เปรียบเทียบทรัพย์สิน 'สราวุธ แก้วตาทิพย์' อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ปี 2566 vs ปี 2567 เพิ่มขึ้น 18 ล. เงินฝากเพิ่มขึ้น 6 ล. รายได้ต่อปี 'มิซูโฮะ โอกิโมโตะ แก้วตาทิพย์' คู่สมรส เพิ่มขึ้น 2.7 ล.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ราย นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน กรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
โดย นายสราวุธ พร้อมด้วย นางมิซูโฮะ โอกิโมโตะ แก้วตาทิพย์ คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 142,174,537.55 บาท ไร้หนี้สิน
นายสราวุธ แจ้งมีทรัพย์สิน 125,733,546.57 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 13 บัญชี รวมมูลค่า 10,617,278.84 บาท เงินลงทุน 4,244,896.37 บาท
ที่ดิน 4 แปลง ใน จ.ภูเก็ต และ จ.สุราษฎร์ธานี รวมมูลค่า 38,711,250 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด 2 ห้องในจ.กรุงเทพมหานครฯ รวมมูลค่า 17,280,000 บาท
ยานพาหนะ รถยนต์ 2 คัน รวมมูลค่า 650,000 บาท สิทธิและสัมปทาน เป็นหนังสือสัญญาเช่าที่ดิน น.ส.3ก เลขที่ 738 ใน จ.ภูเก็ต และหนังสือเช่าที่ดิน โฉนดเลขที่ 53481 ใน จ.ภูเก็ต รวมมูลค่า 53,920,121.36 บาท
ทรัพย์สินอื่น ได้แก่ นาฬิกา Breitling 1 เรือน 250,000 บาท
ส่วน นางมิซูโฮะ โอกิโมโตะ แก้วตาทิพย์ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สิน 15,926,439.68 บาท เป็นเงินฝาก 2 บัญชี
บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สิน 514,551.30 บาท เป็นเงินฝาก 5 บัญชี
ทั้งนี้ นายสราวุธ แจ้งมีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 3,974,668 บาท แบ่งเป็นรายได้จากรายได้ประจำ ได้แก่ เงินเดือน 1,521,330 บาท ค่าตอบแทนคณะกรรมการ 2,093,338 บาท และรายได้จากทรัพย์สิน ได้แก่ สัญญาเช่าที่ดิน น.ส.3ก 120,000 บาท และสัญญาเช่าที่ดิน โฉนด 53481 240,000 บาท มีรายจ่ายต่อปีโดยประมาณ 4,400,000 บาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 1,600,000 บาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 250,000 บาท และรายจ่ายอื่น ๆ ได้แก่ ค่าเล่าเรียนบุตร 900,000 บาท ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา 1,250,000 บาท เงินบริจาค 400,000 บาท
ส่วน นางมิซูโฮะ โอกิโมโตะ แก้วตาทิพย์ คู่สมรส แจ้งมีรายได้ต่อปี 6,300,000 บาท แบ่งเป็นรายได้จากรายได้ประจำ ได้แก่ เงินเดือน 4,200,000 บาท และค่าเล่าเรียนบุตร 2,100,000 บาท มีรายจ่ายต่อปีโดยประมาณ 4,600,000 บาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 2,500,000 บาท และรายจ่ายอื่น ๆ ได้แก่ ค่าเล่าเรียนบุตร 2,100,000 บาท
ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีรายจ่ายต่อปีโดยประมาณ 1,000,000 บาท เป็นค่าเลี้ยงดูบุตร
@ เทียบทรัพย์สินเมื่อปี 2566 สมัยเป็นอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
ก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศราเคยรายงานทรัพย์สินของนายสราวุธและนางมิซูโฮะ เมื่อเดือน ธ.ค. 2566 กรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งในขณะนั้นนายสราวุธ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่าง พบข้อมูลดังนี้
นายสราวุธ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 8,962,140.57 บาท มีรายละเอียด ดังนี้
เงินฝากเพิ่มขึ้น 6,662,794.84 บาท เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 2,764,009.37 บาท
ที่ดินมูลค่าเพิ่มขึ้น 1,846,250 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น 1,280,000 บาท
ยานพาหนะมูลค่าลดลง 570,000 บาท สิทธิและสัมปทานลดลง 3,020,915.64 บาท และมีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้น 1,019,668 บาท
ส่วน นางมิซูโฮะ มีเงินฝากเพิ่มขึ้น 8,858,288.68 บาท และมีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้น 2,700,000 บาท
และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีเงินฝากเพิ่ม 514,551.30 บาท เนื่องจากปี 2566 ไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีทรัพย์สิน
ดังนั้นทรัพย์สินของนายสราวุฒิ พร้อมด้วยนางมิซูโฮะ และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากปี 2566 มูลค่า 18,334,979.55 บาท
สำหรับนายสราวุธนั้นปรากฏข้อมูลว่าดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในปี 2562-2567 และดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธุรกิจพลังงานในปี 2567
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลทรัพย์สินของ นายสราวุธ ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมายังไม่เคยปรากฏข่าว นายสราวุธ ถูกสำนักงาน ป.ป.ช. เข้าตรวจสอบข้อมูลเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแต่อย่างใด