"...ผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของอะกุสเตียร์ เจ้าของที่ดินโครงการ Az Zhara นั้น พบเอกสารแจ้งเงินโอนเข้า และข้อความรหัส SWIFT ยืนยันว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2551 อะกุสเตียร์ เจ้าของที่ดินโครงการ Az Zhara มีการโอนเงินจากบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี อะกุสเตียร์ ไปยังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี สุภาพสตรีรายนี้ด้วย จำนวน 999,840.63 เหรียญสหรัฐ โดยเงินจำนวนนี้ อะกุสเตียร์ ระบุว่า เป็นการเงินโอนเพื่อการลงทุน..."
"ข้อมูลส่วนนี้ ยังไม่จบ ยังมีกรณีการตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงิน ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องการซื้อขายที่ดิน ที่มาความเชื่อมโยงไปถึง สุภาพสตรีรายที่ อดีตผู้บริหารระดับสูง ปตท.รายนี้ ระบุว่า เป็นผู้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจในอินโดนีเซียด้วย"
"และเป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้ อดีตผู้บริหารระดับสูง ปตท.รายนี้ ถูกเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อตั้งไต่สวนคดีนี้เป็นทางการ"
คือ ข้อมูลสำคัญที่ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ทิ้งท้ายไว้ ในรายงานพิเศษ "เจาะลึกพฤติการณ์ 'อดีตบิ๊กปตท.'คีย์แมนคดีปาล์มอินโดฯ กับเส้นทางเงินลับ สุภาพสตรี ปริศนา?" ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึก กรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ได้มีมติให้ตั้งไต่สวนอดีตผู้บริหารระดับสูงบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในคดีบริษัท พีทีที.กรีนเอเนอร์ยี่ฯ หรือ PTT.GE. บริษัทลูกของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถูกกล่าวหาว่า ลงทุนปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่พบความไม่ชอบมาพากลในการลงทุน และมีการจ่ายค่านายหน้าแพงเกินจริงกว่า 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
ในประเด็นสำคัญ กรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบพบข้อมูลว่า อดีตผู้บริหารระดับสูง ปตท.รายนี้ มีการยินยอมให้บุคคลภายนอกที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ปตท.ร่วมเดินทางไปงานเปิดสำนักงานบริษัท PTTGE ประเทศ อินโดนีเซีย และเดินทางไปดูโครงการปลูกปาล์มหลายครั้ง โดย ปตท. เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด
ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. พบว่า บุคคลภายนอก 1 - 2 ราย ที่รวมเดินทางไปดูโครงการปลูกปาล์มดังกล่าว ปรากฏชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินส่วนต่างที่เกิดจากการขายหุ้นสิทธิในที่ดินโครงการ PT.KPI ด้วย
ซึ่งมีข้อมูลบางส่วน เชื่อมโยงไปถึง สุภาพสตรีรายหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวอินโดนีเซีย สามารถพูดภาษาไทยได้ น่าจะรู้จักข้าราชการของอินโดนีเซีย และช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจในอินโดนีเซียด้วย และเป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้ อดีตผู้บริหารระดับสูง ปตท.รายนี้ ถูกเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อตั้งไต่สวนคดีนี้เป็นทางการ
- เสนอครั้งที่ 5 ! ป.ป.ช.ให้ตั้งไต่สวน อดีตบิ๊ก ปตท. คีย์แมนคดีปาล์มอินโดฯ แล้ว (1)
- เอี่ยวเสนอวาระลับลงทุน! เบื้องลึก ป.ป.ช.ตั้งไต่สวน 'อดีตบิ๊กปตท.' คีย์แมนคดีปาล์มอินโดฯ (2)
- เจาะลึกพฤติการณ์ 'อดีตบิ๊กปตท.'คีย์แมนคดีปาล์มอินโดฯ กับเส้นทางเงินลับ สุภาพสตรี ปริศนา? (3)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลเพิ่มเติมว่า สุภาพสตรีรายนี้ นับเป็นตัวละครสำคัญในคดีนี้อย่างมาก เนื่องจากในการตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้เกี่ยวข้องโครงการฯ นี้ ในต่างประเทศ
พบว่า มีเงินจากเจ้าของที่ดินโครงการปลูกปาล์มโอนเข้าไปยังบัญชีของ สุภาพสตรีรายนี้ จำนวนเกือบ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย กว่า 34.4 ล้านบาท (ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน 34.50 บาท)
ข้อมูลเท็จจริงเรื่องนี้ ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อ ป.ป.ช.ทำเรื่องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในทางอาญาจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ เกี่ยวกับการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของ อะกุสเตียร์ เจ้าของที่ดินโครงการ Az Zhara และบูฮานนุดดิน เจ้าของโครงการ KP ตามพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535
ผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของอะกุสเตียร์ เจ้าของที่ดินโครงการ Az Zhara นั้น
พบเอกสารแจ้งเงินโอนเข้า และข้อความรหัส SWIFT ยืนยันว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2551 อะกุสเตียร์ เจ้าของที่ดินโครงการ Az Zhara มีการโอนเงินจากบัญชี ธนาคาร ชื่อบัญชี อะกุสเตียร์ ไปยังบัญชีธนาคารชื่อบัญชี สุภาพสตรีรายนี้ด้วย จำนวน 999,840.63 เหรียญสหรัฐ
โดยเงินจำนวนนี้ อะกุสเตียร์ ระบุว่า เป็นการเงินโอนเพื่อการลงทุน
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับข้อมูล สุภาพสตรีรายนี้ ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ในการเชิญตัวอดีตผู้บริหารระดับสูง ปตท.รายนี้ มาให้ถ้อยคำ ประกอบการสอบสวนคดีของ ป.ป.ช.
อดีตผู้บริหารระดับสูง ปตท.รายนี้ ยืนยัน ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับสุภาพสตรีรายนี้ ซึ่งเป็นชาวอินโดนีเซีย สามารถพูดภาษาไทยได้ น่าจะรู้จักข้าราชการของอินโดนีเซีย และช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจในอินโดนีเซียได้
อดีตผู้บริหารระดับสูง ปตท.รายนี้ ยังยอมรับว่า เคยร่วมเดินทางไปสำรวจพื้นที่ปลูกปาล์มที่ประเทศอินโดนีเซียกับ สุภาพสตรีรายนี้ด้วย
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า สุภาพสตรีรายนี้ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศไทย
ส่วนเหตุผลที่ อดีตผู้บริหารระดับสูง ปตท.รายนี้ ระบุว่า น่าจะรู้จักข้าราชการของอินโดนีเซีย และช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจในอินโดนีเซียได้
เป็นเพราะ สุภาพสตรีรายนี้ มีสถานะเป็นถึงลูกสาวข้าราชการระดับสูงใน อินโดนีเซีย ด้วย
ส่วนเงินลงทุนจำนวน 999,840.63 เหรียญสหรัฐดังกล่าว จะเกี่ยวข่องกับโครงการปลูกปาล์ม ของ ปตท. หรือไม่?
สุภาพสตรีรายนี้ นำเงินไปใช้ลงทุนต่อในเรื่องอะไร? หรือส่งต่อให้ใคร?
ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลเป็นทางการในขณะนี้
อย่างไรก็ดี ข้อมูลการตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้เกี่ยวข้องโครงการฯ นี้ ในต่างประเทศ ของ ป.ป.ช.ยังไม่จบ
ยังมีข้อมูลในส่วนการตรวจสอบเอกสารรายการเดินบัญชีของ บูฮานนุดดิน เจ้าของโครงการ KP ที่พบว่ามีการโอนเงิน ไปยังบุคคล และนิติบุคคลในต่างประเทศอีกหลายล้าน เหรียญสหรัฐด้วย
รายละเอียดเป็นอย่างไร โปรดติดตามต่อไป เช่นเดิม