
"...คูหาด้านขวาใกล้กับมุมห้องมีศีรษะคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สีแดงโผล่ขึ้นมาในบริเวณนั้น ซึ่งดูผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นประชาชนที่กำลังใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนอยู่ในคูหา แต่ความเป็นจริงเจ้าของศีรษะคือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ผู้มีหน้าที่ควบคุมคูหาออกเสียงลงคะแนน ถูกจัดให้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่เยื้องไปทางด้านหลังของคูหาลงคะแนน ทั้งที่มีพื้นที่ว่างมากเพียงพอที่จะจัดที่นั่งผู้มีหน้าที่ควบคุมคูหาให้เยื้องไปด้านหน้าของคูหาโดยไม่มีข้อติดขัดหรือมีอุปสรรคใด ๆ..."
การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีของเทศบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา
กำลังถูกจับตามอง!
เมื่อสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับข้อพิรุธที่อาจเป็นข้อผิดพลาดหรือมีเจตนาทำให้การลงคะแนนไม่เป็นความลับ ที่อาจยิ่งกว่าการหันคูหาลงคะแนนออกไปหน้าหน่วยเลือกตั้ง ที่ทำให้คนภายนอกซูมกล้องเข้าไปในคูหาเห็นการกาบัตรเลือกตั้ง ซึ่งเคยเป็นปัญหาใหญ่มาแล้วในการเลือกตั้ง สส.ในอดีต ถึงขั้นต้องเลือกตั้งกันใหม่ทั่วทั้งประเทศ
โดยกรณีนี้ดังกล่าว เป็นการให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เข้าไปนั่งอยู่ด้านหลังคูหาลงคะแนนเยื้องไปทางด้านซ้ายของผู้ลงคะแนน สามารถมองเข้าไปในคูหาเห็นการกากบาทบัตรเลือกตั้งโดยไม่ถูกบังด้วยลำตัวของผู้ลงคะแนน ทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งบางรายที่ไม่สุจริตสามารถควบคุมการลงคะแนนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ ซึ่งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างอิสระ หรืออาจขัดต่อ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ที่ให้การออกเสียงลงคะแนนเป็นไปโดยลับ และอาจฝ่าฝืนระเบียบ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ห้ามผู้ใดเข้าไปบริเวณคูหาลงคะแนนนอกจากผู้ใช้สิทธิเท่านั้น อีกทั้งอาจไม่ถูกต้องตามแผนผังการจัดที่เลือกตั้งตามระเบียบ กกต.ที่กำหนดให้ผู้ควบคุมคูหาลงคะแนนนั่งเยื้องไปทางด้านหน้าไม่ใช่เยื้องไปทางด้านหลังของคูหาลงคะแนน ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงกันอย่างมากของผู้คนในพื้นที่ พอ ๆ กับเรื่องการซื้อเสียงของผู้สมัครบางรายในพื้นที่ของเทศบาลนี้

ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ สำนักข่าวอิศรา ได้รับแจ้งข้อมูลจากแหล่งข่าวในเทศบาล จ.ลำปาง เป็นภาพถ่ายหน่วยเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีของเทศบาลตำบลแห่งนี้ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2568 ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการประกาศรับรองผลจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง หรือภายในวันที่ 10 มิ.ย.2568 นี้
พร้อมบรรยายภาพถ่ายภายในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวที่เห็นถึงคูหาลงคะแนนที่เป็นกล่องสีเขียว 2 คูหา จาก 3 คูหา โดยคูหาด้านขวาใกล้กับมุมห้องมีศีรษะคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สีแดงโผล่ขึ้นมาในบริเวณนั้น ซึ่งดูผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นประชาชนที่กำลังใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนอยู่ในคูหา แต่ความเป็นจริงเจ้าของศีรษะคือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ผู้มีหน้าที่ควบคุมคูหาออกเสียงลงคะแนน ถูกจัดให้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่เยื้องไปทางด้านหลังของคูหาลงคะแนน ทั้งที่มีพื้นที่ว่างมากเพียงพอที่จะจัดที่นั่งผู้มีหน้าที่ควบคุมคูหาให้เยื้องไปด้านหน้าของคูหาโดยไม่มีข้อติดขัดหรือมีอุปสรรคใด ๆ เพื่อจะได้เป็นไปตามระเบียบ กกต. แต่ไม่ได้ทำตามระเบียบโดยไม่อาจทราบสาเหตุได้ ซึ่งภาพถ่ายเห็นถึงที่ว่างมีความยาวมากกว่า 1 เมตร ระหว่างขอบวงกบหน้าต่างด้านขวากับเสาที่ติดตั้งพัดลม สามารถวางเก้าอี้นั่งของ กปน.ได้โดยสะดวก แต่ไม่ได้กำหนดให้จุดนี้เป็นที่นั่งของ กปน.ผู้ควบคมคูหาลงคะแนน


แหล่งข่าวรายนี้ ยังย้ำว่า นอกจากนี้ยังติดป้ายคำว่า “ควบคุมคูหาลงคะแนน” ที่ผนังด้านหลังของห้องเพื่อกำหนดตำแหน่งที่นั่งของผู้ควบคุมคูหาลงคะแนน ให้นั่งอยู่ชิดผนังห้องด้านหลังเท่านั้น ในลักษณะทำให้สามารถมองเห็นเข้าไปภายในคูหาลงคะแนนได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตลอดระยะเวลาของการออกเสียงลงคะแนน โดยผู้ออกเสียงลงคะแนนทั่ว ๆ ไป มักจะวางบัตรเลือกตั้งลงบนโต๊ะในคูหาใกล้กับตัวเองโดยไม่ลึกเข้าไปมากนัก เพื่อสะดวกในการกากบาท จึงทำให้คนที่อยู่ด้านหลังเยื้องออกไปทางซ้ายมือของผู้ลงคะแนนเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดที่จะมองเห็นการกาบัตรเลือกตั้งโดยลำตัวของผู้ลงคะแนนไม่บังสายตา การกำหนดให้ติดป้าย "ควบคุมคูหาลงคะแนน” ไว้ที่ผนังด้านหลังเช่นนี้ จึงทำให้ประธาน กปน.หรือ กปน.คนใด ที่เห็นว่าผิดปกติจะไม่สามารถเลื่อนเก้าอี้ผู้ควบคุมคูหาลงคะแนนให้ห่างออกจากผนังห้องด้านหลังได้ เพราะมีป้ายกำกับไว้แล้ว ทำให้ผู้ควบคุมคูหาลงคะแนนสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งนั้นได้ตั้งแต่เปิดการลงคะแนนจนกระทั่งปิดการลงคะแนน
"การที่มีผู้จ้องมองอยู่ด้านหลังคูหาลงคะแนน อาจทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่รับผลประโยชน์จากผู้สมัครที่กระทำการไม่สุจริต ไม่กล้าบิดพลิ้วไปลงคะแนนให้กับผู้สมัครรายอื่น การกำหนดตำแหน่งผู้ควบคุมคูหาลงคะแนนในลักษณะดังกล่าวจึงแสดงถึงเจตนาของผู้มีหน้าที่อำนวยการการเลือกตั้งที่จะช่วยเหลือผู้สมัครบางราย ถึงแม้ว่าผู้ควบคุมคูหาลงคะแนนจะมองไม่เห็นการกาบัตรลงตั้งเลือกได้ทุกราย แต่การนั่งอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวและจ้องมองไปที่ผู้กำลังลงคะแนนอยู่ในคูหา ก็มีลักษณะเป็นการข่มขู่หรือขู่เข็ญผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งที่ได้รับผลประโยชน์จากผู้สมัครบางรายให้ลงคะแนนตามที่ตกลงกันไว้" แหล่งข่าวระบุ
ขณะที่แหล่งข่าวที่เคยทำหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ความเห็นสำนักข่าวอิศรา ว่า การจัดตำแหน่งที่นั่งของ กปน.ผู้มีหน้าที่ควบคุมคูหาลงคะแนนเช่นนี้ ทำให้ กปน.คนนั้นสามารถมองเห็นการกากบาทบัตรเลือกตั้งของผู้ที่กำลังลงคะแนนได้ หรือผู้ที่ลงคะแนนซึ่งสมรู้ร่วมคิดกับ กปน.คนนั้นและผู้สมัครที่ไม่สุจริต สามารถเอียงบัตรเลือกตั้งที่ตนกากบาทลงคะแนนแล้วให้ กปน.คนดังกล่าวเห็นว่าตนเลือกผู้สมัครตามที่ตกลงกันไว้ โดยไม่ต้องชูขึ้นให้เป็นที่สังเกตของผู้อื่น ทำให้การลงคะแนนไม่เป็นไปโดยลับ ซึ่งทำให้ผู้สมัครที่กระทำการโดยไม่สุจริตสามารถควบคุมการออกเสียงลงคะแนนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ โดยเพียงแต่ร่วมมือกับเฉพาะ กปน.ที่ทำหน้าที่ควบคุมคูหาลงคะแนนเท่านั้น กับผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการกำหนดที่เลือกตั้งและสั่งการให้จัดที่เลือกตั้งในลักษณะดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่ กปน.ทุกคนที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการในวันเลือกตั้ง โดยเช้าของวันเลือกตั้งสถานที่เลือกตั้งได้จัดไว้แล้วและถูกตรวจสอบโดยผู้มีอำนาจหน้าที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง กปน.แต่ละคนก็จะเข้าประจำที่ของตนเอง
สำหรับระเบียบ กกต.เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น ข้อ 155 วรรคหนึ่ง กำหนดไว้โดยเคร่งครัดว่า “...โดยเฉพาะบริเวณที่ตั้งคูหาลงคะแนน นอกจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนแล้วผู้ใดจะเข้าไปไม่ได้....” โดยคำว่า “บริเวณที่ตั้งคูหาลงคะแนน” ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะไว้ชัดเจนจึงย่อมหมายถึงบริเวณใกล้กับคูหาลงคะแนนที่จะทำให้สามารถมองเห็นการกากบาทบัตรเลือกตั้งของผู้ใช้สิทธิลงคะแนนในคูหาได้ อีกทั้งตัวอย่างแผนผังที่เลือกตั้งกำหนดให้ฝาผนังห้องที่อยู่ด้านหลังของคูหาต้องเป็นผนังทึบ สูงไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใดมองเห็นภายในคูหาลงคะแนนจากทางด้านหลังได้ ดังนั้น การกำหนดให้ผู้ทำหน้าที่ควบคุมคูหาเข้าไปนั่งอยู่ด้านหลังของห้องบริเวณผนังทึบ ในตำแหน่งหลังคูหาเยื้องไปทางซ้ายมือของผู้ลงคะแนนในคูหา โดยห่างจากคูหาเพียงประมาณ 1 เมตร จึงเป็นการกำหนดตำแหน่งที่นั่งของผู้มีหน้าที่ควบคุมคูหาลงคะแนนให้อยู่ในบริเวณที่ตั้งคูหาลงคะแนน ซึ่งระเบียบข้อ 155 วรรคหนึ่ง กำหนดห้ามไว้อย่างเคร่งครัดไม่ให้ผู้ใดเข้าไปในบริเวณนี้ ทำให้เรื่องนี้ขัดต่อระเบียบ กกต.ข้อ 155 วรรคหนึ่ง ไม่เป็นไปตามตัวอย่างแผนผังที่กำหนดไว้ในระเบียบ กกต.ข้อ 228 ทำให้การลงคะแนนไม่เป็นไปโดยลับ ตาม พรบ.เลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 10 วรรคสอง และขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (7)
ส่วน เทศบาลใน จ.ลำปาง ที่เกิดปัญหาเรื่องนี้ คือ ที่ไหนนั้น หากสำนักข่าวอิศรา ได้รับคำชี้แจงอีกด้าน จะรีบนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา