ถึงคิวมุกดาหาร! เปิดมติ ป.ป.ช.ชี้มูล อดีตผู้ว่าฯ-พวก คดีทุจริตซื้อยาปราบศัตรูพืช 224 ล.

picppppcsaaatooooppap31 7 67

"...การรายงานภัยและการรับรองความเสียหายของอำเภอดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามที่ได้รับการแจ้งจากนายบุญช่วย น้อยสันเทียะ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหารว่าได้รับการประสานข้อมูลจากนายชาญวิทย์ วสยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ให้อำเภอต่าง ๆ สั่งการไปยังเกษตรอำเภอให้ทำการสำรวจโรคพืชแล้วให้รายงานเป็นตัวเลขตามแบบรายงานเหตุด่วนสาธารณภัยมายังผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเพื่อพิจารณาประกาศภัย ทั้งที่ไม่มีภัยพิบัติดังกล่าวเกิดขึ้นจริง หรือไม่ได้มีการระบาดรุนแรงเป็นเพียงการเกิดโรคพืชตามปกติของฤดูกาลเท่านั้น..."

นายวิชิต ชาตไพสิฐ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และ นายสุรพล สายพันธ์ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

มิใช่ 2 อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดพร้อมพวกจำนวนนับร้อยคน ในคดีทุจริตจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ด้านพืช) ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ก่อให้เกิดความเสียหายเงินงบประมาณรัฐนับพันล้านบาท เท่านั้น

picpppppssskkkammamaaaa28 7 67

ฉบับเต็ม! เปิดมติ ป.ป.ช.ชี้มูล 2 ผู้ว่าฯ อุบล-พวก คดีทุจริตซื้อยาปราบศัตรูพืช 1.2 พันล.

หากแต่ นายชาญวิทย์ วสยางกูร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ก็เป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานอีก 1 ราย ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในคดีทุจริตจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ด้านพืช) ด้วย

โดยในช่วงเดือนกันยายน 2566 สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีการแถลงมติชี้มูลความผิด นายชาญวิทย์ วสยางกูร พร้อมพวก กรณีดำเนินการออกประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) โดยมิชอบ และร่วมกันทุจริตการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อจัดซื้อสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) ของอำเภอดอนตาล อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ประจำปีงบประมาณ 2553 - 2555 จำนวน 21 ภัย หรือ 21 ครั้ง แต่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดการชี้มูลความผิดในคดีเป็นทางการ

ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตผู้ว่าฯ อุบล-มุกดาหาร ซื้อยาฆ่าแมลง 'ชาญวิทย์'2สำนวน-'สุรพล' โดนซ้ำอีก1

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายชาญวิทย์ วสยางกูร พร้อมพวก เป็นทางการ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

คดีกล่าวหา นายชาญวิทย์ วสยางกูร พร้อมพวก มี 2 สำนวน คือ

1. เรื่องกล่าวหา นายชาญวิทย์ วสยางกูร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารกับพวก ทุจริตเงินทดรองราชการเพื่อจัดซื้อสารเคมีผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) ของอำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 - 2555

2. เรื่องกล่าวหา นายชาญวิทย์ วสยางกูร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กับพวก ทุจริตเงินทดรองราชการเพื่อจัดซื้อสารเคมีผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) ของอำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 - 2555

พฤติการณ์การกระทำความผิดโดยสรุป

เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 - 2555 อำเภอดอนตาลและอำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ได้มีการรับรองภัยและรายงานเหตุด่วนสาธารณภัยการเกิดโรคหรือแมลงศัตรูพืชระบาดในพืชชนิดต่าง ๆ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เพื่อพิจารณาประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเนื่องจากเกิดโรคหรือแมลงศัตรูพืชระบาด ประกอบด้วย 1) โรคหนอนห่อใบข้าว 2) โรคเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง3) โรคหนอนกออ้อย 4) โรคหนอนกอข้าว 5) โรคเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง 6) โรคเส้นดำยางพารา 7) โรคแป้งยางพารา 8) โรคหนอนกออ้อย 9) โรคราสีชมพู และ 10) โรคไหม้ข้าว

โดยในพื้นที่อำเภอดอนตาลมีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ระหว่างปีงบประมาณ 2553 – 2555 รวมจำนวน 10 ครั้ง และพื้นที่อำเภอหว้านใหญ่ ในปีงบประมาณ 2554 จำนวน 3 ครั้ง และปีงบประมาณ 2555 จำนวน 8 ครั้ง รวมเป็น 11 ครั้ง ซึ่งการรายงานภัยและการรับรองความเสียหายของอำเภอดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามที่ได้รับการแจ้งจากนายบุญช่วย น้อยสันเทียะ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหารว่าได้รับการประสานข้อมูลจากนายชาญวิทย์ วสยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ให้อำเภอต่าง ๆ สั่งการไปยังเกษตรอำเภอให้ทำการสำรวจโรคพืชแล้วให้รายงานเป็นตัวเลขตามแบบรายงานเหตุด่วนสาธารณภัยมายังผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเพื่อพิจารณาประกาศภัย

ทั้งที่ไม่มีภัยพิบัติดังกล่าวเกิดขึ้นจริง หรือไม่ได้มีการระบาดรุนแรงเป็นเพียงการเกิดโรคพืชตามปกติของฤดูกาลเท่านั้น

เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ว นายบุญช่วย น้อยสันเทียะ และนางบุญน้อม เลิศสงคราม หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย จะเป็นผู้แจ้งข้อมูลรายชื่อสารเคมีและราคาต่อหน่วย รวมทั้งงบประมาณที่จะจัดซื้อแก่อำเภอต่าง ๆ ผ่านปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง หรือแจ้งทางโทรสารส่งมาพร้อมกับคำสั่งประกาศภัย เพื่อให้แต่ละอำเภอนำไปเป็นข้อมูลในการดำเนินการประชุมคณะกรรมการ ก.ช.ภ.อ.

จากนั้นอำเภอจะใช้รายงานประชุมของคณะกรรมการ ก.ช.ภ.อ. และจัดทำบัญชีสรุปความช่วยเหลือดังกล่าวแนบเป็นหลักฐานขอรับการสนับสนุนงบประมาณไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในฐานะเจ้าของงบประมาณ โดยไม่ปรากฏว่าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหารได้มีการตรวจสอบยืนยันสารเคมีและราคาต่อหน่วยของสารเคมีและไม่มีการตรวจสอบยืนยันพื้นที่ความเสียหายว่าเป็นไปตามที่อำเภอเสนอมาหรือไม่ และได้ทำความเห็นเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารว่าเห็นควรอนุมัติจัดสรรวงเงินให้กับที่ทำการปกครองอำเภอตามจำนวนที่ขอมา

ต่อมาเมื่อนายชาญวิทย์ วสยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้อนุมัติจัดสรรวงเงินทดรองราชการให้อำเภอดอนตาล จำนวน 165,467,260 บาท และอำเภอหว้านใหญ่ จำนวน 58,588,983 บาท (รวมตัวเลข 224,056,243 บาท) แล้ว แต่ละอำเภอได้ทำการจัดซื้อสารเคมีแต่ละครั้งจากกลุ่มผู้ประกอบการซึ่งเป็นกลุ่มของนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล และนางณุธษา พลเขต ภรรยาของนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล และคณะกรรมการจัดหาเจรจาต่อรองราคาก็ได้ร่วมกันเสนอความเห็นให้นายอำเภอดอนตาล และนายอำเภอหว้านใหญ่จัดซื้อสารเคมีกับผู้ขายในราคาที่ผู้ขายเสนอมาทุกครั้ง

ทั้งที่ราคาสารเคมีแต่ละชนิดที่เสนอให้จัดซื้อนั้นเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตามท้องตลาดของท้องที่ในช่วงเวลาที่เกิดภัย อีกทั้งกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวก็ไม่ใช่ผู้มีอาชีพจำหน่ายสารเคมีกำจัดศัตรูพืชโดยตรง

กรณีจึงเป็นการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ด้านพืช) เพื่อให้มีการนำเงินทดรองราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาจัดซื้อสารเคมีกำจัดศัตรูพืชโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้เสนอราคาบางรายให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย

มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีดังนี้

1. การกระทำของนายชาญวิทย์ วสยางกูร และนายบุญช่วย หรือวลัยพรรณ น้อยสันเทียะ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (4) พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 90 และมาตรา 91 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162 (4) ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(6) ให้ยุติการดำเนินคดีอาญาตามฐานความผิดดังกล่าว

2. การกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ มีมูลความผิดทางอาญา และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง หรือให้ข้อกล่าวหาตกไป ตามแต่พฤติการณ์แห่งกรณี

3. การกระทำของนายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล และกลุ่มเอกชนผู้ขายสารเคมี มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐพ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7 และมาตรา 10 ประกอบมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(6) ให้ยุติการดำเนินคดีอาญาตามฐานความผิดดังกล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เห็นชอบการดำเนินการทางอาญา ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1)

การดำเนินการทางวินัย ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (2) และมาตรา 98

ส่วนการดำเนินการอื่น ๆ แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายและแจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการกระทำของบริษัท โชครับทรัพย์อนันต์ จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศ.ศุภฤกษ์ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นำทรัพย์เจริญ ห้างหุ้นส่วนจำกัด รับทรัพย์รุ่งเรือง บริษัท มินถาพร จำกัด และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โชติชนิด ให้กรมบัญชีกลางเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ

สำหรับ นายเกรียงไกร วรรณเสริมสกุล และกลุ่มเอกชนผู้ขายสารเคมีในคดีนี้ ก็ปรากฏชื่อเป็นจำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (ด้านพืช) ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ของ นายวิชิต ชาตไพสิฐ และ นายสุรพล สายพันธ์ 2 อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่สำนักข่าวอิศรา นำมารายงานไปก่อนหน้านี้แล้ว

อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

ส่วนข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป

อ่านประกอบ:

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage