“...ตลอดสามวัน กกต. หัวกระไดไม่แห้ง เพราะมี ‘สว.ลอตแรก’ ทยอยเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา มีทั้งสงวนท่าที-รักษารูปคดี และพร้อมเปิดหน้า-ปริปาก เปล่งวาจาโต้ตอบ เป็นข้อกล่าวหาเลื่อนลอย พร้อมกับการพลิกเกม เปลี่ยนจากรับกลับมาเป็นรุก ร้องขอความเป็นธรรม ไม่ให้ตกอยู่ในมุมอับโดนสาวหมัดแต่เพียงฝ่ายเดียว...”
เกมนิติสงคราม ระหว่าง ‘แดง’ กับ ‘น้ำเงิน’ บนสมรภูมิอำนาจ ‘คดีฮั้วเลือกสว.’ เข้าใกล้จุด ‘ไคลแมกซ์’
ภายหลังคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกหมายเรียกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ลอตแรก 54 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ.2561 มาตรา 70 ประกอบมาตรา 36 มาตรา 77 (1) และมาตรา 62
ตลอดสามวัน กกต. หัวกระไดไม่แห้ง เพราะมี ‘สว.ลอตแรก’ ทยอยเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา มีทั้งสงวนท่าที-รักษารูปคดี และพร้อมเปิดหน้า-ปริปาก เปล่งวาจาโต้ตอบ เป็นข้อกล่าวหาเลื่อนลอย พร้อมกับการพลิกเกม เปลี่ยนจากรับกลับมาเป็นรุก ร้องขอความเป็นธรรม ไม่ให้ตกอยู่ในมุมอับโดนสาวหมัดแต่เพียงฝ่ายเดียว
อ่านข่าวประกอบ :
- เปิดชื่อ 54 สว. โดนหมายเรียก DSI-กกต. มี ‘ประธานวุฒิฯ’ ด้วย-ลอตสอง อีก 97 คน
- มีข้อหาซื้อเสียงด้วย! เปิดหมายเรียก DSI-กกต.ส่ง 6 สว.ละเมิด กม.เลือกตั้งมาตราใดบ้าง
@ สะพัด ออกหมายเรียกรมต.-แกนนำ ‘ภูมิใจไทย’
คู่ขนานกับการปล่อยข่าว ว่า กกต. ได้ออกหมายเรียก ‘สว.-คนนอก’ ที่เป็นแกนนำระดับรัฐมนตรี - สส. และ นายก อบจ. ของพรรคภูมิใจไทยกว่า 10 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ‘คดีฮั้วเลือกสว.’ ประกอบด้วย
1.นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ 2.นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.นครพนม อดีตรองประธานสภา 3.น.ส.วาริน ชินวงศ์ นายกอบจ.นครศรีธรรมราช 4.นายสุบิน ศักดา นักการเมืองท้องถิ่นและผู้รับเหมาในจ.นครศรีธรรมราช 5.นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ นายกสมาคมประมง จังหวัดสตูล พ่อนายวรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย
6.นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 7.นายวงศกร ชนะกิจ อดีตผู้สมัคร สส.ภูเก็ต 8.นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว สว. 9.นายณัฐกิตติ์ หนูรอด สว. และ 10.นายสมศักดิ์ จันทร์แก้ว สว.
นอกจากนี้ยังมีเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ว่า จะมีการออกหมายเรียก ‘ลอตสาม’ ซึ่งจะเขย่ากระดานการเมือง เพราะจะมีชื่อ ‘บิ๊กเนม’ ระดับ ‘ผู้ยิ่งใหญ่’ ของ ‘พรรคสีน้ำเงิน’ ที่เป็น ‘ตัวการ’ และ ‘ผู้สนับสนุน’ ทั้งหมด จนทำให้ ‘ขุนพลสีน้ำเงิน’ นั่งไม่ติด ออกมาขู่คำราม ฟ้องกราวรูด
@ ติดเบรก เลือก ‘องค์กรอิสระ’
อีกด้านหนึ่งมีการเปิดปฏิบัติการของ ‘สว.พันธุ์ใหม่’ เร่งล่ารายชื่อ-ร่างคำร้อง เพื่อ ‘ติดเบรก’ การเลือก ‘องค์กรอิสระ’ ตำแหน่งสำคัญ ซึ่งมีผลต่อการชี้เป็น-ชี้ตาย ชี้ขาด-ชี้ชะตาทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กรณี ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวชั้น 14 รวมถึง ‘พรรคส้ม’ ในคดี 44 สส. ที่ ‘จ่อคิว’ เข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาเพื่อเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 3 คน ในช่วงเปิดสมัยวิสามัญฯ ในวันที่ 30 พ.ค.68 ได้แก่
1.นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ ประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองประธานศาลฎีกา
2.นายเพียรศักดิ์ สมบัติทอง อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการภาค 2
3.นายประจวบ ตันตินนท์ อดีตผู้บริหารบริษัทมหาชน และผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
นอกจากนี้ยังมีวาระการพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง ‘องค์กรอิสระ’ จำนวน 3 ตำแหน่ง ประกอบด้วย
1.กกต. 1 คน คือ นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ 2.ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน ได้แก่ 1.ศ.ร.ต.อ. สุธรรม เชื้อประกอบกิจ และ 2.นายสราวุธ ทรงศิวิไล และ 3.อัยการสูงสุด 1 คน คือ นายอิทธิพร แก้วทิพย์
‘นันทนา นันทวโรภาส’ แกนนำ ‘สว.พันธุ์ใหม่’ ผู้รับบทล่ารายชื่อ 20 สว. - พลิกตำรากฎหมายร่างคำร้องชะลอการพิจารณาตำแหน่งในองค์กรอิสระ เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้ ร่างคำร้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เริ่มนับ 1 รวบรวมรายชื่อ สว. 20 คน เพื่อรับรองและยื่นให้ประธานวุฒิสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
@ เช็กลิสต์ ‘สว.หน้าเดิม’ วน กลั่นกรองคุณสมบัติ
ตั้งแต่ ‘สว.ชุดเลือกกันเอง’ เข้า ‘ประจำการ’ ใน ‘สภาสูง’ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา มีการตั้งคณะ กมธ. สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ไปแล้วทั้งสิ้น 8 ตำแหน่ง 33 คน ซึ่งส่วนใหญ่ประธาน-รองประธานเป็นหน้าเดิม ดังนี้
1.ตำแหน่ง กรรมการ ป.ป.ช. แทนพล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ 1 คน มี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา เป็นประธานกมธ.
2.ตำแหน่งกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แทนตำแหน่งที่ว่าง 6 คน มี พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร เป็นประธานกมธ.
3.ตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน 1 คน มี นายชีวะภาพ ชีวะธรรม เป็นประธานกมธ.
4.ตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด 1 คน มีนายธวัช สุระบาล เป็นประธานกมธ.
5.ตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน แทนนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ และนายปัญญา อุดชาชน มี พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ เป็นประธานกมธ.
6.ตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช.จำนวน 3 คน มี พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ เป็นประธานกมธ.
7.ตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด จำนวน 9 คน มี พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ เป็นประธานกมธ.
8.กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) 10 คน มี นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ เป็นประธานกมธ.
เอฟเฟ็กต์ของ ‘นิติสงคราม’ จากการใช้กฎหมายห้ำหั่นของ ‘ฝ่ายแดง’ และ ‘ฝ่ายน้ำเงิน’ ส่งผลให้ ‘พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง’ รมว.ยุติธรรม กำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ต้อง ‘หยุดปฏิบัติหน้าที่’ เฉพาะดีเอสไอ ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ส่งผลให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องเปลี่ยนม้ากลางศึก (แดง-น้ำเงิน) มีมติเห็นชอบไฟต์บังคับให้ ‘ชูศักดิ์ ศิรินิล’ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี-มือกฎหมายพรรคเพื่อไทย ‘รับผิดชอบดีเอสไอแทน’
@ ไทม์ไลน์ ‘นิติสงคราม’ คดีฮั้วเลือก สว.
สำหรับ ‘ไทม์ไลน์’ ของปฐมบทของ ‘คดีฮั้วเลือกสว.’ จนถึงกลายเป็น ‘นิติสงคราม’ ใน ‘ศึกแดง-น้ำเงิน’ งัดอาวุธทางกฎหมาย เปิดฉากฟ้องร้องต่อ ‘องค์กรตัดสิน’ ทั้งตำรวจ อัยการ ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ ทั้ง กกต. ป.ป.ช. จนกว่าจะ ‘ถึงที่สุด’
- วันที่ 9 มิถุนายน 2567 การเลือกสว.ระดับอำเภอ
- วันที่ 16 มิถุนายน 2567 การเลือกสว.ระดับจังหวัด
- วันที่ 26 มิถุนายน 2567 การเลือกสว.ระดับประเทศ ที่เมืองทองธานี
- วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ประกาศผลการเลือก สว. 200 คน/สว.บัญชีสำรอง 99 คน
- วันที่ 6 มีนาคม 2568 คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติ 11 เสียง เห็นชอบรับคดีเลือกสว.ฐานความผิดฟอกเงินและความผิดทางอาญาที่เกี่ยวเนื่อง
- วันที่ 12 มีนาคม 2568 พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. และคณะสว. ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ให้ถอดถอน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหายอาญามาตรา 157
- วันที่ 19 มีนาคม 2568 พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงแพชร สว.กับ สว. รวม 92 คน เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภาเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานกรรมการคดีพิเศษ และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะรองประธานกรรมการคดีพิเศษ แทรกแซง หรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของกกต. จึงถือได้ว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
- วันที่ 26 มีนาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติคำร้องของพล.ต.ต.ฉัตรวรรษและคณะสว. ว่า นายภูมิธรรมและพ.ต.อ.ทวี ความเป็นรัฐมตรีสิ่นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่
- วันที่ 24 เมษายน 2568 ดีเอสไอ แถลง รับโอนคดีอั้งยี่ จากสภ.รัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบรี และสภ.โกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
- วันที่ 25 เมษายน 2568 พ.ต.ต.ยุทธนา นำคณะ พร้อม สว.สำรอง ลงพื้นที่อาคาร อิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี สถานที่จัดการเลือกสว.ระดับประเทศ จำลองเหตุการณ์เสมือนจริง
- วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 กกต. ออกหมายเรียก สว.ชุดแรก เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา
- วันที่ 19 – 21 พฤษภาคม 2568 สว.ชุดแรก เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ที่ กกต.
@ ชี้ชะตาคดีชั้น 14 - ยุบพรรคภูมิใจไทย
ขณะที่คดีความที่เป็น ‘ชนักปักหลัง’ ผู้ทรงอิทธิพลของพรรคเพื่อไทย อย่าง ‘คดีชั้น 14’ ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ใน ป.ป.ช. และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน อีกฝ่ายก็มีการร้อง ‘ยุบพรรคภูมิใจไทย’ หลังโดน ‘นักร้อง’ ทยอยยื่นคำร้องเป็นความผิดเกี่ยวเนื่องจาก ‘คดีฮั้วเลือกสว.’ ต่อคิวการพิจารณาใน ‘องค์กรอิสระ’ อย่าง กกต.-อัยการสูงสุด ก่อนถึงมือศาลรัฐธรรรมนูญชี้ขาด
ไม่นับรวม ‘อุบัติเหตุทางการเมือง’ อย่าง ‘คดีป่วยทิพย์’ ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนวันที่ 13 มิถุนายน 2568 รวมถึง คดีมาตรา 112 ที่อยู่ในศาลอาญา โดยนัดสืบพยานในเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งอาจจะส่งผลกระเทือนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี-แพทองธาร ชินวัตร ‘หัวหน้ารัฐบาลเพื่อไทย’
ศึกครั้งนี้ระหว่าง ‘สีน้ำเงิน’ กับ ‘สีแดง’ ใหญ่หลวงนัก เพราะเป็น ‘ศึกแห่งศักดิ์ศรีและวิถีแห่งอำนาจ’ ของ ‘ผู้มีบารมีนอกพรรค’ ที่เคยบาดหมางกันมาในอดีต โดยมี ‘เดิมพันทางการเมือง’ สูงลิ่ว !!!
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องประกอบ :
- ‘ฉัตรวรรษ’ บุก กกต. ขอความเป็นธรรม ‘คดีฮั้วเลือกสว.’ - ร้อง ยุติกระบวนการทั้งหมดทันที
- สว.ทยอยรับทราบข้อกล่าวหา ‘คดีฮั้วสภาสูง’ วันแรก – ‘นภินทร’ ยืนยัน ไม่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับนิติสงครามประกอบ :
- 'ฉัตรวรรษ' นำคณะสว.ยื่นหนังสือเอาผิด 'ทวี-ยุทธนา' ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ-เจตนากลั่นแกล้ง
- ‘ดีเอสไอ’ ลงพื้นที่ เมืองทอง นำ ‘สว.สำรอง’ จำลองเหตุการณ์-ชี้จุด ‘โพยฮั้ว’
- กคพ.มีมติเสียงข้างมากรับ ‘ฮั้วเลือกสว.’ เป็นคดีพิเศษ ฐานฟอกเงิน-ความผิดอาญาเกี่ยวเนื่อง
- เบื้องหลัง มติเสียงข้างน้อย ‘กฤษฎีกา’ นำค้าน กคพ. รับ ‘ฮั้วเลือก สว.’ ฐานฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ
- ศาลรธน.มีมติรับวินิจฉัยคดีผิดจริยธรรม 'ภูมิธรรม-ทวี' ปมใช้ DSI แทรกแซงตรวจสอบเลือก สว.