ผ่ามติ ป.ป.ช. ตีตกคดีจ้างซ่อมผิวทางฯ อบต.ร่อนทอง เอาผิดคนไม่ได้ แต่เจอช่องโหว่ทุจริต

"...ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ได้มีการให้แจ้งข้อสังเกตไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ว่า การที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้มีประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์การซื้อหรือการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ลงวันที่ 30 กันยายน 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 6 (5) กำหนดให้ ผู้ค้าจะเสนอราคาที่ใดก็ได้ ยกเว้นสำนักงานของตลาดกลาง นั้น อาจเกิดปัญหาในการควบคุมการเคาะราคาของผู้ค้า ซึ่งอาจเป็นการเปิดโอกาสหรือช่องทางที่จะนำไปสู่การกระทำการทุจริตได้..."

กรณี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตีตก ข้อกล่าวหา นายสมจิต พรมศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก ทุจริตการประมูลจ้างโครงการซ่อมสร้างผิวทาง CAPE SEAL ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ปีงบประมาณ 2558 จำนวน 2 โครงการ เนื่องจากเห็นว่า ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า ในการพิจารณารายงานการไต่สวนเบื้องต้นคดีนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรก 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่าไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายสมจิต พรมศรี และพวก กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป 

แต่กรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างน้อย 1 เสียง เห็นว่า นายสมจิต พรมศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ และนายสนอง สุดชนะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง 

ก่อนจะมีการสรุปผลการลงคะแนนเสียงตามความเห็นกรรมการ ป.ป.ช. ฝ่ายเสียงข้างมาก จำนวน 5 เสียง ซึ่งเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด เห็นว่า  นายสมจิต พรมศรี และพวก ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป 

• ไม่เอกฉันท์! ป.ป.ช.ตีตกข้อกล่าวหา อดีตนายก อบต.ร่อนทอง-พวก ทุจริตประมูลจ้างซ่อมผิวทางฯ

เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ตีตกข้อกล่าวหาคดีนี้มากขึ้น 

สำนักข่าวอิศรา นำรายละเอียดการวินิจฉัยคดีนี้ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มานำเสนอเป็นทางการ ณ ที่นี้ 

@ ข้อกล่าวหา 

ข้อกล่าวหาในคดี คือ นายสมจิต พรมศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก ทุจริตการประมูลจ้างโครงการซ่อมสร้างผิวทาง CAPE SEAL ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ปีงบประมาณ 2558 จำนวน 2 โครงการ

@ รายชื่อผู้ถูกกล่าวหา 

1. นายสมจิต พรมศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1
2. นายสนอง สุดชนะ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2
3. นายมงคล อุปจันทร์ หัวหน้าสำนักปลัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3
4. นางวัชราภรณ์ ตองติดรัมย์ หัวหน้าส่วนสวัสดิการและสังคม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4
5. นางมะลิวัลย์ สืบเพ็ง นักพัฒนาชุมชน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5
6. นายชัยโรจน์ นันต์จารุวงศ์ หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์ธนาก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6
7. ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์ธนาก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7
8. นางสาวศศิภา ศรีตะวัน หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด ศักดิ์รุ่งเรืองกิจก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8
9. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศักดิ์รุ่งเรืองกิจก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9
10. นายเดชา ปิยะพุทธิชัย หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีรัมย์พัฒนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10
11. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีรัมย์พัฒนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11
12. นางสาวสิรีธร หรือบุญญภัทร ชัยกิจยิ่งเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ยิ่งเจริญก่อสร้างบุรีรัมย์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12
13. บริษัท ยิ่งเจริญก่อสร้างบุรีรัมย์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13
14. นายภัทรศักดิ์ แป้นทอง หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด ปาริภัทร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14
15. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปาริภัทร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 15
16. นายดนัย นพสุวรรณวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สุชาติบุรีรัมย์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 16
17. บริษัท สุชาติบุรีรัมย์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 17
18. นายไพโรจน์ เชียงโกมลคีต หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริโกมลก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 18
19. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริโกมลก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 19
20. นายธนบดี กีรติพงศ์พิศาล หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด สตึกวราดนย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 20
21. ห้างหุ้นส่วนจำกัด สตึกวราดนย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 21
22. นายศรากรณ์ จ่าภา หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์สุวิชชา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 22
23. ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์สุวิชชา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 23

@ พฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิด โดยสรุปมีดังนี้ 

เมื่อปีงบประมาณ 2558 องค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง ดำเนินการประกาศประมูลจ้างโครงการซ่อมสร้างผิวทาง CAPE SEAL แยกทางหลวงหมายเลข 219 - บ้านโนนเกตุ กว้าง 6 เมตร ยาว 4 กิโลเมตร ไหล่ทางข้างละ 1.50 เมตร จำนวนเงินงบประมาณ 2,400,000 บาท และโครงการซ่อมสร้างผิวทาง CAPE SEAL สายบ้านกระทุ่ม - บ้านโนนเกตุ กว้าง 6 เมตร ยาว 1.516 กิโลเมตร จำนวนเงินงบประมาณ 912,000 บาท ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-AUCTION)

โดยกำหนดระยะเวลาขายเอกสารประมูล ไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์การซื้อและการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 13 และตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม มีเจตนาให้ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้ชนะการเสนอราคา

@ ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ทางไต่สวนได้ความว่า องค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง ได้ประกาศประมูลจ้างกำหนดให้มีการซื้อเอกสารการประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 17 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึงเวลา 16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งมีวันหยุดราชการรวมอยู่ด้วย จำนวน 3 วัน คือ วันที่ 18 วันที่ 19 และวันที่ 23 ตุลาคม 2557 ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ให้มาปฏิบัติหน้าที่ในการขายเอกสารประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ในวันหยุดราชการด้วย โดยไม่ได้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์การซื้อและการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 13 มกราคม 2548 ข้อ 13 ซึ่งกำหนดให้ต้องมีระยะเวลาในการขายเอกสารการประมูลไม่น้อยกว่า 7 วันทำการ และในการประมูลยังพบว่ามีผู้ค้าที่เข้าร่วมการเสนอราคาได้ใช้ IP Address สำหรับเครือข่าย (Network Address) เดียวกันในการเข้าเสนอราคา

ซึ่งกรณีเรื่องวันทำการนั้น พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นปัญหาเรื่องการตีความคำว่า "วันทำการ" ว่าหมายความรวมถึงวันหยุดราชการที่มีเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติราชการได้หรือไม่ เท่านั้น

ทางไต่สวนเบื้องต้นยังพบว่ามีการเดินทางไปขอคำปรึกษาด้วยวาจาที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบกับกรใส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มีหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ มท 0810.3/ว 1659 ลงวันที่ 23 กันยายน 2557 เรื่อง เร่งรัดการบริหารงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 โดยกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการให้องค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทองดำเนินการประกวดราคาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งหากไม่กำหนดเวลาขายแบบให้รวมวันหยุดราชการด้วย จะดำเนินการไม่ทันตามหนั่งสือสั่งการดังกล่าว

จึงเห็นว่าไม่มีเจตนาจงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ เพียงแต่เป็นการพิจารณาตีความการบังคับใช้กฏหมายที่คลาดเคลื่อนและพยายามดำเนินการจัดจ้างให้ทันตามกำหนดเวลาเร่งรัดจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เท่านั้น ส่วนกรณีผู้ค้าบางรายที่เสนอราคาได้ใช้หมายเลข IP เดียวกัน และเสนอราคา ณ สถานที่อื่นที่ไม่ใช่สำนักงานของตลาดกลาง นั้น ตามทางไต่สวนเบื้องต้นพบว่าเป็น IP Address สำหรับเครือข่าย (Network Address) โดยการเข้าประมูลในสถานที่อื่นที่ไม่ใช่สำนักงานของตลาดกลาง เป็นไปตามประกาศกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เรื่อง หลักเกณฑ์การซื้อหรือการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 30 กันยายน 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว

เห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป

@ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณารายงานการไต่สวนเบื้องต้นแล้ว มีมติเป็นสองฝ่าย ดังนี้

ฝ่ายเสียงข้างมาก

ประกอบด้วย กรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่านายสมจิต พรมศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นายสนอง สุดชนะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายมงคล อุปจันทร์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นางวัชราภรณ์ ตองติดรัมย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นางมะลิวัลย์ สืบเพ็ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 นายชัยโรจน์ นันต์จารุวงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์ธนาก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 นางสาวศศิภา ศรีตะวัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศักดิ์รุ่งเรืองกิจก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 นายเดชา ปิยะพุทธิชัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีรัมย์พัฒนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11 นางสาวสิรีธร หรือบุญญภัทร ชัยกิจยิ่งเจริญ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12 บริษัท ยิ่งเจริญก่อสร้างบุรีรัมย์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13 นายภัทรศักดิ์ แป้นทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปาริภัทร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 15 นายดนัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 บริษัท สุชาติบุรีรัมย์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 17 นายไพโรจน์ เชียงโกมลคีต ผู้ถูกกล่าวหาที่ 18 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริโกมลก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 19 นายธนบดี กีรติพงศ์พิศาล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 20 ห้างหุ้นส่วนจำกัด สตึกวราดนย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 21 นายศรากรณ์ จ่าภา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 22 และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์สุวิชชา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 23 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

ฝ่ายเสียงข้างน้อย

กรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 1 เสียง เห็นว่าจากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายสมจิต พรมศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และนายสนอง สุดชนะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้กระทำความผิดทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาในทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

แต่การที่นายสมจิต พรมศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารราชการขององค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทองให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการ และนายสนอง สุดชนะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ในฐานะปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง และได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ ตามคำสั่งองค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง ที่ 370/2557 ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2557

มีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมดูแลการจัดซื้อจัดจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลร่อนทอง ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการ

แต่กลับประกาศประมูลจ้างโครงการทั้งสองโครงการที่มีการกล่าวหา โดยกำหนดระยะเวลาให้ซื้อเอกสารประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 17 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2557 ไม่เว้นวันหยุดราชการ

อันเป็นการไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์การซื้อและการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 13 มกราคม 2548 ข้อ 13 ที่กำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่เริ่มประกาศเชิญชวน จนถึงให้หรือขายเอกสารการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์จะต้องมีระยะเวลาไม่น้อยกว่าเจ็ดวันทำการ

ดังนั้น การกระทำของนายสมจิต พรมศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 จึงมีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ และนายสนอง สุดชนะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง

ส่วนการกระทำของนายมงคล อุปจันทร์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นางวัชราภรณ์ ตองติดรัมย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นางมะลิวัลย์ สืบเพ็ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 นายชัยโรจน์ นันต์จารุวงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์ธนาก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 นางสาวศศิภา ศรีตะวัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศักดิ์รุ่งเรืองกิจก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 นายเดชา ปิยะพุทธิชัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีรัมย์พัฒนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11 นางสาวสิรีธร หรือบุญญภัทร ชัยกิจยิ่งเจริญ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12 บริษัท ยิ่งเจริญก่อสร้างบุรีรัมย์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13 นายภัทรศักดิ์ แป้นทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปาริภัทร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 15 นายดนัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 บริษัท สุชาติบุรีรัมย์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 17 นายไพโรจน์ เชียงโกมลคีต ผู้ถูกกล่าวหาที่ 18 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริโกมลก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 19 นายธนบดี กีรติพงศ์พิศาล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 20 ห้างหุ้นส่วนจำกัด สตึกวราดนย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 21 นายศรากรณ์ จ่าภา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 22 และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์สุวิชชา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 23 จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

จึงสรุปว่า ผลการลงคะแนนเสียงเพื่อมีมติของที่ประชุมในเรื่องนี้ ต้องถือตามความเห็นของกรรมการ ป.ป.ช. ฝ่ายเสียงข้างมาก จำนวน 5 เสียง ซึ่งเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ที่เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่าจากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่านายสมจิต พรมศรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นายสนอง สุดชนะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายมงคล อุปจันทร์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นางวัชราภรณ์ ตองติดรัมย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นางมะลิวัลย์ สืบเพ็ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 นายชัยโรจน์ นันต์จารุวงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์ธนาก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 นางสาวศศิภา ศรีตะวัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศักดิ์รุ่งเรืองกิจก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 นายเดชา ปิยะพุทธิชัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีรัมย์พัฒนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11 นางสาวสิรีธร หรือบุญญภัทร ชัยกิจยิ่งเจริญ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12 บริษัท ยิ่งเจริญก่อสร้างบุรีรัมย์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13 นายภัทรศักดิ์ แป้นทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปาริภัทร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 15 นายดนัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 บริษัท สุชาติบุรีรัมย์ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 17 นายไพโรจน์ เชียงโกมลคีต ผู้ถูกกล่าวหาที่ 18 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริโกมลก่อสร้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 19 นายธนบดี กีรติพงศ์พิศาล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 20 ห้างหุ้นส่วนจำกัด สตึกวราดนย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 21 นายศรากรณ์ จ่าภา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 22 และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์สุวิชชา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 23 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

อย่างไรก็ดี ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ได้มีการให้แจ้งข้อสังเกตไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ว่า การที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้มีประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์การซื้อหรือการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ลงวันที่ 30 กันยายน 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 6 (5) กำหนดให้ ผู้ค้าจะเสนอราคาที่ใดก็ได้ ยกเว้นสำนักงานของตลาดกลาง นั้น

อาจเกิดปัญหาในการควบคุมการเคาะราคาของผู้ค้า ซึ่งอาจเป็นการเปิดโอกาสหรือช่องทางที่จะนำไปสู่การกระทำการทุจริตได้

**************

ทั้งหมดนี้เป็น รายละเอียดมติ ป.ป.ช. ตีตก ข้อกล่าวหา นายสมจิต พรมศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก ทุจริตการประมูลจ้างโครงการซ่อมสร้างผิวทาง CAPE SEAL ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ปีงบประมาณ 2558 จำนวน 2 โครงการ ตามที่สำนักข่าวอิศรา นำเสนอไปแล้ว 

แม้ ป.ป.ช.จะตีตกข้อกล่าวหาคดีนี้ ไม่สามารถเอาผิดใครได้

แต่จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ทำให้พบช่องโหว่ สำคัญ เกี่ยวกับประกาศกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่มีผลต่อการเคาะราคาของผู้ค้า ซึ่งอาจเป็นการเปิดโอกาสหรือช่องทางที่จะนำไปสู่การกระทำการทุจริต

ที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบ ควรจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขโดยเร็ว