"...คนใกล้ชิด ‘นายใหญ่’ ยืนยันว่า แผนกลับไทยของเจ้าตัวมีจริง และในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมาถึงกับเตรียมเดินทางกลับไทยแล้วด้วยซ้ำ แต่ถูกบรรดา ‘คนสนิท-ที่ปรึกษาใกล้ชิด’ เบรกไว้ก่อน ด้วยสถานการณ์หลายอย่างยังไม่เอื้ออำนวย ทำให้ต้องพับแผนไป..."
เป็นอีกครั้งที่ ‘โทนี่ วู้ดซัม’ หรือ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย
ประกาศกลางไลฟ์สดว่า พร้อมจะกลับประเทศไทยเพื่อดูแลหลาน
หลังจาก ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ‘ตั้งท้อง’ ลูกคนที่ 2 มีศักดิ์เป็นหลานคนที่ 7 ของครอบครัวนี้
@ ‘โทนี่ วู้ดซัม’ หรือ ‘ทักษิณ ชินวัตร’
แม้ว่าเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ‘ทักษิณ’ ประกาศหลายครั้งว่าจะกลับไทยแน่ในปีดังกล่าว แต่ท้ายที่สุด ตอนนี้เข้าสู่ปี 2566 มาเกือบครบเดือนแรกแล้ว ยังไม่เห็นแม้แต่ ‘เงา’ ของเจ้าตัว
บางคนสบประมาท ขบขันกับคำพูดของ ‘ทักษิณ’
แต่คนใกล้ชิด ‘นายใหญ่’ ยืนยันว่า แผนกลับไทยของเจ้าตัวมีจริง และในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมาถึงกับเตรียมเดินทางกลับไทยแล้วด้วยซ้ำ แต่ถูกบรรดา ‘คนสนิท-ที่ปรึกษาใกล้ชิด’ เบรกไว้ก่อน ด้วยสถานการณ์หลายอย่างยังไม่เอื้ออำนวย
ทำให้ต้องพับแผนไป
นอกจากนี้ยังมีปัญหาสุขภาพรุมเร้า ตามที่ ‘โทนี่ วู้ดซัม’ เล่าในไลฟ์สดอ้างว่า “พยายามอย่างยิ่ง ไปทำออกซิเจนร่างกายให้เสร็จก่อนเวลาเพื่อให้กลับเมืองไทยทัน แต่ลูกเขาห่วงใยเรื่องความปลอดภัยก็ยังไม่ได้กลับ”
อย่างไรก็ดี ว่ากันว่าในช่วงปี 2566 นี้มี ‘ฤกษ์งามยามดี’ ที่ ‘ทักษิณ’ หมายมั่นปั้นมือวางแผนเตรียมกลับไทยอีกครั้ง โดยอยู่ระหว่างเลือกว่าจะเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้งไม่กี่วัน หรือไม่ก็หลังการเลือกตั้ง
เพราะเชื่อมั่นว่า ‘เพื่อไทย’ แลนด์สไลด์ ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 100 %
ท่ามกลางกระแส ‘ลับ ลวง พราง’ ดีลพิเศษกับ ‘คีย์แมนป่ารอยต่อ’ ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ดัน ‘พี่ใหญ่’ นั่งนายกฯ แลกกับ ‘ทักษิณ’ ได้กลับบ้านเลี้ยงหลาน
แต่บรรดาคนในครอบครัว-คนใกล้ชิด บอกว่า สถานการณ์ในตอนนี้อย่าเพิ่งกลับไทยจะดีกว่า รอให้อะไร ‘สุกงอม’ ก่อน ค่อยกลับมายังไม่สาย
ที่สำคัญ ‘กุนซือใกล้ชิด’ ยังบอกว่า อะไรที่ ‘ดีล’ ไว้ อาจไม่เป็นจริงตามนั้น หวั่นว่าจะ ‘ถูกหลอก’ อีกหน และคราวนี้การเดินทางกลับเข้าไทย
เมื่อถึงสนามบิน จุดหมายปลายทางอาจเป็นที่ ‘เรือนจำ’ สักแห่งก็เป็นไปได้?
ปัจจุบันนับตั้งแต่ ‘ทักษิณ’ หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดาฯตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา เป็นเวลาเกือบ 16 ปีแล้วที่ไม่ได้เหยียบผืนแผ่นดินไทยอีก มีมาบ้างแค่เฉียด ๆ แถวประเทศเพื่อนบ้านให้บรรดาแกนนำ-ส.ส.เข้าไปกราบไหว้ คุยสัพเพเหระเรื่องการเมือง
แม้ว่าชื่อชั้นของ ‘ทักษิณ’ จะเปรียบเสมือน ‘ผู้นำทางจิตวิญญาณ’ ของ ‘เพื่อไทย’ และคอยให้คำปรึกษาหารือทั้ง ‘ทางลับ-ทางแจ้ง’ แก่พรรคอยู่บ่อยครั้ง
แต่ในช่วงปี 2563 มีการก่อกำเนิดของ ‘กลุ่มแคร์’ ซึ่งรวมพลอดีตคนใกล้ชิด ‘นายใหญ่’ ไว้ทั้งยวง ผนึกกำลังกับขั้วอำนาจ ‘คุณหญิงใหญ่’ เข้ายึดพรรคสำเร็จ
ส่งผลให้ ‘คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์’ เจ้าแม่เมืองหลวงและไพร่พล ต้องระเห็จจากพรรค ไปตั้งพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) มาสู้อยู่ตอนนี้
ปฏิบัติการดังกล่าว คนในพรรคขนานนามคีย์แมนกลุ่มแคร์บางคนเสียใหม่ว่าเป็นพวก ‘นักรบห้องแอร์’ นำโดย 2 หมอ พ่วงด้วยสายตรง ‘คุณหญิง’ ‘คุณ จ.’ คนใกล้ชิด ‘คุณหญิง’ เข้ามาคอยคอนโทรลพรรค จัดสรรผู้สมัคร ส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์
แม้ว่าในพรรคเพื่อไทยจะมีหลายกลุ่มขั้ว ไม่ต่างอะไรกับ ‘ไทยรักไทย’ ในอดีต ทั้ง ‘กลุ่มเชียงใหม่’ ที่ ‘เจ๊ ด.’ ยังมีบทบาทอยู่ กลุ่ม ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ที่ยังพอมีบทบาทอยู่บ้าง โดยคอยผลักดัน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ให้เข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกฯ
หรือแม้แต่สายตรง ‘ชินวัตร’ อย่าง ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ ที่มี ‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทัพก็ตาม แต่ยังไม่มีกลุ่มไหนมีพลังสู้ ‘นักรบห้องแอร์’ ได้
เพราะสุดท้ายสถานการณ์ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลุ่ม ‘นักรบห้องแอร์’ ที่เข้านอกออกในตั้งแต่สมัย ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ คอยรายงาน ‘นายใหญ่’ โดยตลอดว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร ควรเดินหมากแบบไหน
ทว่ามีบางเรื่องราวที่ถูกมองว่า ‘บอกไม่หมด’ ทำให้บางครั้งการตัดสินใจของ ‘ทักษิณ’ ผิดพลาดในทางการเมือง
แต่ถูกใจ ‘นักรบห้องแอร์’ จนทำให้หลายคนในพรรค ทั้งคนเก่าแก่ และคนรุ่นใหม่ออกอาการ ‘หมั่นไส้’
หากในท้ายที่สุด ‘ทักษิณ’ กลับมาได้จริง ภายในพรรคคงจะมีการเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ‘นักรบห้องแอร์’ จะยังสามารถผูกขาดอำนาจได้อีกหรือไม่
หลังกลุ่มขั้ว ‘อุ๊งอิ๊ง’ เข้ามามีอำนาจอย่างเต็มตัวแล้ว
นอกจากนี้บรรดากลุ่มขั้วอื่น ๆ มีสิทธิ์กลับมาลืมตาอ้าปากอีกครั้ง เช่น ‘เฮีย พ.’ นายทุนใหญ่ของพรรคมา 20 ปี ที่ถูก ‘นักรบห้องแอร์’ เขี่ยทิ้ง มีสิทธิ์หวนคืนสู่บทบาทนำในพรรคก็เป็นไปได้ รวมถึง ส.ส.สายอีสานหลายคน ที่ถูกมองข้ามในตอนนี้ อาจกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง
แต่ในข้อดีก็มีข้อเสีย เพราะหาก ‘ทักษิณ’ กลับมา หลายมุ้งหลายซุ้มในเพื่อไทยเตรียมขยับรอรับ เข้าพบ ‘นายใหญ่’ เพื่อหวังผลประโยชน์ สถานการณ์จะกลับไปเหมือนตอน ‘ไทยรักไทย’ ที่มีหลาย ‘วัง’ จนสุดท้ายพรรคแตกหลังเกิดรัฐประหารปี 2549 อีก
ถ้า ‘ทักษิณ’ พิจารณาไม่รอบคอบ เดินหมาก ‘ผิดตัว’ อาจส่งผลให้สถานการณ์ย่ำแย่กว่าที่เป็นอยู่ก็เป็นไปได้
ที่สำคัญยังมีผลคำพิพากษาอีกอย่างน้อย 3 คดีที่ถึงที่สุด โทษจำคุก 12 ปี รออยู่ รวมถึงชนักปักหลังอีกหลายคดี (ดูข้อมูลในอินโฟฯ ท้ายข่าว)
หากหวังกลับมาอย่างเท่ ๆ ไม่ต้องติดคุกแล้วล่ะก็ ความวุ่นวายในบ้านเมืองจะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
โอกาสสูงเปิดช่องให้เกิด ‘สถานการณ์จำเป็น’ ขึ้นมาอีก เหมือนปี 2549 และปี 2557
หรือสุดท้ายความหวังจะได้กลับแผ่นดินเลี้ยงหลาน จะต้องถูกพับไว้ตลอดกาล เป็นได้แค่ฝันกลางวันของคนสูงอายุเพียงเท่านั้น
อ่านเรื่องในหมวดเดียวกัน
- ทักษิณ คดีที่ 8! ป.ป.ช.ตั้งคณะใหญ่ไต่สวน อนุมัติซื้อเครื่องบิน 'การบินไทย' ไม่คุ้มค่า
- มี 5 คน ป.ป.ช.ตั้งคณะใหญ่ไต่สวนอนุมัติซื้อเครื่องบิน 'ทักษิณ-สุริยะ-พิเชษฐ-ทนง-กนก'
- เปิดสำนวนคมนาคม ชง ป.ป.ช. สอบบินไทยเจ๊ง 2.5 หมื่นล.-ยอดสินบน นักการเมือง-จนท. 2.6 พันล.
- ย้อนปมซื้อเครื่องบิน! ก่อน ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนฯ พบแอร์บัส A340 ส่วนต่าง 700 ล้าน
- ปิดหมดแล้ว! ธุรกิจ 'ทักษิณ' 5 แห่งในอังกฤษ ใช้ชื่อคฤหาสน์ 193 ล. ตั้งนามสกุลคลับเฮ้าส์?
- ตามรอย ทักษิณ 'LONDON-BUSINESSMAN' -แจ้งเลิกกิจการแล้ว 1 แห่ง?
- เปิดอีก 4 บริษัท ธุรกิจทักษิณ LONDON - BUSINESSMAN ชื่อ เอม-โอ๊ค ร่วมกก.ถือหุ้นด้วย
- เช็คธุรกิจทักษิณ LONDON- BUSINESSMAN ล่าสุด- 'อุ๊งอิ้ง'นั่งบริหารบ.อสังหาฯอีกแห่ง ทุน3ล.
- เปิดครบธุรกิจ 'ทักษิณ' in LONDON 12แห่ง! ตั้ง บ.ชินวัตร แฟมิลี่-ภริยาอดีตทูต ร่วมถือหุ้น