เห็นได้ชัดว่า ในช่วงนับตั้งแต่เข้าปี 2566 เป็นต้นมา เพียงแค่แปดเดือนมีข่าวศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพิพากษาลงโทษจำเลยที่ถูกกล่าวหาทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างหลายคดี จำเลยมีทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ และเอกชนนับสิบราย ทั้งรอลงอาญาและไม่รอลงอาญา
ในรอบปีที่ผ่านมา มีข่าวความคืบหน้าการดำเนินการกับคดีทุจริตในในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายคดี และหนึ่งในนั้นก็คือการชี้มูลคดีฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง
คดีที่เป็นที่สนใจของสาธารณชนมีดังต่อไปนี้
@คดีจำคุกอดีต นายก อบต.โสมเยี่ยม
คดีนี้เป็นข่าวเมื่อเดือน ม.ค. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนาย นายจุ่นจิตร ฤทธิ์วิเศษ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โสมเยี่ยม อำเภอน้ำโสมจังหวัดอุดรธานี กับ พวก 3 ราย ฐานปกปิดการประกาศสอบราคาโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) บ้านโสมเยี่ยม หมู่ที่ 1 และบ้านหัวช้าง หมู่ที่ 3 (สายบ้านหัวช้าง - โนนสะอาด) โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคากันอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้เสนอราคาบางรายเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา
ต่อมาวันที่ 22 ก.ย.2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายจุ่นจิตร ฤทธิ์วิเศษ จำเลยที่ 1 ร่วมกับพวกอีก 3 ราย มีความผิดตามกฎหมาย
ให้ลงโทษจำเลยทั้ง 4 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือที่เรียกกันว่า กฎหมายฮั้วมาตรา 12 จำคุกจำเลยทั้ง 4 คนละ 5 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามป.อ.มาตรา 78
คงจำคุกจำเลยทั้ง 4 คนละ 2 ปี 6 เดือน
(อ่านประกอบ:คุกคนละ 2 ปี 6 ด.! อดีตนายก อบต.โสมเยี่ยม - พวก 3 ราย ปกปิดประกาศสอบราคาเอื้อผู้รับเหมา )
@จำคุกอดีตนายกเทศมนตรีตำบลโพนสวรรค์
คดีถัดมา คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลนายระพีพัฒน์ ราชมณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลโพนสวรรค์ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม กับพวก 3 ราย กรณีทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้าง จำนวน 7 โครงการ และโครงการจัดซื้อวัสดุงานบ้านงานครัว
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2565 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่พิพากษาว่า นายระพีพัฒน์ ราชมณี จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 เช่นเดียวกับจำเลยที่เหลืออีก 3 รายมีความผิดตามมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86
นอกจากนี้ จำเลยทั้ง 4 ยังมีความผิดตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ฮั้ว
จำเลยทั้ง 4 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 78
คงจำคุก จำเลยที่ 1 จำนวน 3 ปี
ส่วนจำเลยที่ 2-4 คงจำคุกคนละ 2 ปี
พฤติการณ์แห่งคดีนับว่าร้ายแรง จึงไม่รอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยทั้งสี่
(อ่านประกอบ:ยืนโทษคุก 3 ปี! อดีตนายกเทศฯ โพนสวรรค์ ทุจริตจัดซื้อจ้าง,วัสดุงานครัว-พวกโดนคนละ 2)
@จำคุกอดีตนายกเทศมนตีตำบลหนองบัวระเหว
อีกคดีเป็นข่าวเมื่อช่วงเดือน พ.ค. คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลนายธงชัย จำปาแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลหนองบัวระเหว อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ กับพวก โดยทั้งหมดถูก ป.ป.ช.ชี้มูลฐาน ทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการขุดลอกลำห้วยวังเต่า และโครงการก่อสร้างท่อเหลี่ยม (บล็อกคอนเวิร์ส) ลำห้วยกุดอ้อ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาให้
1. นายธงชัย จำปาแก้ว จำเลยที่ 1 ร่วมกับพวกอีกสี่ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.การช่างชัยภูมิ จำเลยที่ 6 มีความผิดตามกฎหมาย
นายธงชัย จำปาแก้ว จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 และ พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 12 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90
ลงโทษจำคุก 5 ปี และปรับ 10,000 บาท
ส่วนจำเลยที่เหลือรวมไปถึงห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.การช่างชัยภูมิ จำเลยที่ 6 มีความผิดตาม มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90
ลงโทษ จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 จำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน และปรับคนละ 65,000 บาท
ลงโทษ จำเลยที่ 6 ปรับ 68,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จำเลยที่ 4 และห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.การช่างชัยภูมิ จำเลยที่ 6 ให้การรับสารภาพ หลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสี่มาตรา 78
คงลงโทษ จำเลยที่ 4 จำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 51,000 บาท
ลงโทษ จำเลยที่ 6 ปรับ 51,000 บาท
สรุปโทษจำคุก จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ให้รอการลงโทษไว้มี กำหนดคนละ 5 ปี
(อ่านประกอบ: ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้! รอลงอาญา อดีตรองนายกเทศฯ หนองบัวระเหว-พวก ทุจริตจัดซื้อจ้าง)
@จำคุกอดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองไข่น้ำ
และอีกคดี คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลนายสมชัย ปล้องพุดชา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กับพวก รมไปถึง บริษัท คิงส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และ นายอุดร ชาภูวงษ์ (กรรมการบริษัทคิงส์ฯ แค่ในนามหรือนอมินี) กรณีทุจริตจัดซื้อรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบอเนกประสงค์ของเทศบาลตำบลหนองไข่น้าปีงบประมาณ 2553 โดยมิชอบ
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายสมชัย ปล้องพุดชา จำเลยที่ 1 พร้อมกับพวกอีก 4 ราย บริษัท คิงส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จำเลยที่ 6 และ นายอุดร ชาภูวงษ์ จำเลยที่ 7 มีความผิดตามกฎหมาย
การกระทำของ นายสมชัย ปล้องพุดชา จำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 12 (พ.ร.บ.ฮั้ว) ประกอบ ป.อ.มาตรา 83 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตาม ป.อ. มาตรา 90
จำคุกนายสมชัย มีกำหนด 5 ปี
ส่วนบริษัท คิงส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จำเลยที่ 6 ลงโทษปรับ 160,000 บาท
2. จำเลยที่ 2 ถึงที่ 7 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามมาตรา 78
คงจำคุก จำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 6 เดือน และปรับจำเลยที่ 2 เป็นเงิน 120,000 บาท
คงจำคุกจำเลยที่ 3 ถึงที่ 5 และที่ 7 คนละ 1 ปี 8 เดือน และปรับจำเลยที่ 3 ถึงที่ 5 คนละ 80,000 บาท
ส่วนจำเลยที่ 6 คงปรับ 80,000 บาท
โทษจำคุก จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ให้รอการลงโทษไว้คนละ 3 ปี และให้คุมประพฤติจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ไว้มีกำหนด คนละ 2 ปี
(อ่านประกอบ: คุก 5 ปี! อดีตเทศฯ หนองไข่น้ำ ซื้อรถบรรทุกน้ำดับเพลิงมิชอบ-กลุ่มคิงส์รอลงอาญา ป.ป.ช.ค้าน)
เห็นได้ชัดว่า ในช่วงนับตั้งแต่เข้าปี 2566 เป็นต้นมา เพียงแค่แปดเดือนมีข่าวศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพิพากษาลงโทษจำเลยที่ถูกกล่าวหาทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างหลายคดี จำเลยมีทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ และเอกชนนับสิบราย ทั้งรอลงอาญาและไม่รอลงอาญาและคาดว่าหลังจากนี้ ก็จะมีข่าวการตัดสินคดีปกปิดการจัดซื้อจัดจ้าง ออกมาให้สาธารณชน ได้เห็นเพิ่มเติมอีก
คดีที่ยกมาเป็นตัวอย่างมีข้อน่าสังเกตหลายประการที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
1. ในทุกคดีถูกตัดสินด้วยความผิดตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือที่เรียกสั้นๆ ตามภาษาชาวบ้านว่า พ.ร.บ.ฮั้วซึ่งระบุว่า
“เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ มีความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท”
2. บางคดีพบว่ามีบริษัทเอกชนถูกพิพากษาว่าสนับสนุนการกระทำผิด อาทิ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.การช่างชัยภูมิ ถูกปรับเป็นเงิน 51,000 บาท และบริษัท คิงส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ถูกปรับเป็นเงิน 160,000 บาท ส่วนกรรมการบริษัทในนามหรือว่านอมินีถูกตัดสินจำคุกโดยไม่รอลงอาญา
อย่างไรก็ตามบทลงโทษปรับเหล่านี้ก็ถือว่า เบามาก โดยเฉพาะในกรณีของบริษัทคิงส์ ดีเวลลอปเมนท์ ที่พบว่านอกเหนือจากในท้องที่ตำบลหนองไข่น้ำ บริษัทนี้ยังได้เคยไปเป็นคู่สัญญาจัดซื้อจัดจ้างในอีก 38 จังหวัด 81 อบต.และเทศบาล ในหลายภาคทั่วประเทศไทย
ยิ่งไปกว่านั้นยังปรากฏข้อมูลว่าในช่วงระหว่างปี 2552 จนถึง2560 บริษัทคิงส์ ดีเวลลอปเมนท์ ยังได้ร่วมมือกับบริษัทที่มีสายสัมพันธ์อีกสามบริษัทได้แก่ บริษัท ชัยมงคล แฟคตอริ่ง จำกัด บริษัท ไทยคาร์ อินดัสทรีส์ จำกัด และ บริษัท รุ่งเจริญ อีควิปเมนท์ แอนด์ทรัค จำกัด เข้าร่วมประกวดราคาแข่งขันงานขายรถบรรทุกชนิดต่างๆ ให้กับหน่วยงานรัฐท้องถิ่น พร้อมกัน จนสามารถทำสัญญาจัดจ้าง 306 สัญญา รวมวงเงิน 791,375,079 บาท (ดูภาพประกอบ)
(อ่านประกอบ: พลิกปูม! คดีซื้อรถดับเพลิง ทต.หนองไข่น้ำ อดีตนายกฯคุก 5 ปี-นายทุนใหญ่กลุ่มคิงส์ รอลงอาญา)
3. ความผิดตามมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.ฮั้ว มีบทลงโทษที่รุนแรงมาก ถึงขั้นติดคุกตลอดชีวิต แต่มีพฤติกรรมทุจริตในด้านการจัดซื้อจัดจ้างอยู่หลายระดับตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เจ้าหน้าที่พัสดุ ฝ่ายเอกชนผู้เป็นคู่สัญญา รวมไปถึงระดับสูงอย่างนายก อบต.และนายกเทศมนตรี ทั้งหมดร่วมกันกระทำผิดเป็นขบวนการ ดังจะเห็นได้ว่าในคำพิพากษามีจำเลยโดนลงโทษหลายราย
หรือสรุปก็คือเป็นข้อบ่งชี้ว่าบทลงโทษที่รุนแรง ไม่อาจทำให้เกิดความเกรงกลัว ไม่กล้ากระทำผิดได้เลย
นี่จึงนำมาซึ่งคำถามสำคัญว่าแล้วจะมีมาตรการป้องกันการกระทำความผิดในอนาคตอย่างไร
@เลขาฯ ป.ป.ช. ยันทั้งหมดเป็นคดีเก่า ปัจจุบันมีแนวทางการแก้ปัญหาแล้ว
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ถึงแนวทางการแก้ปัญหาในอนาคต ในเรื่องความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างว่า กรณีเรื่องการชี้มูลความผิดฐานปกปิดประกาศจัดซื้อจัดจ้างนั้นในปัจจุบันจริงๆ ถือว่าน้อยลงแล้ว เพราะว่ามีการทำในเรื่องของหลักเกณฑ์ชี้วัด และการนำเอาระบบเทคโนโลยีมาตรวจสอบ ทำให้ปกปิดข้อมูลได้ยากขึ้น โดยคดีต่างๆ ที่ปรากฏความคืบหน้าให้เห็นเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นจะเห็นได้เลยว่าเป็นคดีเก่าๆ
“การชี้มูลความผิดฐานปกปิดประกาศจัดซื้อ ผมคิดว่ามันน้อยลงแล้ว หน่วยงานรัฐก็มีเครื่องมืออย่างตัวชี้วัดเข้ามา ระบุว่าหน่วยงานรัฐต้องทำอะไรเพื่อให้ตรงตามหลักเกณฑ์ของความโปร่งใส” นายนิวัติไชยกล่าว
เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า ตอนนี้เรามีสำนักประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสหรือว่า ITA ที่ทำหน้าที่ และเราก็มีหลักการการใช้โอเพ่นดาต้า ที่ระบุว่าการจัดซื้อจัดจ้าง ทุกอย่างจะต้องลงบนเว็บไซต์ ต้องลงรายละเอียดว่าในปีงบประมาณนั้นๆ มีการใช้จ่ายในเรื่องอะไรบ้าง แม้ว่าจะเป็นเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความเฉพาะเจาะจงก็ตาม ซึ่งจริงๆแล้วระบบนี้เราได้เริ่มต้นมานานแล้ว และค่อยๆ มีการพัฒนาเรื่อยไป ในพื้นที่ที่ยังไม่ได้มีการทำเรื่องเหล่านี้เราก็ได้มีเข้าช่วยพัฒนาให้ในเรื่องเหล่านี้เพื่อให้คะแนน ITA มันสูงขึ้น
@ นิวัติไชย เกษมมงคล
“ถ้าหากดูข่าวการชี้มูลของ ป.ป.ช.เกี่ยวกับฐานความผิดในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง คดีใหม่ๆ มันมีหรือไม่ เพราะจะเห็นได้เลยว่าเป็นการชี้มูลในคดีเรื่องเก่าๆ คดีที่ค้างๆ อยู่ที่มันผุดขึ้นมา” เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าว