
‘ฉัตรวรรษ แสงเพชร’ – คณะสว. ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กกต. ‘คดีฮั้วเลือกสว.’ ชี้ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่รักษาความลับทางราชการ สร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียง-เกียรติยศ ขอสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของคกก.สืบสวนฯ และกระบวนการทั้งหมดทันที - เข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่ใช้ตั้งข้อกล่าวหา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นายอลงกต วรกี สว. และ พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว. ยื่นหนังสือถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอความเป็นธรรม และร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26
พล.ต.ต. ฉัตรวรรษกล่าวว่า วันนี้มาเพื่อขอความเป็นธรรมและความชอบธรรมให้กับสมาชิกวุฒิสภา ที่ถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากมองว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งละเมิดระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างร้ายแรง สร้างความเสียหายและละเมิดพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหา โดยประเด็นข้อร้องเรียน ดังนี้
1.การละเมิดระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความลับทางราชการ คณะกรรมการได้จัดส่งเอกสารที่มีชั้นความลับว่า ลับ ไปติดที่ประตูห้องพักของนายอลงกต วรกี และกลุ่ม สว. รวม 5 คน โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบตามที่กำหนดว่าต้องบรรจุซองสองชั้นและป้องกันการเปิดเผยข้อมูลลับ ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลให้ข้อมูลลับรั่วไหล สร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติยศของผู้ถูกกล่าวหา
2.การละเมิดสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาในการรับทราบข้อกล่าวหา คณะกรรมการฯ ถูกกล่าวหาว่าจงใจไม่เปิดเผยพยานหลักฐานสำคัญที่ใช้ในการตั้งข้อกล่าวหา ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาไม่สามารถเตรียมการชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาได้อย่างเต็มที่ การกระทำดังกล่าวขัดต่อหลักความเป็นธรรมที่ได้รับการคุ้มครองในรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องได้รับข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
3.การปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นกลางและเลือกปฏิบัติ คณะกรรมการฯ มีการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน โดยไม่ได้ดำเนินการใด ๆ กับกลุ่มผู้สมัคร สว.อื่น ๆ ที่มีพฤติการณ์ใกล้เคียงกัน แต่กลับมุ่งเป้าเฉพาะบุคคลหรือกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นกลางทางการเมืองและการละเมิดหลักนิติธรรม
พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวว่า จึงขอเรียกร้องต่อ กกต. ดังต่อไปนี้ 1. ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 และคณะอื่นที่มีการกระทำลักษณะเดียวกันทันที เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมที่จะเกิดขึ้น
2.ให้มีการเพิกถอนกระบวนการใดๆ ที่เกิดจากการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบนี้ทั้งหมด
3.อนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาทุกคนได้มีโอกาสตรวจสอบและเข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่ใช้ตั้งข้อกล่าวหา เพื่อให้สามารถป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของตนได้อย่างเหมาะสม
และขอให้สำนักงาน กกต. ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยยืนยันในหลักการปฎิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม และเป็นกลาง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของกระบวนการเลือกตั้งและองค์กร กกต.อย่างสูงสุด
สำนักงาน กกต. ต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สังคมได้รับความกระจ่างและมั่นใจในความเป็นกลางและความเป็นธรรมของหน่วยงาน กกต. ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา