ผลการสืบสวนพบว่านายลอว์เรนซ์ บิชนอย และเพื่อนร่วมงานของเขาสามารถทำเงินได้เป็นจำนวนมหาศาล จากการขายสุราผิดกฎหมายและการกรรโชกทรัพย์ ยิ่งไปกว่านั้นพบหนึ่งในเพื่อนร่วมงานของนายบิชนอยชื่อว่านายเอ็ม (ขอสงวนชื่อและนามสกุลเต็ม) ตอนนี้พำนักอยู่ที่ประเทศไทย และดำเนินกิจการเครือโรงแรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการสนับสนุนกิจกรรมก่อการร้าย
ที่ประเทศอินเดีย ไม่นานมานี้ มีกระแสข่าวการสอบสวนอาชญากร ผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในประเทศอินเดีย ซึ่งอาชญากรรายนี้พบว่ามีพฤติกรรมการนำเงินมาจากทั้งประเทศไทยและแคนาดาเพื่อสนับสนุนกิจกรรมกลุ่มก่อการร้าย และเรื่องนี้ยังส่งผลทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอินเดียและแคนาดาเกิดความตึงเครียด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงได้เอารายงานดังกล่าวมานำเสนอ มีรายละเอียดดังนี้
สำนักข่าวอินเดียทีวี รายงานข่าวความคืบหน้าครั้งใหญ่ กรณีที่สำนักงานสอบสวนแห่งชาติอินเดีย (NIA) ได้สืบสวนจนสามารถเปิดโปงนายลอว์เรนซ์ บิชนอย มาเฟียซึ่งมีบทบาทในการสนุบสนุนเงินทุนกิจกรรมก่อการร้ายของขบวนการคาลิสถาน (Khalistan) ซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวชาวซิกข์ โดยเงินทุนนี้มาจากทั้งการกรรโชกทรัพย์ และการฟอกเงินซึ่งเกี่ยวกับประเทศอินเดีย,ประเทศไทย และประเทศแคนาดา
การเปิดโปงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการทูตระหว่างอินเดียและแคนาดา ภายหลังการเสียชีวิตของนายฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์ (Hardeep Singh Nijjar) ซึ่งนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวหาการเสียชีวิตนายนิจจาร์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ “เจ้าหน้าที่ของอินเดีย”
ผลการสืบสวนพบว่านายลอว์เรนซ์ บิชนอย และเพื่อนร่วมงานของเขาสามารถทำเงินได้เป็นจำนวนมหาศาล จากการขายสุราผิดกฎหมายและการกรรโชกทรัพย์ ยิ่งไปกว่านั้นพบหนึ่งในเพื่อนร่วมงานของนายบิชนอยชื่อว่านายเอ็ม (ขอสงวนชื่อและนามสกุลเต็ม) ตอนนี้พำนักอยู่ที่ประเทศไทย และดำเนินกิจการเครือโรงแรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการสนับสนุนกิจกรรมก่อการร้าย
นายลอว์เรนซ์ บิชนอยถูกนำตัวขึ้นศาลที่กรุงเดลีเมื่อปลายเดือน พ.ค. (อ้างอิงวิดีโอจาก The Indian Express)
เงินที่ถูกรีดไถจากนักธุรกิจและผู้ขายสุราในรัฐปัญจาบ,รัฐหรยาณา เดลี ราชสถาน และรัฐอื่นๆ ในอินเดีย ตามการสืบสวนของ NIA พบว่าเงินเหล่านี้ถูกส่งไปยังคนสนิทของนายบิชนอยชื่อว่านายบราร์ และนายซาตบีร์ สิงห์ หรืออีกชื่อก็คือแซม ซึ่งพำนักอยู่ที่แคนาดาผ่านการฟอกเงิน เงินนี้ถูกนำไปใช้โดยขบวนการคาลิสถานเพื่อดำเนินกิจกรรมต่อต้านอินเดีย
ข้อมูลของหน่วยงานระบุต่อว่าโครงข่ายของการฟอกเงินยังเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกฟุตบอลของประเทศแคนาดา,เกี่ยวกับแวดวงภาพยนตร์และบาร์ต่างๆในแคนาดา เงินส่วนมากถูกนำไปลงทุนโดยคนสนิทของนายบิชนอย ทั้งในด้านที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ทางการเกษตร โดยลงทุนในนามครอบครัวหรือเครือญาติ แล้วพอได้กำไร มันก็จะถูกนำไปใช้ในกิจกรรมการก่อการร้ายของกลุ่มคาลิสถานต่อประเทศอินเดีย
มีรายงานว่ากลุ่มคาลิสถานได้เกณฑ์ผู้คนในรัฐปัญจาบและรัฐอื่นๆ ผ่านการใช้โซเชียลมีเดีย จากการสอบสวนพบว่ามีการส่งเงินจำนวนมากจากประเทศไทยไปยังแคนาดาเป็นจำนวน13 ครั้งระหว่างปี 2562-2564
NIA กำลังดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อปิดกั้นเครือข่ายทางการเงินของผู้สนับสนุนกิจกรรมของขบวนการคาลิสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่นายทรูโดออกมากล่าวหาว่ามีหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ว่าอินเดียมีส่วนในการสังหารนายนิจจาร์
บทบาทของนายบิชนอยในการสังหารผู้ก่อการร้ายคาลิสถาน
ประเด็นหนึ่งที่ควรต้องพูดถึงก็คือว่า กลุ่มมาเฟียของนายบิชนอยเคยออกมาอ้างความรับผิดชอบในการสังหารผู้ก่อการร้ายคาลิสถานรายอื่นๆมาแล้ว และเหตุการณ์ก็เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ ผู้ก่อการร้ายที่ถูกสังหารได้แก่นายสุขดูล สิงห์ หรืออีกชื่อก็คือนายสุขา ดูเนก ผู้ก่อการร้ายและมาเฟียซึ่งเป็นที่ต้องการตัว และหนีไปอยู่ที่ประเทศแคนาดา
ย้อนไปเมื่อวันที่ 21ก.ย. นายสุขาถูกลอบยิง หลังจากก่อนหน้านี้เขาหนีไปแคนาดาด้วยข้อหาว่ามีส่วนปลอมแปลงเอกสาร ขณะที่มาเฟียของนายบิชนอยระบุว่านายสุขามีส่วนในการหลายคนซึ่งเป็นสมาชิกในหลายแก๊ง และเขายังเป็นคนติดยาที่ทำลายอีกหลายๆชีวิต
ข่าวการสังหารนายสุขา ดูเนก (อ้างอิงวิดีโอจาก Wion)
นายสุขาถูกสังหารเป็นเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่ NIA ได้ประกาศรายชื่อเขาให้เป็นอาชญากรที่ต้องการตัวไม่ว่าจะยังพำนักอาศัยอยู่ หรือว่าหนีจากอินเดียไปแล้ว
@NIA ดำเนินการกับนายกรภัทรวรรณ สิงห์ พรรณุ
ในขณะเดียวกัน NIA ได้ยึดทรัพย์สินของนายกรภัทรวรรณ สิงห์ พรรณุ หัวหน้าองค์กร Sikhs for Justice's (SFJ) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นองค์กรที่มีจุดยืนสนับสนุนขบวนการคาลิสถาน โดยทรัพย์สินของนายพรรณุได้แก่อสังหาริมทรัพย์ในเมืองจัณฑีครห์และเมืองอมฤตสาร์ ทั้งหมดตอนนี้เป็นของรัฐบาล และนายพรรณุซึ่งปัจจุบันอยู่ที่แคนาดาไม่สามารถจะเข้าไปบริหารจัดการได้แล้ว
หลายหน่วยงานยังได้ยื่นฟ้องนายพรรณุที่ตอนนี้ถูกประกาศให้เป็นผู้ก่อการร้ายตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยการป้องกันกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของอินเดีย อีกทั้งองค์กร SFJ ของนายพรรณุยังถูกระบุให้เป็นองค์กรก่อการร้ายในปี 2563 และตัวนายพรรณุก็มีคดีอยู่ 20 คดีที่รัฐปัญจาบ
@ความสัมพันธ์ทางการทูตที่ถดถอยของอินเดียและแคนาดา
ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับแคนาดาดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดหลังจากข้อกล่าวหาของนายทรูโดในรัฐสภาแคนาดาที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่จากอินเดียอาจมีส่วนร่วมในการสังหารนายนิจจาร์ ซึ่งถูกยิงในย่าน Surrey ของบรัฐริติชโคลัมเบียเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.
อินเดียได้ปฏิเสธและแสดงความโกรธแค้นต่อข้อกล่าวหาของนายกรัฐมนตรีแคนาดา โดยระบุว่าเป็นสิ่งที่ไร้สาระ และ มีแรงจูงใจที่ชัดเจน และอินเดียยังได้ขับนักการทูตระดับสูงของแคนาดาออกนากประเทศ ซึ่งแคนาดาก็ได้ตอบโต้ด้วยการกระทำอย่างเดียวกัน
ล่าสุดอินเดียได้ระงับการให้บริการวีซ่าสําหรับชาวแคนาดาชั่วคราวเนื่องจาก "ภัยคุกคามด้านความปลอดภัย" และเรียกร้องให้ลดนักการทูตแคนาดาในนิวเดลี รวมไปถึงแนะนำพลเมืองอินเดียว่าควรจะใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุดในการเดินทางไปประเทศแคนาดาเพราะกิจกรรมต่อต้านอินเดียที่เพิ่มยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้เกิดความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์ทางด้านการค้า ซึ่งทั้งสองประเทศได้มีข้อตกลงทวิภาคี ที่กำลังเติบโตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา