"...ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ทำเรื่องติดต่อสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอตรวจสอบข้อมูลเอกสารประกอบการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของ นายสุชาติ เพื่อตรวจสอบข้อมูลหนังสือสัญญาการกู้ยืมเงินจำนวน 295,000,000 บาท เพิ่มเติม พบว่า หนังสือสัญญาการกู้ยืมเงินมีลักษณะเป็นกระดาษขนาด A4 มีจำนวน 3 แผ่น 2 แผ่นแรก เป็นเนื้อหารายละเอียดสัญญา ส่วนแผ่นที่ 3 เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน ...สำหรับรายละเอียดใน หนังสือสัญญาแต่ละฉบับ ระบุข้อความเหมือนกัน กำหนดดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี มีพยานในการทำสัญญาเงินกู้คนเดียวกัน คือ คณิณัช บุญรักษา ..."
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก!
กรณีการกู้ยืมเงินตั้งแต่ช่วง มิ.ย.-ธ.ค. 2565 รายละ 5 - 15 ล้านบาท จากบุคคลกลุ่มหนึ่ง รวมจำนวน 295,000,000 บาท ของนายสุชาติ ที่ปรากฎในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข้อมูลมาเสนอไปแล้วว่า
1. นายสุชาติ ชี้แจงกรณีนี้เป็นทางการว่า กรณีเงินกู้ 295,000,000 บาท เป็นเงินที่กู้ในช่วง ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งตนทำธุรกิจอยู่ก่อนแล้ว ไปกู้มาเพื่อนำเงินสดมาใช้หมุนเวียนในการทำธุรกิจและซื้อที่ดินโดยเงินกู้นี้ออกมาเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีการต่ออายุสัญญาแบบปีต่อปี หรือที่เรียกว่าการโรลตั๋ว
"ส่วนคนที่ให้กู้ก็เป็นนักธุรกิจที่รู้จักกัน"
ส่วนที่ไม่ไปกู้กับธนาคารนั้น นายสุชาติ ชี้แจงว่า "เพราะการไปกู้เงินกับธนาคารต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่การกู้กับคนรู้จักสามารถใช้เครดิตของผมค้ำประกันได้ ประกอบกับดอกเบี้ยเงินกู้นั้นเท่ากับดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร"
2. นักธุรกิจที่รู้จักกัน ที่ให้ นายสุชาติ กู้ยืมเงินรวมจำนวน 295,000,000 บาท นั้น มีจำนวน 5 ราย เรียงลำดับวงเงินมากสุดไปหาน้อยสุด ดังนี้
- นายวิโรจน์ ชลสายพันธ์ จำนวน 9 รายการ รวมวงเงิน 130,000,000 บาท
- นางฉันทนา ชลสายพันธ์ จำนวน 6 รายการ รวมวงเงิน 75,000,000 บาท
- นางทิพพา ต้นติวณิชย์ จำนวน 5 รายการ รวมวงเงิน 40,000,000 บาท
- น.ส.อนุกุล สุสมบูรณ์ จำนวน 2 รายการ รวมวงเงิน 30,000,000 บาท
- นางนันทรัตน์ ธรรมเจริญ จำนวน 2 รายการ รวมวงเงิน 20,000,000 บาท
3. ข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับนักธุรกิจทั้ง 5 ราย มีดังนี้
นายวิโรจน์ ชลสายพันธ์ ปรากฏชื่อเป็น เจ้าของ บริษัท สยามเฟล็กซ์แพ็ค จำกัด ทำธุรกิจโรงงานผลิตถุงกระสอบพลาสติก, ผ้าใบพลาสติก มี นางฉันทนา ชลสายพันธ์ เป็นกรรมการ และร่วมถือหุ้นด้วย
นางทิพพา ต้นติวณิชย์ เป็นนักลงทุนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
นางนันทรัตน์ ธรรมเจริญ ปรากฏชื่อเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตหรือได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 เคยปรากฏข่าวในเว็บไซต์กระทรวงแรงงาน นำแซนด์วิช ข้าวเกรียบ น้ำดื่ม ข้าวเหนียวหมูทอด ข้าวกล่อง และขนมไข่ มาบริจาค รวม 330 ชุด เพื่อให้กระทรวงแรงงานนำไปส่งมอบให้แก่ผู้ใช้แรงงานช่วยเหลือตามมาตรการปิดแคมป์คนงานป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยนายสุชาติ มอบหมายให้ นางสาวทิพวรรณ ธงศรี ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 10 เป็นผู้รับแทน
น.ส.อนุกุล สุสมบูรณ์ ยังไม่พบข้อมูลมากนัก
- กู้เงินปีเดียว 295 ล.! ทรัพย์สิน 'สุชาติ ชมกลิ่น' อดีต ส.ส.ชลบุรี พปชร. 740 ล.
- แกะรอย! 'สุชาติ ชมกลิ่น' ไฉนกู้เงินปีเดียว 295 ล้าน
- เปิดตัว! 5 นักธุรกิจ 'คนรู้จัก' ผู้ให้ 'สุชาติ ชมกลิ่น' กู้เงินรวม 295 ล้าน
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอตรวจสอบข้อมูลเอกสารประกอบการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของ นายสุชาติ เพื่อตรวจสอบข้อมูลหนังสือสัญญาการกู้ยืมเงินจำนวน 295,000,000 บาท เพิ่มเติม
พบว่า หนังสือสัญญาการกู้ยืมเงินมีลักษณะเป็นกระดาษขนาด A4 มีจำนวน 3 แผ่น 2 แผ่นแรก เป็นเนื้อหารายละเอียดสัญญา ส่วนแผ่นที่ 3 เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบข้อมูลในแฟ้มเอกสาร พบว่า มีหนังสือสัญญาเงินกู้ยืมทั้งหมด 18 ฉบับ มูลค่ารวม 230 ล้านบาท จากที่นายสุชาติแจ้งไว้ว่า มี จำนวน 24 สัญญา มูลค่ารวม 295 ล้านบาท ขาดเอกสารรายการที่ 12 , รายการที่ 18 , รายการที่ 19-24 ยังไม่พบในแฟ้มเอกสารที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมในรายงานเรื่อง แกะรอย! 'สุชาติ ชมกลิ่น' ไฉนกู้เงินปีเดียว 295 ล้าน)
สำหรับรายละเอียดในหนังสือสัญญาแต่ละฉบับ ระบุข้อความเหมือนกัน กำหนดดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี มีพยานในการทำสัญญาเงินกู้คนเดียวกัน คือ คณิณัช บุญรักษา
โดยรายละเอียดในหนังสือสัญญากู้ยืม ปรากฎดังตัวอย่างสัญญายอดกู้เงินจำนวนมากที่สุด 40 ล้านบาท กับ นายวิโรจน์ ชลสายพันธ์ ดังนี้
*************
ทำที่ ... หมู่ 3 ต.บ้านปึก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี
วันที่ 3 ส.ค. 2565
สัญญานี้ทำขึ้นระหว่าง นายสุชาติ ชมกลิ่น บัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ xxxx อยู่บ้านเลขที่ xxxx หมู่ที่ 3 ต.บ้านปึก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี 20130 ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญานี้จะเรียกว่า ‘ผู้กู้’
ฝ่ายหนึ่งกับ นายวิโรจน์ ชลสายพันธ์ บัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ xxxx หมู่บ้านเลขที่ xxxx หมู่ที่ 1 ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา 30000 ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า ‘ผู้ให้กู้’ อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1. จำนวนเงินที่กู้
ผู้กู้ได้ยืมเงินจากผู้กู้เป็นจำนวน 40,000,000 บาท (สี่สิบล้านบาทถ้วน) โดยผู้กู้ได้รับเงินจากผู้ให้กู้ครบถ้วนแล้วในวันทำสัญญานี้
ในการผู้ยืมดังกล่าวตามวรรคแรก ผู้กู้ได้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่ผู้ให้กู้ คือ
ตั๋วสัญญาใช้เงิน เลขที่ Suchart_007/2565 จำนวน 40,000,000 บาท (สี่สิบล้านบาทถ้วน) ถึงกำหนดใช้เงินวันที่ 3 ส.ค. 2566
โดยผู้กู้สัญญาว่า เมื่อตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวถึงกำหนดใช้เงิน ผู้ให้กู้สามารถนำไปเรียกเก็บเงินจากผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินทันที หากผู้กู้ผิดนัดโดยผู้ให้กู้ไม่ยินยอม ผู้กู้ยินยอมชำระค่าเบี้ยปรับร้อยละ 15 (สิบห้า) ต่อปี จนกว่าจะชำระเงินกู้ครบถ้วน
ข้อ 2 อัตราดอกเบี้ย
ผู้กู้ตกลงที่จะชำระดอกเบี้ยแก่ผู้ให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 (แปด) ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาฉบับนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น
ข้อ 3 การชำระดอกเบี้ยและเงินต้น
3.1 ผู้กู้ตกลงชำระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้ให้กู้เป็นราย 3 (สาม) เดือน โดยชำระเป็นเช็คธนาคารสั่งจ่ายล่วงหน้าจำนวน 4 ฉบับ คือเช็คของธนาคารกสิกรไทย สาขา เซนทรัล บางนา สั่งจ่ายโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.เช็คเลขที่ 59937206 ลงวันที่ 3 พ.ย. 2565 จำนวน 800,000 บาท
2.เช็คเลขที่ 59937207 ลงวันที่ 3 ก.พ. 2566 จำนวน 800,000 บาท
3.เช็คเลขที่ 59937208 ลงวันที่ 3 พ.ค. 2566 จำนวน 800,000 บาท
4.เช็คเลขที่ 59937209 ลงวันที่ 3 ส.ค. 2566 จำนวน 800,000 บาท
3.2 ผู้กู้ตกลงจะชำระเงินต้นทั้งหมดคืนให้แก่ผู้กู้ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญานี้ โดยมีกำหนดชำระเงินต้นในวันที่ 3 ส.ค. 2566 โดยชำระเป็นเช็คธนาคารสั่งจ่ายล่วงหน้า จำนวน 1 ฉบับ คือ เช็คของธนาคารกสิกรไทย สาขา เซ็นทรัล บางนา เลขที่ 59937210 ลงวันที่ 3 ส.ค. 2566 จำนวนเงิน 40,000,000 บาท (สี่สิบล้านบาทถ้วน) สั่งจ่ายโดยสุชาติ ชมกลิ่น
3.3 ผู้ให้กู้ได้รับมอบเช็คตามข้อ 3.1 และ 3.2 จากผู้ให้กู้ไปแล้วในวันทำสัญญานี้
ข้อ 4. เมื่อผู้กู้ได้ชำระคืนเงินกู้ตามสัญญานี้ให้แก่ผู้ให้กู้ครบถ้วนแล้ว ผู้ให้กู้จะเวนคืนสัญญากู้ยืมเงินฉบับนี้ และตั๋วสัญญาใช้เงินตาม ข้อ 1.คืนให้แก่ผู้กู้ทันที
ข้อ 5.หากผู้กู้ปฏิบัติตนผิดนัดผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่งแล้ว ผู้ให้กู้สามารถบอกเลิกสัญญาและทำการเรียกเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยคืนได้ทันทีโดยผู้กู้จะไม่โต้แย้ง หรือคัดค้านใด ๆ ทั้งสิ้น
สัญญานี้ได้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตามกันให้คู่สัญญายึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ และเห็นว่าข้อความในสัญญาถูกต้องตรงกันแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน
ลงชื่อ สุชาติ ชมกลิ่น ผู้กู้
ลงชื่อ นายวิโรจน์ ชลสายพันธ์ ผู้ให้กู้
ลงชื่อ น.ส.คณิณิช บุญรักษา พยาน
*************
@ สุชาติ ชมกลิ่น
สำหรับนรายละเอียดตั๋วสัญญาใช้เงิน ระบุดังนี้
*************
สถานที่ออกตั๋ว หมู่ที่ 3 ต.บ้านปึก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี
เลขที่ Suchart_007/2565 วันที่ออกตั๋ว 3 ส.ค. 2565
ข้าพเจ้า นายสุชาติ ชมกลิ่น
สัญญาจะใช้เงินจำนวน 40,000,000 บาท (สี่สิบล้านบาทถ้วน)
ให้แก่ นายวิโรจน์ ชลสายพันธ์
ในวันที่ 3 ส.ค. 2566 พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา ร้อยละ 8.00 ต่อปี
ณ ที่อยู่ หมู่ที่ 3 ต.บ้านปึก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี
ลงลายมือชื่อ สุชาติ ชมกลิ่น ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
*************
อนึ่ง สำหรับข้อมูลเอกสารประกอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นั้น ป.ป.ช. ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพเอกสารออกมาได้ จึงสามารถนำเสนอข้อมูลตัวอักษรได้เพียงอย่างเดียว
ในส่วนข้อมูลเกี่ยวกับ นายวิโรจน์ ชลสายพันธ์ นั้น ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อไปยัง บริษัท สยาม เฟล็กซ์ แพ็ค จำกัด เพื่อขอสัมภาษณ์นายวิโรจน์ เป็นทางการแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่บริษัทฯ แจ้งว่า นายวิโรจน์ไม่ได้เข้าออฟฟิศ ส่วนประเด็นที่ผู้สื่อข่าวต้องการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการให้เงินกู้นายสุชาติ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะขอให้แจ้งให้นายวิโรจน์ทราบก่อน แล้วจะโทรกลับมาบอกว่าจะให้สัมภาษณ์ได้หรือไม่
ปัจจุบัน ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ จาก นายวิโรจน์ จึงทำให้ยังไม่ได้รับทราบคำชี้แจงรายละเอียดอีกด้าน จากฝั่งผู้ให้กู้เงินยืม แก่นายสุชาติ เพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี กรณีการกู้ยืมเงิน 295 ล้านบาท ของนายสุชาติ ที่ผ่านมา ยังไม่ปรากฏข่าวว่ามีความไม่โปร่งใสแต่อย่างใด
ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เป็นผู้บริสุทธิ์