"...ก่อนหน้านี้ การเผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตีตกข้อกล่าวข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกกรณีจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเอาไว้ด้วย รวมถึงข้อมูลในส่วนการแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน รวมถึงการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์การเข้าจับกุมผู้ต้องหา ที่หลบหนีคดีความในช่วงที่ผ่านมา ป.ป.ช.ก็มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อกล่าวหาการกระทำความผิดเอาไว้ด้วยทุกครั้งด้วย ..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด พันเอกชุติเทพ ราชสีหา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายทหารวิทยาลัยการทัพบก กองทัพบก เรียกรับเงิน 4 กรณี โดยมี 3 กรณีที่มีมติเห็นชอบตามความเห็นของคณะอนุกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรองสำนวนการไต่สวนว่ามีความผิดทางอาญาและมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ส่วนอีก 1 กรณี ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อกล่าวหาให้สาธารณชนได้รับทราบแต่อย่างใด
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบฐานข้อมูลการชี้มูลความผิดคดีทุจริตของ สำนักงาน ป.ป.ช.เพิ่มเติมพบว่า นอกจากคดี พันเอกชุติเทพ ราชสีหา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายทหารวิทยาลัยการทัพบก กองทัพบก ที่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อกล่าวหาแล้ว
ยังมีคดีทุจริตข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ อีก 21 ราย ที่มีการเผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไว้ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อกล่าวหาเช่นกัน
ปรากฏรายละเอียดดังนี้
1. นายเอกพจน์ ปานแย้ม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง กับพวก รวม 7 ราย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้
1.นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ชี้มูล ป.อ.มาตรา 151 , 157 ,พรบ.ป.ป.ช.มาตรา 172 , พรบ.การเสนอราคา มาตรา 12 , ถอดถอน 2.นายนายชูชาติ คล้ายทิม เจ้าหน้าที่พัสดุ ชี้มูล ป.อ.มาตรา 157 , พรบ.ป.ป.ช.มาตรา 172 , พรบ.การเสนอราคา มาตรา 10 ,12 ,วินัยร้ายแรง 3.นายสิรภัทร กาฬสิงห์ นิติกร , 4.นายนันทภพ ศิริภาพ เจ้าพนักงานป้องกัน ปฏิบัติงาน , 5.นายกมลพันธุ์ วัชโรทยาน นายช่างโยธาปฏิบัติงาน ชี้มูล ป.อ.มาตรา 157 , พรบ.ป.ป.ช.มาตรา 172 , วินัยร้ายแรง 6.นางสาวพิมณภัทร์ สรรประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แฮงบก เทรดดิ้ง จำกัด , 7.บริษัท แฮงบก เทรดดิ้ง จำกัด โดย พิมณภัทร์ สรรประสิทธิ์ ชี้มูล ป.อ.มาตรา 157 , พรบ.ป.ป.ช.มาตรา 172 , พรบ.การเสนอราคา มาตรา 12 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86
2. นางสาวบุษราพร เล่าสถาพร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลหนองบัวลาย กับพวก รวม 3 ราย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ 1.นางสาวบุษราพร เล่าสถาพร นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลหนองบัวลาย ชี้มูล ป.อ.มาตรา 151 , 152 , 157 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 100(1) , 123/1 ประกอบ ป.อ.มาตรา 91 , ถอดถอน 2.นางสาวปทุม คุ้มบัว , 3.นางสาวเชื้อ เเสงนอก ชี้มูล ป.อ.มาตรา 151 , 152 , 157 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 100(1) , 123/1 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 , 91
3. นายปิยะ ทองวัฒนา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลวัดสิงห์ กับพวก รวม 7 ราย
ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 5เสียง ดังนี้ 1.นายปิยะ ทองวัฒนา ชี้มูล ป.อ.มาตรา 151 , 152 , 157 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 , ถอดถอน นายตรึก อุ่มครุฑ , นายชัยวัฒน์ จิระมณี , นายทานินทร์ วลานันทฤทธิ์ , ชี้มูล ป.อ.มาตรา 157 , 162(1)(4) , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 ,วินัยร้ายแรง ช.ทรัพย์รุ่งโรจน์ , นางผาณิตา วัฒนกุล หรือ กิตติวัฒนากูล ชี้มูล ป.อ.มาตรา 151 , 157 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 แต่ ช.ทรัพย์รุ่งโรจน์ สิ้นสภาพนิติบุคคลสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ นายไพโรจน์ แพ่งดิษฐ มีมติให้กันไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี
4. นายประจวบ หลงทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังข่อย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่การกระทำของนายประจวบ หลงทอง ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
5. นายธีรศักดิ์ พิงภักดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนพรหมานุสรณ์
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นายธีรศักดิ์ พิงภักดิ์ ชี้มูล ป.อ.มาตรา 147 , 157 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 , 172 ประกอบ ป.อ.มาตรา 91 , วินัยร้ายแรง
6. นางกุลภาภร ป้อมจันทร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ประสาท อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 6 เสียง เห็นชอบตาม ความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า การกระทำของนางกุลภาภร ป้อมจันทร์ ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิด ทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียในกิจการนั้น เพื่อประโยชน์ สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิด ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และมาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐ อันเป็น เหตุให้เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง และฐานกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดนครสวรรค์ เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ฉบับลงวันที่ 25 ธันวาคม 2544 ข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 6 วรรคสอง และข้อ 19 วรรคสอง
สำหรับในกรณีของนายธรรมศักดิ์ แก้วนิ่ม ผู้อำนวยการกองคลัง นางสาวนันทาวดี แสงชมภู เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี และนางสาวณิชัญญา ฤทธิ์ฉ่ำ ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ยินยอมส่งมอบเอกสารฎีกาเบิกจ่ายเงินค่าจ้างและเช็คธนาคารสั่งจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้ถูกกล่าวหา เพื่อให้ ผู้ถูกกล่าวหาไปดำเนินการจ่ายเช็คค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างนอกสถานที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ประสาท ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และ การตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2547 จึงมีมติส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนของนายธรรมศักดิ์ แก้วนิ่ม นางสาวนันทาวดี แสงชมภู และนางสาวณิชัญญา ฤทธิ์ฉ่ำ ดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 64
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวน การไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นางกุลภาภร ป้อมจันทร์ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป ทั้งนี้ ให้แจ้งองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ประสาท อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 82 วรรคสอง
7. นายนิติรัฐ เวียงนนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอ่างทองวิทยาคม กับพวก รวม 3 ราย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นายนิติรัฐ เวียงนนท์ ชี้มูล ป.อ.มาตรา 147 , 151 , 157 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 ประกอบ ป.อ.มาตรา 91 , วินัยร้ายแรง นายอภิศักดิ์ คำภากุม ชี้มูล ป.อ.มาตรา 147 , 151 ประกอบ มาตรา 86 , 157 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 ประกอบ ป.อ.มาตรา 91 , วินัยร้ายแรง นางนวลจันทร์ วิทย์บุญประคม ข้อกล่าวหาในทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป , วินัยไม่ร้ายแรง
8. นายกิตติ แก้วกาสี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลภูปอ กับพวก รวม 6 ราย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ 1. นายกิตติ แก้วกาสี ชี้มูล ป.อ.มาตรา 149 , 157 , พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 172 , 173 ประกอบ ป.อ.มาตรา 91 , ถอดถอน นายสมคิด การเลียง ชี้มูล ป.อ.มาตรา 149 ประกอบ มาตรา 86 , 157 , พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 172 , 173 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 , 91 , ถอดถอน 2. นางสาวจัญญ์สุฎา หรือ จุฬาพร พิมพะนิตย์ , นางสาวดรุณี พิมพะนิตย์ ชี้มูล ป.อ.มาตรา 149 ประกอบ มาตรา 86 , 157 , พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 172 , 173 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 , 91 , วินัยร้ายแรง นางอุทัย สำโรงลุน ชี้มูล ป.อ.มาตรา 149 , 157 ประกอบ มาตรา 86 , พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 172 , 173 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 , 91 , นางรัชนี การเลียง ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
9. นายวรรณรัฐ นาควิจิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ช่างเทคนิคสายอากาศ กับพวก รวม 4 ราย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ 1.นายวรรณรัฐ นาควิจิตร ช่างเทคนิคสายอากาศ ชี้มูล พรบ.ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ มาตรา 4 , 8 , 11 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 172 , วินัยร้ายแรง 2. นายเชาวรัฐ ติ๊ปรัตน์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกบำรุงรักษาระบบจำหน่าย , นายธวัชชัย ทองเกิด พนักงานพัสดุ ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป นายทวีสุข การะเกตุ หัวหน้าแผนกบำรุงรักษาระบบจำหน่าย ถึงแก่ความตาย ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
10. นางสมทรง พันธุ์เจริญวรกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับพวก รวม 2 ราย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของนายกิตติศักดิ์ สุขเจริญ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 171)
สำหรับกรณีนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 จากการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายกิตติศักดิ์ สุขเจริญ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) ต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ
ทั้งนี้ ให้แจ้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 82 วรรคสอง
11. นายชุมพล รัชวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุ่มเม่า
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นายชุมพล รัชวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุ่มเม่า ชี้มูล ป.อ.มาตรา 147 , 157 , พรบ.ป.ป.ช.มาตรา 172 ประกอบ ป.อ.มาตรา 91 , ถอดถอน
12. นายมนิตย์ โสเก่าข่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ปลัดอำเภอโนนสัง กับพวก รวม 2 ราย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นายมนิตย์ โสเก่าข่า ปลัดอำเภอโนนสัง ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป นายอัษฎาวุธ อุ่นเรือง สมาชิกอาสารักษาดินแดน ชี้มูล ป.อ.มาตรา 149 , 157 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 172 , 173 , วินัยร้ายแรง
13. นายอุดม เชียงบาล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลสร้างคอม
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 6 เสียง ว่า การกระทำของ นายอุดม เชียงบาล ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ของ องค์การระหว่างประเทศ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕61 มาตรา 172 และมาตรา 173 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิด ฐานจงใจทอดทิ้งหรือละเลย ไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบ ด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73
14. นางดวงฤทัย ทองแก้วเกิด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนศรีวิทยา
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นางดวงฤทัย ทองแก้วเกิด ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนศรีวิทยา ข้อกล่าวหาในทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป , วินัยไม่ร้ายแรง
15.นายวิฑูรย์ สรรเสริญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานอาณาบาล กับพวก รวม 3 ราย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นายวิฑูรย์ สรรเสริญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานอาณาบาล ได้ถึงแก่ความตายแล้ว ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ นายภักดี กล่ำศิริ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองประจำการรถไฟแห่งประเทศไทย ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป นายเศรษฐสีห์ เหล็งบุญ ผู้ว่าคดีผู้ช่วย 2 กองคดี การรถไฟแห่งประเทศไทย ข้อกล่าวหาในทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป , วินัยไม่ร้ายแรง
16. นายพูลสวัสดิ์ ถือคง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลเขาพระงาม กับพวก รวม 9 ราย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่านายพูลสวัสดิ์ ถือคง นายเทศมนตีตำบลเขาพระงาม ชี้มูล ป.อ.มาตรา 151 , 157 , พรบ.การเสนอราคา มาตรา 12 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 , ถอดถอน นางสุธารัตน์ แก้วประเสริฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.คลัง ชี้มูล ป.อ.มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 , มาตรา 157 , พรบ.การเสนอราคา มาตรา 12 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 , วินัยร้ายแรง นางนงลักษณ์ แจ้งจิตร ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารงานคลัง , จ่าสิบโทวุฒิศักดิ์ พงศ์อัมพรศรี ขณะดำรงตำแหน่งนายช่างโยธาชำนาญงาน ข้อกล่าวหาในทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป , วินัยไม่ร้ายแรง นางอัจฉรา ละอองพราว ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน , นางจุฑาวรรณ คณโทมุข ขณะดำรงตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ , นางอัจฉราพร แก้วแสงทอง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ , นางฉลอง บุตรเม้า , นางนลพรรณ พัธ์ด้วง ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
17. นางสุรัตน์ แก้วบุตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองคลัง (ไม่ลงชื่อหน่วยงานต้นสังกัด)
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นางสุรัตน์ แก้วบุตร ผู้อำนวยการกองคลัง ชี้มูล ป.อ.มาตรา 157 , 162(1)(4) , 265 , 268 , พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 ประกอบ ป.อ.มาตรา 91 , วินัยร้ายแรง
18. นายโบว์แดง ทาแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายช่างชลประทานอาวุโส สังกัด โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโคกกระเทียม สำนักชลประทานที่ 10 จังหวัดลพบุรี
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่านายโบว์แดง ทาแก้ว นายช่างชลประทานอาวุโส สังกัด โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโคกกระเทียม สำนักชลประทานที่ ๑๐ จังหวัดลพบุรี ชี้มูล ป.อ. มาตรา 149 , 157 , พรบ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 , วินัยร้ายแรง
19. นางสาวศิรินทรา คมจิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าพนักงานพัสดุ องค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นางสาวศิรินทรา คมจิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าพนักงานพัสดุ องค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชี้มูล ป.อ.มาตรา 147 , 157 , พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 172 , วินัยร้ายแรง
20. นางสาวนพรัตน์ คำพิไล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี กับพวก รวม 2 ราย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ 1.นางสาวนพรัตน์ คำพิไล เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ชี้มูล ป.อ.147 , 157 , 161 , 162 (1) (4) , 265 , 266(1) (4) , 268 , 352 ประกอบมาตรา 91 , พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 (มาตรา 172) ประกอบมาตรา 91 , วินัยร้ายแรง 2.นางสาวเกตุแก้ว พรอันแสง ชี้มูล ป.อ.147 , 157 ประกอบมาตรา 86 , มาตรา 352 , พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 (มาตรา 172) ประกอบมาตรา 86 , 91
21. นางขวัญใจ ปัญญชุณห์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นางขวัญใจ ปัญญชุณห์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ชี้มูล ปอ.มาตรา 147 , 157 , พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 172 , วินัยร้ายแรง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า นอกจากมติชี้มูลความผิดข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ อีก 22 ราย (รวมกรณี พันเอกชุติเทพ ราชสีหา) ที่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อกล่าวหาไว้ด้วยแล้ว
ในส่วนมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตีตกข้อกล่าวหาข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ อีกหลายสิบราย ก็ไม่ได้การเปิดเผยรายละเอียดข้อกล่าวหาไว้ด้วยเช่นกัน
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ การเผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตีตกข้อกล่าวข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกกรณีจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเอาไว้ด้วย รวมถึงข้อมูลในส่วนการแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน รวมถึงการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์การเข้าจับกุมผู้ต้องหา ที่หลบหนีคดีความในช่วงที่ผ่านมา ป.ป.ช.ก็มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อกล่าวหาการกระทำความผิดเอาไว้ด้วยทุกครั้งด้วย
ขณะที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 36 (3) ว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีความเห็นหรือวินิจฉัยว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์การกระทํา ความผิด ให้เปิดเผยความเห็นหรือคําวินิจฉัยได้ เว้นแต่จะเปิดเผยชื่อผู้กล่าวหา ผู้แจ้งเบาะแสและ ผู้ซึ่งเป็นพยานมิได้ และต้องไม่กระทบต่อรูปคดีหรือความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้อง
คำถามสำคัญสำหรับกรณีนี้ เมื่อกฎหมายให้อำนาจ ป.ป.ช.ให้เปิดเผยรายละเอียดพฤติการณ์การกระทําความผิดข้อกล่าวหาได้
ทำไม ป.ป.ช. ถึงไม่เปิดเผยรายละเอียดส่วนนี้ให้สาธารณชนได้รับทราบ
แบบที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้