‘สุชาติ ชมกลิ่น’ แจ้งบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมกับ ป.ป.ช. กรณีพ้นตำแหน่ง สส.ชลบุรี พปชร. ทรัพย์สินกว่า 760 ล้าน ‘ภรรยา’ มีทรัพย์สินเพิ่ม 20 ล้าน ปล่อยเงินให้กู้ยืม บ.อรินสิริแลนด์ฯ 47 ล้าน-สิทธิและสัมปทาน 13 ล้าน แต่ไม่ได้กรอกในหน้าทรัพย์สินหลัก
การแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ครั้งที่ 2 ของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2566
กำลังถูกจับตามองอีกครั้ง!
เมื่อปรากฏข้อมูลว่า น.ส.วิมิลจิต อรินทมะพงษ์ คู่สมรส มีเงินให้กู้ยืมกับบริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือข่ายของภรรยานายสุชาติ ยืนยันยอดภาระหนี้ ณ 6 ม.ค. 2566 จำนวน 47,000,000 บาท
หลังจากก่อนหน้านี้ ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ยื่นต่อสำนักงาน ป.ป.ช. กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสุชาติ แจ้งข้อมูลกรณีการกู้ยืมเงินตั้งแต่ช่วง มิ.ย.-ธ.ค. 2565 รายละ 5 - 15 ล้านบาท จากบุคคลกลุ่มหนึ่ง รวมจำนวน 295,000,000 บาท
- กู้เงินปีเดียว 295 ล.! ทรัพย์สิน 'สุชาติ ชมกลิ่น' อดีต ส.ส.ชลบุรี พปชร. 740 ล.
- แกะรอย! 'สุชาติ ชมกลิ่น' ไฉนกู้เงินปีเดียว 295 ล้าน
- เปิดตัว! 5 นักธุรกิจ 'คนรู้จัก' ผู้ให้ 'สุชาติ ชมกลิ่น' กู้เงินรวม 295 ล้าน
- เปิดหนังสือสัญญา '5 นักธุรกิจ' ให้ 'สุชาติ ชมกลิ่น' กู้เงิน 295 ล.-ใช้พยานคนเดียวกัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายสุชาติ ชมกลิ่น กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2566 โดยการยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งนี้ เป็นการยื่นเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 5 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ช.ได้เคยเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของนายสุชาติมาแล้ว 1 ครั้ง โดยพบว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 740,218,072 บาท และมีหนี้สิน 342,701,583 บาทโดยนายสุชาติ แจ้งมีทรัพย์สิน 123,928,932 บาท ส่วน น.ส.วิมลจิต อรินทมะพงษ์ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สิน 445,238,385 บาท และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 171,050,755 บาท
นอกจากนี้ ยังแจ้งว่า มีหนี้สินทั้งสิ้น 295,000,000 บาท เป็นหนี้สินของนายสุชาติ ซึ่งเกิดจากการกู้ยืมเงินของบุคคล 5 ราย รวมกัน 24 ครั้ง ระหว่าง ส.ค.-ธ.ค. 2565 ได้แก่ นางทิพพา ตันติวณิชย์ นางฉันทนา ชลสายพันธ์ นายวิโรจน์ ชลสายพันธ์ น.ส.อนุกูล สุขสมบูรณ์ นางนันทรัตน์ ธรรมเจริญ และหนี้สินของ น.ส.วิมลจิต 40,839,170 บาท
โดยการยื่นข้อมูลแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รอบใหม่ นี้ ระบุว่า นายสุชาติ และ น.ส.วิมลจิต อรินทมะพงษ์ คู่สมรส รวมถึงบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมี ทรัพย์สินทั้งสิ้น 760,967,135 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 342,701,583 บาท
นายสุชาติ แจ้งมีทรัพย์สิน 123,928,932 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 27,375,294 บาท ทั้งหมด 38 บัญชี เงินลงทุน 1 รายการ 460,165 บาท เป็นกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว
ที่ดิน 17 แปลง 51,940,000 บาท เป็นที่ดินใน จ.ชลบุรี-เพชรบุรี โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 5 รายการ 20,000,000 บาท เป็นบ้าน 4 หลัง และห้องชุด 1 ห้องใน จ.ชลบุรี
ยานพาหนะ 3,900,000 บาท เป็นรถยนต์ 4 คัน ยีห้อ Toyota ทั้งหมด สิทธิและสัมปทาน 7,283,473 บาท เป็นประกันชีวิต
และทรัพย์สินอื่น 12,970,000 บาท อาทิ พระสมเด็จวัดระฆัง กรอบเพชร 8,000,000 บาท พระปกเงินหลวงปู่ทิม กรอบเพชร 700,000 บาท หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว กรอบทอง 250,000 บาท นาฬิกา 2 เรือน ยี่ห้อ Patex Philippe 2,450,000 บาท และอาวุธปืน รวม 12 กระบอก 1,320,000 บาท
อย่างไรก็ดี ในการยื่นเพิ่มเติม นายสุชาติ มีการแจ้งทรัพย์สินอื่นเพิ่มเติม คือ อายุปืนจำนวน 27 กระบอก มูลค่า 2,650,000 บาท แต่ไม่ได้แจ้งในหน้าข้อมูลรายการทรัพย์สินและหนี้สินหลักแต่แจ้งแค่ในเอกสารเพิ่มเติมเท่านั้น
ส่วนหนี้สิน 301,862,412 บาท ประกอบด้วย เป็นเงินเบิกเกินบัญชี 75,636 บาท เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 6,786,776 บาท
และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 24 รายการ เป็นการกู้ยืมเงินตั้งแต่ช่วง มิ.ย.-ธ.ค. 2565 รายละ 5 - 15 ล้านบาท รวมจำนวน 295,000,000 บาท ระบุผู้กู้ให้กู้ยืม 5 ราย ได้แก่ นางทิพพา ตันติวณิชย์ นางฉันทนา ชลสายพันธ์ นายวิโรจน์ ชลสายพันธ์ น.ส.อนุกูล สุขสมบูรณ์ นางนันทรัตน์ ธรรมเจริญ
ส่วน น.ส.วิมลจิต คู่สมรส ในการยื่นเพิ่มเติมแจ้งมีทรัพย์สิน 465,987,447 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 32,452,591 บาท
มีที่ดิน 47 แปลง 337,446,000 บาท เป็นที่ดินใน จ.ชลบุรี-สมุทรปราการ-กรุงเทพฯ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 12 รายการ 72,000,000 บาท เป็นห้องชุด บ้าน ตึกเดี๋ยว ใน จ.ชลบุรี-กรุงเทพฯ
ยานพาหนะ 10,300,000 บาท เป็นรถยนต์ 13 คัน สิทธิและสัมปทาน 7,158,856 บาท เป็นประกันชีวิต สิทธิการเช่าอาคารพักอาศัยรวม 7 ชั้น และสิทธิการเช่าตึกแถว 3 ชั้น
อย่างไรก็ดี ในการยื่นเพิ่มเติม น.ส.วิมลจิต แจ้งมีสิทธิและสัมปทาน 13,227,653 บาท ประกอบด้วย สิทธิที่ได้รับเงินดอกเบี้ย 8,091,493 บาท สิทธิได้รับเงินค่าเช่าสำนักงานค้างจ่าย 4,559,681 บาท สิทธิได้รับเงินค่าเช่าพื้นที่ติดตั้งป้ายค้างจ่าย 286,479 บาท และสิทธิได้รับเงินซื้อขายยานพาหนะ 340,000 บาท
อีกทั้ง น.ส.วิมิลจิต ได้เงินให้กูยืม 47,000,000 บาท ระบุผู้กู้ยืม บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ยืนยันยอดภาระหนี้ ณ 6 ม.ค. 2566 ซึ่งในการยื่นเพิ่มเติมทั้งเงินให้กู้ยืม และสิทธิและสัมปทาน ไม่ได้แจ้งในหน้าข้อมูลรายการทรัพย์สินและหนี้สินหลัก แจ้งแค่ในเอกสารเพิ่มเติมเท่านั้น
และทรัพย์สินอื่น 6,630,000 บาท อาทิ นาฬิกา Patex Phillipe 1 เรือน 320,000 บาท และ นาฬิกา Patex Phillipe ฝังเพชร 1 เรือน 3,500,000 บาท กระเป๋าแบรนด์เนม HERMES 1 ใบ 400,000 บาท ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับ
ส่วนหนี้สิน 40,839,170.66 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี 23,126,923 บาท และเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 17,712,247 บาท
ขณะที่บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของนายสุชาติ แจ้งทรัพย์สิน 171,050,755 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 3,841,722 บาท ทั้งหมด 8 บัญชี เงินลงทุน 1 รายการ 164,175,000 บาท เป็นหุ้นบริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) กว่า 29 ล้านหุ้น และสิทธิและสัมปทาน 3,034,033 บาท เป็นประกันชีวิต
ข้อมูลรายได้ต่อปีและรายจ่ายต่อปี (โดยประมาณ)
นายสุชาติ แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,388,880 บาท เป็นเงินเดือน/ค่าตอบแทน ทั้งหมด ส่วนรายจ่ายต่อปี 1,250,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าเล่าเรียนบุตร เงินบริจาค และภาษีสังคม
ขณะที่ น.ส.วิมลจิต แจ้งมีรายได้ต่อปี 2,612,000 บาท เป็นเงินเดือน/ค่าตอบแทน 2,192,000 บาท และค่าเช่า 420,000 บาท ส่วนรายจ่ายต่อปี 1,200,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว เบี้ยประกัน ค่าเล่าเรียนบุตร เงินบริจาค และภาษีสังคม
นายสุชาติ แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,388,880 บาท
น.ส.วิมลจิต แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 2,612,000 บาท
เปรียบเทียบกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน กรณีแจ้งครั้งแรกหลังพ้นตำแหน่ง กับการแจ้งเพิ่มเติม
เมื่อเปรียบเทียบกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน กรณีแจ้งครั้งแรกภายหลังพ้นจากตำแหน่ง สส. เมื่อ 20 ม.ค. 2566 นายสุชาติ มีทรัพย์สิน 123,928,932 บาท มีหนี้สิน 301,862,412 บาท น.ส.วิมลจิต คู่สมรส มีทรัพย์สิน 445,238,385 บาท มีหนี้สิน 40,839,170 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 171,050,755 บาท ไม่มีหนี้สิน
เท่ากับว่า นายสุชาติ และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินและหนี้สินเท่าเดิม
ส่วน น.ส.วิมลจิต มีทรัพย์สินเพิ่มเติม 20,749,062 บาท โดยทรัพย์สินที่เพิ่มเติมมาเป็นบัญชีเงินฝาก และโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง
อย่างไรก็ดี น.ส.วิมิลจิต มีเงินให้กู้ยืมกับบริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือข่ายของภรรยานายสุชาติ ยืนยันยอดภาระหนี้ ณ 6 ม.ค. 2566 จำนวน 47,000,000 บาท และ แจ้งมีสิทธิและสัมปทาน 13,227,653 บาท ประกอบด้วย สิทธิที่ได้รับเงินดอกเบี้ย 8,091,493 บาท สิทธิได้รับเงินค่าเช่าสำนักงานค้างจ่าย 4,559,681 บาท สิทธิได้รับเงินค่าเช่าพื้นที่ติดตั้งป้ายค้างจ่าย 286,479 บาท และสิทธิได้รับเงินซื้อขายยานพาหนะ 340,000 บาท
นอกจากนี้ นายสุชาติยังแจ้ง มีอาวุธปืน 27 กระบอก 2,650,000 บาท แต่นายสุชาติ และคู่สมรส ไม่ได้แจ้งในหน้าข้อมูลรายการทรัพย์สินและหนี้สินหลัก แต่แจ้งแค่ในเอกสารเพิ่มเติมเท่านั้น
ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลรายละเอียดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่ยื่นต่อ สำนักงาน ป.ป.ช.รอบสอง
โฟกัสในส่วนข้อมูลการกู้ยืมเงิน
การกู้ยืมเงินจาก นักธุรกิจที่รู้จักกัน จำนวน 295,000,000 บาท นายสุชาติ ชี้แจงกรณีนี้เป็นทางการว่า กรณีเงินกู้ 295,000,000 บาท เป็นเงินที่กู้ในช่วง ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งตนทำธุรกิจอยู่ก่อนแล้ว ไปกู้มาเพื่อนำเงินสดมาใช้หมุนเวียนในการทำธุรกิจและซื้อที่ดินโดยเงินกู้นี้ออกมาเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีการต่ออายุสัญญาแบบปีต่อปี หรือที่เรียกว่าการโรลตั๋ว ส่วนคนที่ให้กู้ก็เป็นนักธุรกิจที่รู้จักกัน
ส่วนที่ไม่ไปกู้กับธนาคารนั้น นายสุชาติ ชี้แจงว่า "เพราะการไปกู้เงินกับธนาคารต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่การกู้กับคนรู้จักสามารถใช้เครดิตของผมค้ำประกันได้ ประกอบกับดอกเบี้ยเงินกู้นั้นเท่ากับดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร"
ส่วนการให้กู้ยืมเงินของ น.ส.วิมิลจิต อรินทมะพงษ์ คู่สมรส กับบริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือข่ายของภรรยานายสุชาติ จำนวน 47,000,000 บาท
นายสุชาติ จะมีคำชี้แจงอย่างไร คงต้องรอฟังเป็นทางการอีกครั้ง
ปัจจุบันนายสุชาติ ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยในการเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมา นายสุชาติ ได้เป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ รทสช.
อ่านเพิ่มเติม