พลิกทรัพย์สิน ‘เสี่ยอ้วน-ภูมิธรรม’ ก่อนไขก๊อกเลขาฯเพื่อไทย แจ้งตอนพ้น รมช.คมนาคม ครบ 1 ปี 27 ล้าน เคยทำธุรกิจอสังหาฯ-เหมืองแร่ 2 แห่งแต่เสร็จชำระบัญชีแล้ว
แม้ว่าศึกระหว่าง ‘กลุ่มสามมิตร’ กับปีก กปปส. ในพรรคพลังประชารัฐที่ยื้อโควตาคณะรัฐมนตรีกันมาได้สักพักจะสงบลงแล้วก็ตาม แต่ ‘คลื่นใต้น้ำ’ ยังคงเริ่มก่อตัวอย่างช้า ๆ สิ่งที่ต้องจับตาดูฉากต่อไปคือ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี หรือแม้แต่การลงมติร่างกฎหมายสำคัญ ๆ จะปรากฏตัว ‘กลุ่มสามมิตร’ แบบครบทีมหรือไม่ ?
แต่ความวุ่นวายทางการเมืองไม่ได้เขย่าแค่ในฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น ซีกฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคเพื่อไทยโดนไม่แพ้กัน ในวันที่ 12 ก.ค. 2562 จะมีการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไปทำหน้าที่เป็น ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ ในสภาผู้แทนราษฎร ที่ผู้นำชุดเก่าจำเป็นสละเรือ เนื่องจากไม่ได้เก้าอี้ ส.ส. แม้แต่รายเดียว จากสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบใหม่ตามรัฐธรรมนูญ
ว่ากันว่าคราวนี้เป็นศึกปะทะกันระหว่าง ‘2 เจ้าแม่’ ฝ่ายหนึ่งตัวแทนจาก ‘สายตรง’ กลุ่มวังบัวบาน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ อีกฝ่ายตัวแสดงแทนกลุ่ม กทม. นำโดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ว่ากันว่า ‘คนแดนไกล’ ส่งซิกมาให้ดัน นายสมพงษ์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนเลขาธิการพรรคปล่อยให้กลุ่ม กทม. คือ น.อ.อนุดิษฐ์ นั่งเก้าอี้ เพื่อคลายความกดดันจากการแย่งชิงบารมีของ ‘2 เจ้าแม่’
ด้วยเหตุนี้ทำให้ ‘เสี่ยอ้วน’ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค จำยอมต้องไขก๊อกจากตำแหน่ง ‘แม่บ้าน’ ที่เคยทำหน้าที่มาอย่างยาวนาน เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคมาตลอดตั้งแต่สมัยเป็นไทยรักไทย โดนเว้นวรรค 5 ปี กลับมาสู่พรรคเพื่อไทยอีกครั้ง เท่ากับว่าโลดแล่นคลุกคลีกับ ‘ซีกสีแดง’ มานานกว่า 20 ปี
"ผมไม่ได้ไปไหน ยังสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย จะไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ ในกรรมการบริหารพรรค ไม่คิดจะย้ายพรรค ยังเชื่อมั่นในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยดำรงอยู่ ถือว่าเราผ่านอะไรมามาก ตอนนี้ถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน อาจไปช่วยผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เป็นฝ่ายสนับสนุนให้ผู้นำฝ่ายค้านของพรรค อย่างไรก็ดีเพื่อไทยอยู่ในสถานการณ์พิเศษต้องระมัดระวังทางการเมืองอย่างสูง ถูกยุบมา 2-3 ครั้งแล้ว ที่เราจะทำคือ ทำอย่างไรที่รักษากฎกติกาทางการเมืองและอยู่ด้วยความปลอดภัยด้วย” เป็นคำพูดทิ้งท้ายของ ‘เสี่ยอ้วน’ ก่อนลาออกตำแหน่งเลขาธิการพรรค (อ้างอิงข้อมูลจาก ไทยโพสต์ออนไลน์)
สปอร์ตไลต์ทางการเมืองฉายแสงนายภูมิธรรมครั้งแรก ๆ ตอนเป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) เมื่อปี 2544 หลังจากนั้นได้รับความไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้เลขานุการ รมว.มหาดไทย ต่อมาเป็นรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2548 ขึ้นชั้นเป็น รมช.คมนาคม กระทั่งถูกตัดสิทธิทางการเมืองตอนไทยรักไทยถูกยุบพรรค กลับมามีบทบาทอีกครั้งเมื่อปี 2555 นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค ผ่านมา 7 ปีกระทั่งลาออกในที่สุด
มุมธุรกิจ นายภูมิธรรม เคยเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 2 แห่ง แต่เสร็จการชำระบัญชีไปหมดแล้ว ได้แก่ บริษัท คอมมอน เทรดดิ้ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อปี 2536 ทุน 2 ล้านบาท ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท คอมมอน คอนสตรัคชั่น จำกัด จดทะเบียนเมื่อปี 2536 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจการทำเหมืองแร่
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมช.คมนาคม ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2550 พบรายละเอียด ดังนี้
นายภูมิธรรม แจ้งว่า มีทรัพย์สิน 9,558,356 บาท ได้แก่ เงินฝาก 4 บัญชี 989,996 บาท ที่ดิน 5 แปลง 5,399,360 บาท (จ.เชียงใหม่ 4 แปลง กรุงเทพฯ 1 แปลง) บ้าน 1 หลัง 8 แสนบาท รถยนต์ 2 คัน 2,369,000 บาท
มีหนี้สิน 4,980,976 บาท ได้แก่ เงินเบิกเกินบัญชี 3 ธนาคาร 47,250 บาท เงินกู้ น.ส.สุนิสา ปฐมพฤกษ์ (น้องสาวนายภูมิธรรม) 3 งวด 4,933,726 บาท (รวมดอกเบี้ย)
ส่วนนางอภิญญา เวชยชัย คู่สมรส มีทรัพย์สิน 17,896,099 บาท ได้แก่ เงินฝากธนาคารพาณิชย์ 4 บัญชี 1,263,246 บาท เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 3 บัญชี 5,007,852 บาท เงินลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 แห่ง 625,000 บาท ที่ดิน 3 แปลง (กรุงเทพฯ 2 แปลง จ.นครราชสีมา 1 แปลง) กับบ้าน 2 หลัง รวมมูลค่า 11 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน
รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินเบ็ดเสร็จ 27,550,114 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 4,982,054 บาท
สำหรับบัญชีทรัพย์สินนี้เป็นข้อมูลย้อนหลังไปราว 12 ปี ปัจจุบันไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ารวยขึ้นหรือจนลง ?
ท้ายที่สุดบทบาททางการเมืองของนายภูมิธรรมจะดำเนินไปในทิศทางใด คงต้องติดตามกันต่อไป!
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายภูมิธรรมจาก thaitabloid