืองอื่น หรือมีส่วนจัดตั้งพรรคการเมืองอื่น 10 ปี (อ่านประกอบ : ยุบพรรคอนาคตใหม่! คำวินิจฉัย ศาล รธน.คดีเงินกู้-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กก.บห.10 ปี)
ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคดีดังกล่าวตอนหนึ่ง มีการพิจารณาประเด็นปัญหาว่า พรรคการเมืองสามารถกู้ยืมเงินตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ได้หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า การทำกิจกรรมพรรคการเมือง ต้องอาศัยรายได้ของพรรค กำหนดแหล่งที่มาไว้ตามมาตรา 62 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ดังนั้นเงินส่วนใดที่พรรคการเมืองนำมาใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง มิได้มีแหล่งที่มาตามที่กฎหมายระบุไว้ ย่อมถือว่า เป็นเงินที่ได้มาโดยมิชอบตามมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ แม้ พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ จะมิได้บัญญัติการห้ามกู้เงินไว้โดยชัดเจน แต่ไม่ได้รับรองว่าให้กระทำได้
ประกอบกับพรรคการเมืองมีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน และเงินกู้แม้นมิได้เป็นรายได้ แต่ก็เป็นรายรับ และเป็นเงินทางการเมือง การดำเนินการเกี่ยวกับการได้มาซึ่งการทำกิจกรรมทางการเมือง กระทำได้ภายในขอบเขตกำหนดไว้เท่านั้น เมื่อพิจารณาเจตนารมณ์กฎหมายที่กำหนดมาตรการทางกฎหมาย กำหนดให้พรรคดำเนินการได้โดยอิสระ ไม่ถูกชี้นำโดยกลุ่มบุคคลใดอาศัยเงินการกู้ยืมเงินของพรรคการเมือง จึงต้องสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของพรรคและกฎหมาย (อ่านประกอบ : ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัยศาล รธน.ฟัน อนค.ทำพรรคเป็นธุรกิจการเมือง-บงการเพียงผู้เดียว)
คำถามสำคัญประการถัดมา ปัจจุบันมีพรรคการเมืองอีกอย่างน้อย 31 พรรค (ไม่นับพรรคอนาคตใหม่ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปแล้ว) ที่แจ้งในรายงานงบการเงินของพรรคการเมืองประจำปี 2561 แก่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พบว่า แจ้งในส่วนของหนี้สินเป็นหนี้เงินกู้ยืม เงินกู้ระยะสั้น เงินทดรองจ่าย จากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกพรรค (อ่านประกอบ : เจออีก! 9 พรรคเล็กแจ้งมีเงินกู้-ทดรองจ่าย กกต.ลุยสอบ-ยอดพุ่ง 32 พรรค)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สรุปสาระสำคัญให้สาธารณชนรับทราบอีกครั้ง ดังนี้
@มีอย่างน้อย 15 พรรคแจ้งเงินกู้ยืม-เจ้าหนี้เงินกู้ยืม-เงินกู้ระยะสั้นจาก หน.-กก.บห.พรรค
มีพรรคการเมืองอย่างน้อย 15 พรรค ที่ระบุชัดเจนว่า มีหนี้สินในส่วนเงินกู้ยืม หรือเจ้าหนี้เงินกู้ยืม จากหัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกพรรค แต่มิได้ระบุว่าเป็นการกู้ยืมจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือเป็นวงเงินในการกู้ยืมจากหลายบุคคลรวมกัน ได้แก่
1. พรรครวมพลังประชาชาติไทย แจ้งหนี้สิน มีเงินกู้ยืมจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน วงเงิน 5 ล้านบาท โดยระบุในหมายเหตุงบการเงินว่า เป็นเงินกู้ยืมจากกรรมการ โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย และไม่มีการทำสัญญา
2.พรรคไทรักธรรม แจ้งหนี้สินในส่วนเงินกู้ยืม-กรรมการบริหารพรรคปี 2561 วงเงิน 4,376,000 บาท ส่วนปี 2560 วงเงิน 432,000 บาท
3.พรรคครูไทยเพื่อประชาชน แจ้งหนี้สินในส่วนเจ้าหนี้เงินกู้ยืม โดยเป็นการทำสัญญากู้ยืมเงินจากนายปรีดา บุญเพลิง (หัวหน้าพรรค) วงเงิน 501,125 บาท และนายสุพจน์ สีสุข 41,000 บาท รวม 2 สัญญาเป็นเงิน 542,125 บาท
4.พรรคพลังไทยรักชาติ แจ้งหนี้สินในส่วนเจ้าหนี้เงินกู้ยืมแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.เจ้าหนี้เงินกู้ยืม-หัวหน้าพรรค ในปี 2561 วงเงิน 85,000 บาท โดยระบุว่าพรรคได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากนายสุเทพ เข้มแข็งปรีชานนท์ ตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังไทยรักชาติ เป็นจำนวนเงิน 85,000 บาท โดยทำสัญญากู้ยืมลงวันที่ 10 ธ.ค. 2556 ส่วน 2.เจ้าหนี้เงินยืมอื่น ๆ ในปี 2561 วงเงิน 5,680,869 บาท รวมทั้งสองส่วนวงเงินกู้ยืมในปี 2561 จำนวน 5,765,869 บาท
5.พรรคเพื่อชีวิตใหม่ แจ้งหนี้สินในส่วนเงินกู้ยืม แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.เจ้าหนี้-เงินกู้ยืมบุคคลภายนอก ปี 2561 วงเงิน 50,000 บาท 2.เจ้าหนี้เงินยืมทดรองจ่าย แบ่งเป็น เจ้าหนี้-เงินทดรองจ่ายหัวหน้าพรรค 80,076 บาท และเจ้าหนี้เงินทดรองจ่ายสมาชิกพรรค 35,000 บาท รวมทั้งหมดในปี 2561 จำนวน 115,076 บาท
6.พรรคเงินเดือนประชาชน แจ้งหนี้สินในส่วนเงินกู้ยืม โดยระบุว่า มีเงินกู้ยืมจากกรรมการ ในปี 2561 วงเงิน 822,183 บาท และปี 2560 วงเงิน 807,188 บาท โดยมียอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2561 และ 2560 ดังกล่าว เป็นเงินกู้ยืมจากรรมการ โดยมีการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยมีกำหนดชำระคืนเมื่อทางพรรคมีรายรับเพียงพอที่จะสามารถจ่ายชำระหนี้ได้
7.พรรคพลังประชาธิปไตย แจ้งหนี้สินในส่วนเจ้าหนี้เงินยืมจากหัวหน้าพรรค ปี 2561 วงเงิน 5,584,290 บาท
8.พรรคพลังศรัทธา แจ้งในหมายเหตุงบการเงินมีหนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น 300,000 บาท
9.พรรคพลังชาติไทย แจ้งในหมายเหตุงบการเงินมีหนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น 113,988 บาท
10.พรรคไทยธรรม แจ้งในหมายเหตุงบการเงินมีหนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น 1,000 บาท โดยระบุว่า เป็นเงินกู้ยืมจากหัวหน้าพรรค และพรรคกู้ยืมเงินจากหัวหน้าพรรคโดยไม่มีการคิดดอกเบี้ยและไม่มีการทำสัญญา
11.พรรครวมใจไทย แจ้งในหมายเหตุงบการเงินมีหนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น 45,697 บาท
12.พรรคเพื่อสหกรณ์ไทย แจ้งในหมายเหตุงบการเงินมีหนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น ปี 2561 วงเงิน 226,000 บาท และปี 2560 วงเงิน 82,000 บาท รวม 2 ปีเป็นเงิน 306,000 บาท โดยระบุว่า เป็นเงินกู้ยืมจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกันเพื่อใช้ในการดำเนินงาน ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และไม่คิดดอกเบี้ย
13.พรรคเมืองไทยของเรา แจ้งในหมายเหตุงบการเงินมีหนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น ปี 2561 วงเงิน 542,750 บาท ปี 2560 วงเงิน 187,000 บาท รวม 2 ปีเป็นเงิน 729,750 บาท โดยระบุว่า ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2561 และปี 2560 เงินกู้ยืมระยะสั้นทั้งจำนวน เป็นเงินกู้ยืมจากหัวหน้าพรรค เพื่อใช้ในการดำเนินงานของพรรค โดยไม่มีการทำสัญญา และไม่มีการคิดดอกเบี้ยระหว่างกัน ซึ่งกำหนดจ่ายชำระคืนเมื่อทวงถาม
14.พรรคพลังท้องถิ่นไท แจ้งในหมายเหตุงบการเงินมีหนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น วงเงิน 1,427,000 บาท
15.พรรคประชาธิปไตยใหม่ แจ้งในหมายเหตุงบการเงินมีหนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น แต่มิได้ระบุวงเงิน
@อีก 16 พรรค แจ้งเจ้าหนี้เงินสำรองจ่าย-ทดรองจ่าย
ส่วนที่เหลืออีก 16 พรรค ระบุว่า มีหนี้สินเป็นเจ้าหนี้เงินสำรองจ่าย เจ้าหนี้เงินยืมทดรองจ่าย เงินยืมทดรองจ่าย เงินทดรองจ่าย จากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกพรรค แต่มิได้ระบุว่าเป็นเงินทดรองจ่ายจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือเป็นวงเงินในการกู้ยืมจากหลายบุคคลรวมกัน ได้แก่
1.พรรคเพื่อไทย มีเจ้าหนี้เงินสำรองจ่าย 13 ล้านบาท
2.พรรคภูมิใจไทย มีเงินทดรองจ่าย 30,164,287 บาท
3.พรรคชาติไทยพัฒนา มีเจ้าหนี้-เงินยืมทดรองจ่าย 5,050,457 บาท
4.พรรคพลังชล มีเจ้าหนี้เงินยืมทดรองจ่าย 2,816,000 บาท
5.อดีตพรรคไทยรักษาชาติ มีเจ้าหนี้เงินยืมทดรองจ่าย 1,738,868 บาท
6.พรรครักษ์ผืนป่าแห่งประเทศไทย มีเจ้าหนี้เงินยืมทดรองจ่าย 43,740 บาท
7.พรรคประชาภิวัฒน์ มีเงินยืมทดรองจ่าย 746,015 บาท
8.พรรคเพื่อธรรม มีเจ้าหนี้เงินยืมทดรองจ่าย 890,966 บาท
9.พรรคเพื่อสันติ มีเงินยืมทดรองจ่าย 335,500 บาท
10.พรรคพลังสหกรณ์ มีเงินยืมทดรองจ่าย 1,642,361 บาท
11.พรรคพลังคนกีฬา มีเงินทดรองจ่าย 4,145,713 บาท
12.พรรคอนาคตไทย มีเงินยืมทดรองจ่าย 429,700 บาท
13.พรรคประชากรไทย มีเงินทดรองจ่าย 12,845,239 บาท
14.พรรคมหาชน มีเงินทดรองจ่าย 4,428,739 บาท
15.พรรคความหวังใหม่ มีเงินยืมทดรองจ่าย 2,039,399 บาท
16.พรรคทางเลือกใหม่ แจ้งในหมายเหตุงบการเงินมีหนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินทดรองจ่ายให้หัวหน้าพรรค 437,000 บาท โดยระบุว่า ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2561 บริษัทฯ มีเงินทดรองจ่ายให้หัวหน้าพรรคจำนวน 437,000 บาท โดยไม่มีหลักประกันและไม่มีการคิดดอกเบี้ย
@ไม่มีการระบุชัดเจนว่ากู้ยืม-ทดรองจ่ายจากคนเดียวหรือหลายคน?
ประเด็นถัดมาคือ ในตอนหนึ่งของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แม้เงินกู้มิใช่รายได้ แต่เป็นรายรับ และเป็นเงินทางการเมือง ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า เงินกู้ หมายรวมถึงเงินบริจาค หรือประโยชน์อื่นใด ตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ดังนั้น บุคคลใดห้ามบริจาคเงินให้แก่พรรคการเมืองเกิน 10 ล้านบาท/ปี/พรรค ส่วนนิติบุคคลถ้าบริจาคเงินเกิน 5 ล้านบาท/ปี/พรรค ต้องแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
ข้อเท็จจริงอีก 31 พรรคที่เหลือ ทั้งในส่วนเงินกู้ยืม และเงินทดรองจ่ายนั้น หลายพรรคมิได้ระบุชัดเจนว่า ยอดเงินดังกล่าวเป็นยอดเงินรวมจากบุคคลหลายคน หรือว่าเป็นบุคคลเดียว มีบางพรรคแจ้งว่าเป็นเงินกู้ยืมจากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกพรรค หรือบุคคลอื่น แต่ยอดเงินมิได้เกิน 10 ล้านบาท/ปี/พรรค แต่อย่างใด
ดังนั้นจึงต้องรอให้ กกต. สืบสวนข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อนว่า ตกลงแล้วอีก 31 พรรคที่เหลือมีพฤติการณ์หรือลักษณะคล้ายคลึงกับกรณีพรรคอนาคตใหม่หรือไม่
ปัจจุบันเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนของ กกต. คงต้องรอวัดบรรทัดฐานกันต่อไป !
อ่านประกอบ :
@32 พรรคอื่นปมกู้เงิน
ขมวดข้อเท็จจริง 8 พรรคแจ้งกู้เงินจาก หัวหน้า-กก.-คนนอก มิใช่เงินทดรองจ่าย?
เจออีก! 9 พรรคเล็กแจ้งมีเงินกู้-ทดรองจ่าย กกต.ลุยสอบ-ยอดพุ่ง 32 พรรค
อย่างน้อย 23 พรรคแจ้งกู้เงิน! ชัด ๆ รายละเอียดสัญญา-วัดบรรทัดฐาน กกต.?
อนค.เอฟเฟกต์! กกต.แจงสอบอยู่ปมพรรคการเมืองอื่นกู้เงิน-พบฝ่าฝืน กม. ดำเนินการแน่
ซ้ำรอยอนาคตใหม่! ‘ศรีสุวรรณ’ลุยร้อง กกต.สอบ 16 พรรคการเมืองปมกู้เงิน
คุ้ยเจออีก 7 พรรคเล็ก! แจ้งหนี้สินมีเงินกู้ยืม-ทดรองจ่าย? ยอดรวม 15 พรรค
ไม่ตรงตามธงเลยหาช่อง! ‘ปิยบุตร’แจงปม อนค.กู้เงิน-จี้ กกต.ต้องมีบรรทัดฐานให้ชัด
ไม่ใช่แค่ อนค.! เปิดอีก 7 พรรคกู้ยืมเงิน กก.บริหารฯหลักสิบล.-ใช้เป็นเงินทดรองจ่าย?
@คดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่
ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัยศาล รธน.ฟัน อนค.ทำพรรคเป็นธุรกิจการเมือง-บงการเพียงผู้เดียว
เปิดมติศาล รธน. 7:2 ยุบ อนค.คดีกู้เงิน‘ชัช-ทวีเกียรติ’เสียงข้างน้อย
ยุบพรรคอนาคตใหม่! คำวินิจฉัย ศาล รธน.คดีเงินกู้-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กก.บห.10 ปี
‘ธนาธร-แกนนำ อนค.’ไม่ไปฟังคำวินิจฉัยคดีกู้เงิน-ปัดกดดันศาล รธน.แต่ต้องพิสูจน์ว่าอิสระ
กาง 4 แนวทางคำวินิจฉัยศาล รธน. คดีเงินกู้ อนค.-ชี้ชะตา'ส.ส.สีส้ม'ถ้าโดนยุบเอาไงต่อ?
ไทม์ไลน์ 10 เดือนคดีเงินกู้ อนค.จากคำพูด‘ธนาธร’ถึงศาล รธน.-21 ก.พ. รอดหรือยุบ?
ศาล รธน.ไร้อำนาจยุบพรรค!‘ปิยบุตร’ แจงคดีกู้เงิน-รับความสามารถระดมทุนไม่เท่ากัน
รอศาล รธน.วินิจฉัยก่อน!ปธ.กกต. ชี้เงินกู้ อนค.-พรรคอื่นต่างกัน-คดีอาญา‘ธนาธร’งวดแล้ว
กกต.โดนอีก! ‘ธนาธร’จ่อฟ้องรายคนปมชงศาล รธน.ยุบ อนค.-ท้าสอบเงินกู้ได้มามิชอบอย่างไร
อนค.โต้ศาล รธน.! ไม่เปิดไต่สวนเป็นธรรมหรือไม่-หลังตีตกคำร้องแต่ขยายเวลายื่นคำให้การ
‘ปิยบุตร’ค้านคำสั่งศาล รธน.ขอให้เปิดไต่สวนพยาน-อ้างสื่อตีข่าวตุลาการฯเก่าตัดสินทิ้งทวน
มั่นใจไม่ถูกยุบ! ‘ปิยบุตร’แถลงแจงปมร้อนศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดีกู้เงิน 21 ก.พ.
ศาล รธน.นัดชี้ชะตา! วินิจฉัยคดียุบ อนค. กู้เงิน 21 ก.พ.-ปมเสียบบัตร 7 ก.พ.
ขอศาล รธน.เปิดไต่สวนพยาน!โฆษก อนค. เผยส่งเอกสารเพิ่มคดีกู้เงินครบ-มั่นใจทำถูกต้อง
‘จารุวรรณ’ร้องสอดศาล รธน.ขอขยาย 30 วันแจง อนค.คดีกู้เงิน-ชี้ กกต.ยังไม่เปิดสำนวน
ทำตามขั้นตอน! กกต.แจงปมเอกสารลับยกคำร้องคดี อนค.กู้เงิน-สั่งสอบคนปล่อยหลุด
ศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดี อนค.ล้มล้างการปกครอง 21 ม.ค. 63-สั่งแจงปมกู้เงินใน 15 วัน
อนค.เผยศาล รธน.ไม่รับคำร้องไต่สวนพยานคดีล้มล้างการปกครอง-รอนัดฟังคำวินิจฉัย
ปัดใช้เวลา 89 วันชงยุบพรรค! กกต.แจงรับคำร้องสอบ อนค.กู้เงิน'ธนาธร'ตั้งแต่ พ.ค.62
กกต.ยื่นศาล รธน.วินิจฉัยยุบ อนค.แล้ว-ลุ้น 18 ธ.ค.เข้าที่ประชุมตุลาการฯหรือไม่
เผยเหตุผล กกต.ชงศาล รธน.ยุบ อนค. ชี้ข้อเท็จจริงยุติแล้วเหลือแค่ตีความ กม.
กาง กม.ค้นเบื้องหลัง! กกต.ฟัน อนค. คดีกู้เงิน-จับตา 3 เส้นทาง(หาก)พรรคถูกยุบ?
คำต่อคำ 'ปิยบุตร' : กกต.ลงมติส่ง ศาลรธน.ยุบอนาคตใหม่ ..วันนี้เป็นวันอัปยศอีกครั้งหนึ่ง
กฎหมายไม่เปิดช่องให้ทำ! มติ กกต.ชงศาล รธน.ยุบอนาคตใหม่ปมกู้เงิน'ธนาธร'
ปัดมีใบสั่งการเมือง! กกต.โต้‘พรรณิการ์’ คดี อนค.กู้เงิน ยันเลขาฯมีสิทธิเสนอความเห็น
‘ปิยบุตร’โต้ กกต.คดี อนค.กู้เงิน ยันส่งหลักฐานสำคัญไปหมดแล้ว-ขู่ฟ้องใช้อำนาจมิชอบ
กกต.ตัดหลักฐานที่เหลือคดี อนค.กู้เงิน ‘ธนาธร’ 191 ล.เหตุส่งช้า-ชงที่ประชุม 11 ธ.ค.
กกต.ขยายให้แค่ 6 วัน! ขีดเส้น 2 ธ.ค. อนค.ต้องส่งเอกสารเพิ่มปมกู้เงิน‘ธนาธร’
กกต.เรียกหลักฐานเพิ่มจาก อนค.ปมกู้เงิน'ธนาธร' 191 ล.-ก่อนนี้อนุฯขอแล้วไม่ส่งให้
กาง กม.พรรคการเมือง ชำแหละปม ‘ธนาธร’ปล่อยกู้อนาคตใหม่ได้ไหม-ใช้คืนอย่างไร?
ปมใหม่‘ธนาธร’ปล่อยกู้ อนค.191 ล.รับคืนแล้วบางส่วน ไฉน! ไม่แจ้งรายได้กับ ป.ป.ช.?
โชว์ละเอียดสัญญาปล่อยกู้‘ธนาธร-อนค.’ 2 ครั้ง 191 ล.-คิดดอกเบี้ยไม่เท่ากัน?
‘ธนาธร’ตั้งข้อสังเกต 5 ปมถูกศาล รธน. ฟันพ้น ส.ส.ยันหลักฐานโอนหุ้นเป็นไปตาม กม.
4 ข้อสังเกต‘อิศรา’คดีหุ้น‘วี-ลัค มีเดีย’ สอดคล้อง คำวินิจฉัยศาล รธน.-หลักฐานเชิงประจักษ์
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/